"ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน ฟอร์มยังร้อนแรง เมื่อออกไปคว้าชัยเหนือ "ม่วงมหากาฬ" ฟิออเรนติน่า 2-1 โดยท้ายเกม มิลาน เหลือผู้เล่น10คน หลัง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ถูกไล่ออก แต่ก็รักษาสกอร์ไว้ได้ ทำให้ มิลาน เก็บเพิ่มเป็น 68 คะแนน นำฝูงต่อ ทิ้ง นาโปลี อันดับสอง ที่บุกซิว โบโลญญ่า 2-0 อยู่ที่สามแต้มเท่าเดิม

โบโลญญ่า 0 - 2 นาโปลี

สนาม:เรนาโต้ ดัลลาร่า

         โบโลญญ่า เจอศึกหนักในการเปิด สตาดิโอ เรนาโต้ ดัลลาร่า รอรับ นาโปลี โดยเจ้าถิ่นมีการปรับทัพในบางตำแหน่ง คู่หน้าส่ง ดานิเอเล่ ปาโปนี่ ลงล่าตาข่ายกับ มาร์โก ดิ วาโญ่ ส่วนทีมเยือนเจอปัญหาที่ เอดินสัน คาวานี่ ติดโทษแบน แต่ยังมี มาเร็ค ฮัมซิค กับ เอเซเกล ลาเวซซี่ เป็นตัวทีเด็ด

         พลพรรค "อัซซูร่า" โหมบุกทันที อันเดรีย ดอสเซน่า หลุดขึ้นมาทางซ้าย ก่อนไหลเข้ากลางให้ ลาเวซซี่ สอดเข้ามาล้มตัวยิง บอลเหินข้ามคานออกหลังไป

         โอกาสเป็นของผู้มาเยือนอีกครั้ง คริสเตียน มาจโจ้ ครอสจากฝั่งขวาจะให้ ดอสเซน่า ที่เสาสอง แต่โดน อันโตนิโอ บุสเช่ เบียดล้มในกรอบเขตโทษ โดยที่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร

         ลูกทีมของ วอลเตอร์ มาซซาร์รี่ มาได้ประตูสมใจในนาทีที่ 30 จากจังหวะที่ มาจโจ้ เปิดจากขวาให้ ลาเวซซี่ แตะไขว้หลัง เอมิเลียโน่ วิเวียโน่ ออกมาปัดไม่ดี บอลไปตกที่หน้า จูเซ็ปเป้ มาสคาร่า ซัดจ่อๆ ไม่เหลือ ขึ้นนำ 1-0

         จากนั้นทีมเยือนมาได้จุดโทษในช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก เมื่อ ฮัมซิค หลุดกัปดักล้ำหน้า ก่อนใจกว้างจ่ายให้ ลาเวซซี่ เลี้ยงไปโดน วิเวียโน่ สกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ทันที และเป็น ฮัมซิค ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด จบ 45 นาทีแรก นาโปลี ออกนำไปก่อน 2-0

         ครึ่งหลัง อัลแบร์โต้ มาเลซานี่ เสริมแนวรุกด้วยการถอด อัลบิน เอ็คดัล ออก พร้อมกับส่ง ริคคาร์โด้ เมจจอรินี่ ลงมาเป็นกองหน้าคนที่สาม

         "รอสโซ่บลู" เกือบได้เหมือนกัน บอลยาวจากแดนหลัง ดิ วาโญ่ หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าไปแตะหลบ มอร์แกน เด ซานช์ติส แล้ว แต่กลับยิงเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

         นาทีที่ 64 ลาเวซซี่ กระชากหลุดขึ้นไปทางขวา ก่อนตัดสินใจยิงยัดที่เสาแรก กระนั้น วิเวียโน่ ยังทุบทิ้งไปได้ทัน

         เกมของ โบโลญญ่า เริ่มดีขึ้น อันโตนิโอ บุสเช่ ครอสไปเสาสองให้ ดิ วาโญ่ สอดขึ้นมาชาร์จหลุดกรอบไปเพียงนิดเดียว

         ช่วงท้าย นิโกโล่ เครูบิน มีโอกาสเก็บตกส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่ เด ซานช์ติส เหินปัดข้ามคานได้อย่างยอดเยี่ยม จบเกม นาโปลี บุกมาชนะ 2-0 แซง อินเตอร์ มิลาน กลับขึ้นไปรั้งอันดับ 2 ของตาราง พร้อมทำแต้มเท่า เอซี มิลาน เป็นการชั่วคราว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

     โบโลญญ่า : เอมิเลียโน่ วิเวียโน่; วานเจลิส โมราส, ดานิเอเล่ ปอร์ตาโนว่า, นิโกโล่ เครูบิน; อันโตนิโอ บุสเช่, ดีเอโก้ เปเรซ, กาบี้ มูดินกายี่, อาร์คิเมเด้ มอร์เลโอ (มัตเตโอ รูบิน น.57); อัลบิน เอ็คดัล (ริคคาร์โด้ เมจจอรินี่ น.46); ดานิเอเล่ ปาโปนี่ (ฟรานเชสโก้ เดลลา ร็อคค่า น.78), มาร์โก ดิ วาโญ่

     นาโปลี : มอร์แกน เด ซานช์ติส; อูโก้ คัมปันญาโร่, เปาโล คันนาวาโร่, บิคตอร์ รูอิซ; คริสเตียน มาจโจ้, มิเคเล่ ปาซิเอนซ่า, ฮัสซัน เย็บด้า, อันเดรีย ดอสเซน่า; มาเร็ค ฮัมซิค (วอลเตอร์ การ์กาโน่ น.77), จูเซ็ปเป้ มาสคาร่า (ฮวน ซูนิก้า น.60); เอเซเกล ลาเวซซี่ (คริสเตียโน่ ลูคาเรลลี่ น.86)
 

ยูเวนตุส 3 - 2 เจนัว

สนาม:โอลิมปิโก ตูริน

        ยูเวนตุส เปิด สตาดิโอ โอลิมปิโก ที่ตูริน รอรับ เจนัว โดยเจ้าถิ่นต้องขาด ฟาบิโอ กรอสโซ่ ที่ติดโทษแบน รวมถึง จานลุยจิ บุฟฟ่อน ที่ยังไม่หายเจ็บ เกมรุกฝากความหวังไว้กับ อเลสซานโดร มาตรี เหมือนเดิม ส่วนทีมเยือนไม่มี โดเมนิโก้ คริสชิโต้ ที่ถูกพักแข้งเช่นกัน กองหน้าส่ง อันโตนิโอ ฟลอโร่ ฟลอเรส จับคู่ล่าตาข่ายกับ อัลแบร์โต้ ปาลอสคี่

         เกมผ่านมาเพียง 7 นาที "กริโฟเน่" มาได้ประตูไปก่อนแบบโชคช่วย เมื่อ ลูก้า อันโตเนลลี่ ครอสจากฝั่งซ้ายเข้ากลาง แต่กลับเป็น เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ที่สกัดบอลเปลี่ยนทางเข้าไปตุงตาข่ายตัวเอง ขึ้นนำ 1-0

         โดนแบบนี้เข้าไปเจ้าบ้านพยายามตอบโต้ เฟลิเป้ เมโล่ ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ กระนั้นยังไม่เกินความสามารถของ เอดูอาร์โด้

         นาทีที่ 24 "ม้าลาย" มาได้ฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้าย ซิโมเน่ เปเป้ หลอกยิงทันที บอลยังไม่ผ่านมือ เอดูอาร์โด้ เหมือนเดิม

        จากนั้นเจ้าบ้านน่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุด จากลูกเตะมุม อันเดรีย บาร์ซาญี่ โหม่งชงให้ โบนุชชี่ ขึ้นโขกจ่อๆ แต่ เอดูอาร์โด้ ซูเปอร์เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม

         ท้ายครึ่งแรก มาร์โก ม็อตต้า โยนจากฝั่งขวาให้ เปเป้ สอดเข้ามาโหม่งตัดหน้า จานโดเมนิโก้ เมสโต้ บอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย จบ 45 นาทีแรก เจนัว ออกนำไปก่อน 1-0

         เปิดฉากครึ่งหลังไม่กี่วินาที เปเป้ ลากตัดจากซ้ายเข้ากลางแล้วสับไกเต็มข้อ แต่ เอดูอาร์โด้ ยังเหินปัดไว้ได้ด้วยมือเดียว

         อย่างไรก็ตาม ยูเว่ มาได้ประตูตีเสมอสมใจเป็น 1-1 ในนาทีที่ 55 จากจังหวะที่ อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ โยนจากฝั่งขวาให้ เปเป้ สะบัดโหม่งแฉลบ มาร์โก รอสซี่ เปลี่ยนทางเข้าไปตุงตาข่ายตัวเองบ้าง

         พลพรรค "เบียงโคเนรี่" เริ่มได้ใจ มาตรี แตะให้ มิลอส คราซิช หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยขวา คราวนี้ เอดูอาร์โด้ ซูเปอร์เซฟไว้ได้อีกครั้ง

        นาทีที่ 57 กลับเป็นผู้มาเยือนที่ขึ้นนำอีกหนเป็น 2-1 เมื่อ อันโตเนลลี่ เปิดจากซ้ายให้ ฟลอโร่ ฟลอเรส จับหนึ่งจังหวะแล้วซัดเสียบเสาในเข้าไป หมดสิทธิ์สำหรับ มาร์โก สโตรารี่

         6 นาทีต่อมา ลูกทีมของ ลุยจิ เดล เนรี่ ตามตีเสมอเป็น 2-2 อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ โยนจากซ้ายเข้ากลาง ลูก้า โทนี่ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง แตะคืนหลังให้ มาตรี ยิงด้วยขวาเสียบตาข่ายไม่เหลือ

        เจ้าถิ่นโหมบุกหนัก โทนี่ ไหลคืนให้ เปเป้ หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ เอดูอาร์โด้ ยังเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

        ความพยายามของ ยูเว่ มาเป็นผลในนาทีที่ 83 จากจังหวะที่ อาควิลานี่ ไหลให้ โทนี่ วิ่งเบียดไปกับ ดาริโอ ดาอิเนลลี่ ก่อนยิงสวน เอดูอาร์โด้ เข้าไป พลิกแซงนำเป็น 3-2

         เจนัว มีโอกาสในช่วงท้าย จากลูกเตะมุม คาค่า คาลัดเซ่ โหม่งตั้งให้ ฟลอโร่ ฟลอเรส วอลเลย์ข้ามคานไปแบบได้เสียว จบเกม ยูเว่ เฉือนชนะหวุดหวิด 3-2 คว้าชัย 3 นัดติดต่อกันได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

     ยูเวนตุส : มาร์โก สโตรารี่; มาร์โก ม็อตต้า (เฟรเดริก โซเรนเซ่น น.62), อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่; อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, เฟลิเป้ เมโล่ (ลูก้า โทนี่ น.62), เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ; มิลอส คราซิช, อเลสซานโดร มาตรี, ซิโมเน่ เปเป้ (ฮอร์เก้ มาร์ติเนซ น.78)

      เจนัว : เอดูอาร์โด้; จานโดเมนิโก้ เมสโต้, ดาริโอ ดาอิเนลลี่, คาค่า คาลัดเซ่, เอมิเลียโน่ โมเร็ตติ; มาร์โก รอสซี่, อับดูลาย กงโก, โอมาร์ มิลาเน็ตโต้ (เอเนจ์ เยเลนิช น.81), ลูก้า อันโตเนลลี่ (ชีโก้ น.67); อันโตนิโอ ฟลอโร่ ฟลอเรส, อัลแบร์โต้ ปาลอสคี่ (โรดริโก้ ปาลาซิโอ น.69)

สรุปผลกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี
- ยูเวนตุส ชนะ เจนัว 3-2
- กายารี่ เสมอ เบรสชา 1-1
- บารี่ เสมอ คาตาเนีย  1-1
- ปาแลร์โม่ เสมอ เชเซน่า  2-2
- ซามพ์โดเรีย แพ้ เลชเช่  1-2
- โบโลญญ่า แพ้ นาโปลี  0-2
- ลาซิโอ ชนะ ปาร์ม่า 2-0
- ฟิออเรนติน่า แพ้ เอซี มิลาน 1-2