นางแบบก้านยาว โย ยศวดี หัสดีวิจิตร  รับ มีปากเสียง โอเด็ต เฮนเรียต แจ็คโคมิน  หลัง โกหกต่อหน้าสื่อ ว่าใช้หนี้ครบแล้ว แจงเพิ่งได้เงินครบหลังอีกฝ่ายให้สัมภาษณ์ ยันไม่เคยขอโทษหรือให้ข่าวท้องตามที่ โอเด็ต อ้าง ออกปาก เข็ด ไม่ช่วยเหลือใครอีกแล้ว เพราะกลัวเสียเพื่อน พร้อมยืนคำขาดถ้า สาวโอเด็ต ไม่ปรับปรุงตัวก็ ต่างคนต่างอยู่!!!

 
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นางแบบลูกครึ่ง โอเด็ต เฮนเรียต แจ็คโคมิน ติดหนี้ ตอนนี้ได้ใช้หนี้ครบหรือยัง  โย ยศวดี  เปิดใจว่า

 
"'ก็หลังจากที่เขาให้สัมภาษณ์อาทิตย์ที่แล้ว เขาสัมภาษณ์ว่าให้ครบแล้ว วันนั้นเลยได้คุย ยอมรับว่ามีปากเสียงกัน ถ้าบอกว่าจ่ายครบแล้วจริงให้เวลา 3วัน ถึง 3 วัน เขาก็เอาเงินมาคืนทั้งหมด คือแค่ไม่เข้าใจ ตอนที่เขาบอกว่าเขาขอเวลาและผ่อนผันขอจ่ายเดือนละหมื่น แล้วเขาไม่ได้บอกว่าเขาจะมาเมืองไทย จนมาเห็นอีกทีคือออกข่าวแล้ว เราก็คุยว่าทำไมพูดแบบนี้ เขาบอกว่าสัมภาษณ์เยอะ ตั้งตัวไม่ทัน แล้วคำพูดก็เอาไปเรียบเรียงผิด แต่โยยังไม่เห็นข่าว มีฟังจากคนโทรมาเล่า''

 
''เขาก็บอกว่าให้พี่โยกลับไปดูใหม่ เขาไม่ได้พูดอย่างนั้น นักข่าวเอาคำไปแปรเปลี่ยนอีกประโยคนึง ซึ่งจริงๆ เขาก็บอกว่าขอโทษพี่โย ไม่อยากจะสร้างความเดือดร้อน แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว กลับมาก็จะเคลียร์ทั้งหมด แต่ข่าวไปเขียนว่าโยขอโทษเขา แล้วเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่บังเอิญว่ามีคนส่งวิดีโอคลิปให้ดูว่าเขาพูดจริงน่ะ (หัวเราะ)"

 
''พอเป็นแบบนี้ก็น้อยใจนะ ก็คาดหวังว่าเขาคงจะคิดได้ ทำอะไรให้มันดีกว่านี้ ตัวโยไม่ได้มีปัญหาส่วนตัว แต่เหนื่อยมากกว่า และพอเคลียร์ได้จบ มันก็ควรจะจบแล้ว แต่การที่เขามาพูดแบบนี้ มันกลายเป็นอีกเรื่องนึง เราก็เสียความรู้สึก คือตอนที่อ้าปากพูดว่าโอเค งั้นพี่ขอคืนทั้งหมดเลยแล้วกัน เขาบอกว่าเขายังไม่พร้อม เราบอกว่าพี่ไม่รอแล้วพี่ให้เวลา 3 วัน วันนั้นรู้สึกเป็นวันเสาร์ วันอังคารตอนเย็นเขาก็โอนเงินมา"
 

พอถามต่อไปว่าแล้วความสัมพันธ์ โอเด็ต เฮนเรียต แจ็คโคมิน ณ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง โย ยศวดี เปรยว่า

 
"พูดตรงๆ ว่าพี่ๆ ในวงการแฟชั่นทุกคนบอกว่าพอแล้ว อย่าไปปวดหัวอีก เพราะตลอดเวลา 10 ปีทุกคนคนรู้ดีที่สุดว่าเราคอยช่วยเหลือเขาแค่ไหนเวลาที่เขามีปัญหา เวลาที่เขาไม่มาทำงาน มีแต่เราที่รับหน้าแทน พอมาวันนี้ทุกคนบอกว่าพอ หยุด ไม่ต้องยุ่งแล้ว คือโดยส่วนตัวไม่มีปัญหา ยืนยันไม่ได้โกรธ ทำงานได้  เพียงแต่เรื่องส่วนตัวประมาณนึงค่ะ"
 

''เขามีติดเงินใครอีกหรือเปล่าอันนี้โยไม่ทราบ แล้วตามข่าวที่บอกว่าเราไปพูดเรื่องเขาท้องเรื่องหรืออะไรต่างๆ โยไม่เคยพูด โดยส่วนตัวไม่เคยคุยกับเขาเลย ยังไม่เคยคุยเป็นเสียงเลย คถยแต่บีบีอย่างเดียว เราคุยแต่เรื่องเงินไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัว การที่เขาพูดแบบนี้โยว่าคนอ่านคงคิดได้ แต่เราเสียความรู้สึก (ตัดเลยมั้นเพื่อนคนนี้?) ใช้คำนั้นก็หนัก มันเป็นปัญหาเล็กน้อย เอาเป็นว่าให้เขากลับตัวเขาเองบ้างดีกว่า จะขอใช้เวลาดูว่าในอนาคตเขาจะโตขึ้นมั้ย จะเปลี่ยนความคิดได้มั้ย ถ้าไม่ได้ก็คงต่างคนต่างอยู่ (ต่อไปจะให้ใครยืมเงินอีกหรือเปล่า?) ไม่เอาแล้ว เข็ด...เรื่องเงินทำให้เสียเพื่อน ถ้าไม่ใช่พี่น้องกันจะไม่ช่วยเหลืออะไรอีกแล้ว มันทำให้เพื่อนแตกกันมาหลายคนแล้วเท่าที่เห็น"