"เรือดำน้ำ" บียาร์เรอัล ทีมหัวแถวลีกกระทิงดุ เปิดรังบดเก็บชัยเหนือ ปอร์โต้ สุดมันส์ 3-2 แต่เมื่อรวมผลสองนัดเต็งหนึ่งของรายการปอร์โต้ ผ่านเข้าชิงชนะเลิศด้วยประตูรวม 7-4 จะไปชิงดำกับ บราก้า ในวันพุธที่ 18 พ.ค.นี้ ที่สนาม อาวีว่า สเตเดี้ยมในกรุง ดับลิน ประเทศไอร์แลนด์

ฟุตบอล ยูโรปา ลีก

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2554

รอบรองชนะเลิศ นัดสอง

บียาร์เรอัล (สเปน)  3  -  2  ปอร์โต้ (โปรตุเกส)

(รวมผลปอร์โต้เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 7-4)

สนาม : เอล มาดริกัล
 

        "เรือดำน้ำ" บียาร์เรอัล ทีมแกร่งแดนกระทิงดุ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของปอร์โต้ แชมป์จากแดนฝอยทอง โดยเกมแรก พ่ายมาถึง 1-5 แต่ ฆวน การ์ลอส การ์ริโด้ กุนซือยังไม่ถอดใจ เกมนี้ส่ง 3 กองหน้าลงสนามทั้ง รอสซี่, นิลมาร์ และรูเบน ฝั่งทีมเยือนมี ราดาเมล ฟัลเกา หัวหอกจอมฮอต ที่ซัดคนเดียว 4 เม็ดในเกมแรกประสานงานกับ ฮัลค์ แข้งบราซิเลียน

        เปิดฉากมาแค่ 4 นาที มาริโอ กาสปาร์ เปิดเข้ากลางให้รูเบนขึ้นโหม่ง ข้ามคานนิดเดียว อีก 2 นาที กาซอร์ล่าตะบันฟรีคิก เฮลตันทุบออกมาได้ กานี่ ได้โอกาสยิง ไม่ผ่านมือเฮลตันอีก

        กระทั่งนาที 17 บียาร์เรอัลขึ้นนำ 1-0 ได้อย่างหวัง จากจังหวะที่รูเบนกระชากมาหน้าประตูฝั่งซ้าย ก่อนตบเข้ากลางให้กานี่ซัดเน้นๆ ตุงตาข่าย

        นาที 21 รูเบน หลุดมาซัดด้วยซ้าย แต่ยิงหลุดเสาสองไปเอง อีก 2 นาที รอสซี่สับไกด้วยซ้าย เฮลตันปัดได้อีก

        นาที 40 ปอร์โต้ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้อย่างมีโชค ฮัล์คได้บอลเลี้ยงเข้าหาหน้าประตู ก่อนซัดด้วยซ้าย บอลแฉลบมูซัคชิโอ เปลี่ยทางเข้าประตู ทำให้แฟนเจ้าถิ่นคอตกกันเป็นแถบ

        ช่วงทดเจ็บ ฮัลค์เกือบซัดให้ปอร์โต้นำ หลังหลุดเข้ามายิงด้วยซ้าย โลเปซใช้ขาสกัดไว้ได้ แต่จากนั้นแค่อึดใจ นิลมาร์กระชากมาทางซ้ายตัดเข้าใน ก่อนตะบันด้วยขวา บอลฉากเสานิดเดียว จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 1-1

        เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่ถึงนาที เจ้าบ้านก็ได้โอกาสเลย นิลมาร์ แตะบอลอ้อมตัว นิโกลัส โอตาเมนดี้ เข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา แล้วยิงอัดมุมแคบเข้าไปที่เสาแรก แต่ก็ไม่ผ่านมือ เอลตัน ที่ยืนปิดมุมได้ดี

        เป็นทีมเยือนที่ได้สวนกลับในนาทีที่ 48 เฟรดี้ กวาริน เปิดบอลจากด้านซ้ายข้าม บรูโน่ โซเรียโน่ ไปเข้าเท้า ฟัลเกา จับบอลลงอย่างนิ่มนวลแล้วยิงสวนทาง ดีเอโก้ โลเปซ เข้าประตูไป ปอร์โต้ พลิกขึ้นนำ 2-1 และนับเป็นประตูที่ 16 ในรายการนี้ของดาวยิงทีมชาติ โคลัมเบีย

        แม้จะโดนนำแต่ บียาร์เรอัล ยังบุกอยู่ นาทีที่ 51 มาริโอ กาสปาร์ พักอกแล้ววอลเล่ย์จากนอกกรอบ บอลพุ่งแรงเกือบเสียบเสาทางด้านขวาแต่ เอลตัน พุ่งปัดได้สุดปลายมืออย่างสุดยอด

        เกมของเจ้าบ้านดูเนือยลง ในขณะที่ทีมเยือนดูจะคึกคักกว่า นาทีที่ 64 กวาริน ส่องฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายกว่า 30 หลา ดีเอโก้ โลเปซ ปัดได้แต่บอลพุ่งชนคานเข้าอย่างจัง

        นาทีที่ 66 บียาร์เรอัล เปลี่ยนตัวผู้เล่นเป็นคนสุดท้ายด้วยการส่ง มาร์กอส เซนน่า มิดฟิลด์ตัวรับที่บาดเจ็บต้นขาจนหายหน้าไปนานลงสนามแทน นิลมาร์ ที่เล่นไม่ออก

        บียาร์เรอัล มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 74 รูเบน กานี โยนบอลจากด้านขวาไปที่เสาไกล โจน คัปเดบีล่า พักอกก่อนยิงด้วยเท้าซ้ายเสียบเสาด้านซ้ายเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

        นาทีที่ 79 เจ้าบ้านมาได้จุดโทษ ในจังหวะที่ โอตาเมนดี้ พุ่งตัวไปขวาง มาร์โก รูเบน ที่กำลังหลุดเดี่ยวล้มลง แล้วเป็น รอสซี่ รับหน้าที่สังหารนิ่มๆเข้าประตูไปให้ บียาร์เรอัล ขึ้นนำ 3-2

        เวลาที่เหลือ เจ้าบ้านยังบุกเพื่อเอาใจแฟนบอล แต่ทำได้แค่หวาดเสียว ทำให้จบเกม บียาร์เรอัล เฉือนเอาชนะ ปอร์โต้ ไปหวุดหวิด 3-2 รวมผลสองนัด ปอร์โต้ ชนะไป 7-4 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศในวันพุธที่ 18 พ.ค.นี้ ที่สนาม อาวีว่า สเตเดี้ยมในกรุง ดับลิน ประเทศไอร์แลนด์

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        บียาร์เรอัล : ดีเอโก้ โลเปซ, มาริโอ กาสปาร์, บรูโน่ โซเรียโน่, มาเตโอ มูซัคคิโอ, โจน กัปเดบีล่า, หลุยส์ มาร์ตี้, ซานติอาโก้ กาซอร์ล่า, รูเบน กานี่, นิลมาร์, จูเซ็ปเป้ รอสซี่, มาร์โก รูเบน

        สำรอง : ฆวน การ์ลอส, มาร์กอส เซนน่า, วากาโซ่ มูบารัค, การ์ลอส มาร์เชน่า, บอร์ฆ่า บาเลโร่, ซิซินโญ่, โจน ออริโอล

        ปอร์โต้ : เฮลตัน, คริสเตียน ซาปูรานู, โรลันโด้, นิโกลัส โอตาเมนดี้, อัลแบร์โต้ เปเรยร่า, เฟร์นานโด, เจา มูตินโญ่, เฟรดี้ กัวริน, ฮัล์ค, ราดาเมล ฟัลเกา, คริสเตียน โรดริเกซ

        สำรอง : อัลแบร์โต้ เบโต้, เจมส์ โรดริเกซ, ดิอัส ซูซ่า, ฟอนเซก้า เซเรโน่, วอลเตอร์, รูเบน มิกาเอล, โรเก้ ไมค่อน

        ผู้ตัดสิน : จานลูก้า รอคคี่ (อิตาลี)

สรุปผล ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
- บราก้า  ชนะ เบนฟิก้า  1-0 (รวมผลสองนัด เสมอ 2-2 ,บราก้าเข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)
- บียาร์เรอัล ชนะ ปอร์โต้ 3-2 (รวมผลสองนัด ปอร์โต้เข้ารอบด้วยประตูรวม 7-4)