ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » จบความขัดแย้งตัดสินให้ราชนาวีส่งทีมลุยไทยลีก

จบความขัดแย้งตัดสินให้ราชนาวีส่งทีมลุยไทยลีก

Posted 24/12/2010 by siamsport

 

         จบคดีความขัดแย้ง ตัดสินให้ราชนาวีสโมสร เป็นฝ่ายได้สิทธิ์ในการส่งทีมเตะไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า แต่เงินลิขสิทธิ์ค่าถ่ายทอดสด จำนวน 1,250,000 บาท ขอยกให้กับระยองทั้งหมด เพราะมีใบมอบอำนาจจากฝั่งทหารเรือชัดเจน ซึ่ง นาวาเอก อโศก ศราสวัสดิ์ ย้ำชัดจ่ายเงินค่าเหนื่อยให้นักเตะเรียบร้อย และในฤดูกาลหน้าจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ บ.สยามนาวีลีกคลับ อีกทั้งยังให้ "ผู้การเรือง" เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว กุมบังเหียนต่อไป
 

สมาคมฟุตบอลฯ ตัดสินคดีนาวี


         เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ ได้มีการจัดประชุมกรณีปัญหาของราชนาวีสโมสร กับ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด โดย "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ รับหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ที่เดินทางมานั่งฟังการประชุมครั้งนี้ ซึ่งใช้เวลาร่วม 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้นการประชุม
         หลังจากที่เสร็จสิ้นการประชุม ทาง "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ได้แถลงว่า "วันนี้ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ชี้แจงในรายละเอียดของตนเองอย่างเต็มที่ แต่กลับไม่สามารถตกลงกันได้ ผมจึงได้ทำการอ่านกฎระเบียบสมาชิกสามัญต่างๆ เพื่อให้ได้รู้ว่าฝั่งไหนจะเป็นผู้ทรงสิทธิ์ และต้องขอบอกว่าตามหลักการ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ดำเนินตามกฎระเบียบภายใต้สมาคมฟุตบอลฯ ทำให้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของระเบียบใหม่"

      

มอบสิทธิ์ให้ราชนาวีสโมสร


         "ทำให้ราชนาวีสโมสรยังคงได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขันรายการ ต่างๆ ที่ทางสมาคมฟุตบอลฯ เป็นผู้จัดขึ้นมา และจะยังคงได้เล่นในไทยพรีเมียร์ลีกต่อไปในฤดูกาลหน้า เนื่องจากการทำสัญญาของทั้ง 2 ฝ่าย การโอนสิทธิ์ต่างๆ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ไม่ได้ทำเรื่องของสัญญา เอ็มโอยู (MOU) กับราชนาวีสโมสร หรือดำเนินเรื่องมาที่สมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งไม่เหมือนกรณีของ ธ.กรุงไทย กับบางกอกกล๊าส ที่ทำสัญญาทรงสิทธิ์อันจะทำให้สามารถฟ้องร้องกลับกันได้"

     

เตรียมนำเรื่องเข้าประชุมอีกครั้ง 24 ธ.ค.


               "อีกอย่างราชนาวีสโมสร มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องในชื่อ บ.ลูกประดู่นาวี ซึ่งทำตามนิติบุคคลและยังได้ทำการส่งเข้าร่วมการแข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีก ก่อนที่จะมีการเข้ามาร่วมงานกับ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด อีกทั้งในปีนี้ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาร่วมกับ จ.ระยอง ทำให้ความทรงสิทธิ์จึงตกไปอยู่กับราชนาวีสโมสร อีกทั้งเราจะนำเรื่องนี้เข้าไปที่ประชุมในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ เพื่อหาข้อสรุปให้ลงตัวมากที่สุด"

      

ค่าลิขสิทธิ์ 1.25 ล. ให้บ.ระยอง


              พร้อมกันนี้แม่บ้านสมาคมฟุตบอลฯ ยังได้เปิดใจถึงเรื่องเงินค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเลกสอง ของศึกสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 จำนวน 1,250,000 บาท ที่ยังไม่มีการมอบให้กับ 2 ฝ่าย ว่า "ตามที่เราได้ประชุมกัน ตกลงว่าค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในเลกสองของไทยพรีเมียร์ลีกนั้น เราจะทำการจ่ายให้กับ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ลีก เนื่องจากทางฝั่งราชนาวีสโมสรได้ทำใบการมอบอำนาจให้กับระยองเป็นที่เรียบ ร้อยแล้ว"

    

นาวีแจงจ่ายเงินนักเตะครบแล้ว


         ด้าน นาวาเอก อโศก ศราสวัสดิ์ เลขานุการอนุกรรมการฟุตบอลทหารเรือ ได้กล่าวถึงข่าวที่มีกระแสว่า ทีมยังไม่ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้กับนักเตะในทีม ตอนนี้เราได้ทำการจ่ายเงินเดือนกับเบี้ยเลี้ยงที่ค้างอยู่เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่เพียงเงินจากเอฟเอ คัพ 2 แสนบาท และโตโยต้า ลีก คัพอีก 1 แสนบาทเท่านั้น และเราเตรียมที่จะเรียกนักเตะเข้ามาหารือเพื่อเตรียมเบิกจ่ายกันในภายหลั

      

โอนนักเตะต่างชาติให้บ.ระยองฯ


              พร้อมกันนี้ เลขาฯ ของทีม ยังได้เปิดเผยถึงนักเตะต่างชาติที่หลายคนสงสัยว่าจะอยู่ในราชวีสโมสรหรือไม่ ตามที่เราได้ทำการตกลงกับ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ลีก ผู้เล่นต่างชาติทั้ง 5 คน ที่เล่นให้กับทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จะเป็นสิทธิ์ของทางฝั่งระยองที่จะบริหารเอง เนื่องจากระยองเป็นผู้ที่จ่ายเงินให้กับนักเตะเหล่านี้อยู่นั่นเอ

      

จดทะเบียนใหม่ชื่อ "สยามนาวีคลับ"


         ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ถามถึงการแยกตัวกับ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด แล้วนั้น ทางราชนาวีสโมสรจะจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นชื่อใด ซึ่ง นาวาเอก อโศก ศราสวัสดิ์ กล่าวว่า "เดิมทีเราใช้ชื่อ บ.ลูกประดู่นาวี ซึ่งหลังจากที่เราแยกตัวออกมาจากระยองแล้ว ทีมของเราได้จดทะเบียนใหม่เป็นชื่อ บ.สยามนาวีลีกคลับ เพื่อให้เป็นรูปแบบของมืออาชีพอย่างแท้จริง"

      

เล็งสนามหนองปรือ-สพล.ชลฯ


              ไม่เพียงเท่านั้นผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามถึงเรื่องสนามเหย้า ว่าจะกลับไปใช้สนามสัตหีบ กม.5 ดังเดิมหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าสนามแห่งนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุง ทำให้ตนได้แจ้งไปยัง อบจ.ระยอง เพื่อขอใช้สนามแห่งเดิม ตั้งแต่การแข่งขันเอฟเอ ยูธ คัพแล้ว แต่ถ้าทางระยองไม่ตอบตกลงข้อเสนอ ตนยังเตรียมตัวเลือกไว้อีก 2 ที่ นั่นคือ สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ ของสโมสรพัทยา ยูไนเต็ด กับสพล.ชลบุรี ของสโมสรชลบุรี เอฟซ

       

บอกให้ "น.อ.เรืองฤทธิ์" คุมทัพต่อ


              ในส่วนของตัวกุนซือที่จะเข้ามาคุมทีม เนื่องจากเคยมีข่าวออกมาก่อนหน้านั้นว่า ทาง "ผู้การเรือง" น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว ได้ขอลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว ซึ่งทางราชนาวีสโมสรจะหาใครมาคุมทีมต่อไป "เราได้เอาเรื่องนี้เข้าไปประชุมในบอร์ดบริหารแล้ว โดยเราจะให้ น.อ.เรืองฤทธิ์ คุมทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า และตอนนี้เขาได้เข้ามาคุมทีมฝึกซ้อมเรียบร้อยแล้ว"

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »