"โย" เผยยังไร้สัญญาณตอบรับจาก "โอเด็ต" บอกอีกฝ่ายอาจยังทำใจไม่ได้เรื่องแม่เสีย ย้ำตอนนี้ไม่ติดใจอะไรแล้ว พร้อมปฏิเสธเสียงหลงเปล่าเป็นต้นเหตุทำให้อีเว้นท์ไม่จ้างโอเด็ต แจงเป็นการตัดสินใจของลูกค้า ยันถ้าเพื่อนกลับมาทำงานก็ยินดีต้อนรับอยู่แล้ว
      
ถึงแม้จะมีเรื่องบาดหมางกันอยู่ แต่ในวันที่แม่ของ "โอเด็ต เฮนเรียต แจ็คโคมิน" เสีย "โย ยศวดี หัสดีวิจิตร" ก็ ได้ส่งแมสเสจแสดงความเสียใจพร้อมทั้งส่งพวงหรีดไปให้ เพื่อให้กำลังใจเพื่อน แต่เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ปัจจุบันโยก็บอกว่าอดีตเพื่อนซี้ยังเงียบอยู่ แต่ก็เข้าใจว่าคงยังเสียใจกับการสูญเสียคุณแม่อยู่ พร้อมปัดข่าวเป็นต้นเหตุให้อีเว้นท์ไม่จ้างโอเด็ต
      
"เอาจริงๆ คือไม่ได้คุยเลยค่ะ เพราะว่าตั้งแต่คุณแม่เขาเสีย ก็ส่งแมสเสจไป ส่งพวงหรีดไป ว่าจะไปงานก็ไม่ได้ไป บอกตรงๆ ว่าไม่ได้ไป ฟีดแบคจากเขาก็ไม่มีเลย ไม่มีโทรหรืออะไร เราก็ไม่ได้โทรไปด้วยแหละ แต่่ว่าจากเพื่อนๆ ก็ไม่มีใครพูดอะไรเลยค่ะ"
      
เมื่อถามว่าเหมือนความสัมพันธ์ต่อไม่ติดแล้วหรือเปล่า? เจ้าตัวก็แจงว่า…
      
"โยเคยพูดไปแล้วนะว่าตัวโยเองไม่มีอะไร แต่โยว่าช่วงนี้เขาก็อาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่หนักพอสมควร เรื่องของเราเลยดูเล็กน้อยมาก เรื่องเงินอะไรก็จบไปนานแล้ว (แต่ออแกไนซ์ก็ยังไม่กล้าจ้างงานโอเด็ต?) อันนี้ต้องให้ออแกไนซ์เป็นคนผู้ตัดสิน (เป็นเพราะเราหรือเปล่า?) ว้าย… ไม่หรอก มันก็มีข่าวทั้งดีและไม่ดี แต่ว่า ณ ตรงนี้ทุกคนที่มีข่าวไม่ดี ก็ต้องมีการแก้ไข ก็ต้องให้เวลาเขา งานมันก็ไม่ใช่เรื่องปุบปับว่าจะจ้างทันที ต้องใช้เวลา"
      
"ทุกวันนี้ก็ยินดีต้อนรับอยู่แล้วนะ แม้แต่ช่วงที่คุณแม่เขาเสีย ไม่งั้นเราก็ไม่เป็นฝ่ายที่โทรไปหาเขา คือสำหรับตัวโยไม่มีอะไร เราก็ทำตัวเป็นพี่ ตอนนั้นกับตอนนี้ก็ต่างกัน ช่วงเรามีปัญหาเราก็เครียด มาถึงเวลานี้เราบอกตรงๆ ว่าเราเคลียร์หมดแล้วนะ เห็นใจเขา เพราะการสูญเสียแม่ก็คงหนักพอสมควร”
      
ยังไร้วี่แววจากอีกฝ่าย ตอนนี้เปิดใจหากจะกลับมาเหมือนเดิม
      
"ไม่ทราบความเคลื่อนไหวจริงๆ เพราะเฟซบุ๊คอะไรก็ไม่มี จริงๆ ก็เคยมีเพื่อนที่โยเคยติดต่อกันอยู่ช่วงหนึ่งนะคะ ช่วงที่มีปัญหากัน แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนเขาคนนั้นเลย สำหรับโอกาสที่จะกลับมาเหมือนเดิมสำหรับโยบอกเลยว่าโยเปิดใจมากๆ พูดจากใจไม่ใช่ว่าพูดต่อหน้าสื่อ แม้ว่าจะเจอเขาแค่สองคนโดยที่ไม่มีใครอยู่เลย ก็ยังยืนยันคำพูดเดิมว่าโยไม่มีอะไร คืออยากให้กำลังใจมากกว่าเพราะไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่านี่คือคำพูดจากใจโยจริงๆ ว่าให้กำลังใจเขา"