บุญยังพอมี...ซาดี้ กัดดาฟี่ อดีตดาวเตะ เปรูจา ที่เป็นถึงลูกชายจอมเผด็จการลิเบียผู้ล่วงลับ ดวงยังไม่ถึงฆาต เมื่อ ไนเจอร์ ประกาศรับรองสถานภาพผู้ลี้ภัยให้เรียบร้อย อ้างเหตุผลด้านมนุษยธรรมค้ำจุนโลก แถมยืนยัน ไม่จับตัวส่งบ้านเกิดแต่อย่างใด หลังก่อวีรเวรมากมาย จนโดนตำรวจสากลออกหมายจับในฐานะผู้ ร้ายข้ามแดนอยู่ในเวลานี้

ซาดี้ กัดดาฟี่ อดีตกองหน้า เปรูจา สโมสรฟุตบอลอิตาลี บุตรชายคนที่ 3 ของ พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี่ ผู้นำจอมเผด็จการของลิเบียผู้ล่วงลับไปแล้วจากการโดนยิงที่ศีรษะ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังถูกฝ่ายต่อต้านจับตัวเอาไว้ได้ ส่อแววอาจจะไม่ต้องตายอนาถตามบิดาไปด้วยแล้ว เมื่อ ไนเจอร์ ชาติแอฟริกาตะวันตก อ้าแขนต้อนรับในฐานะผู้ลี้ภัยอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว

ประธานาธิบดีมาฮามาดู อิสซูฟี่ ของไนเจอร์ ประกาศว่า ได้ตัดสินใจรับรองสถานะความเป็นผู้ลี้ภัยให้กับอดีตนักฟุตบอลเสือไบ (ไบเซ็กช่วล หมายถึง รสนิยมทางเพศแบบสองทาง ผู้หญิงก็ได้ ผู้ชายก็ดี) รายนี้ บนพื้นฐานของมนุษยธรรม และคงจะไม่มีการส่งตัวกลับบ้านเกิดในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนค่อนข้างแน่ รวมทั้ง 3 นายพล และชาวลิเบียอีก 3 คนที่ติดตาม กัดดาฟี่ผู้ลูก เข้ามายังพรมแดนของไนเจอร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็จะได้รับการปฏิบัติในฐานะผู้ลี้ภัยด้วยเช่นกัน

"เราเห็นชอบให้ ซาดี้ กัดดาฟี่ ลี้ภัยได้ด้วยเหตุผลทางด้านมนุษยธรรม เราชี้แจงอย่างชัดเจนไปแล้วว่า พวกเขาไม่ควรจะดำเนินการทางการเมือง หรือกิจกรรมบ่อนทำลายใดๆ ทั้งสิ้น เราจะต้อนรับ ซาดี้ ด้วยเงื่อนไขเดียวกันกับเงื่อนไขของผู้ลี้ภัยจากลิเบียคนอื่นๆ" อิสซูฟี่ ระบุ

ซาดี้ ที่เกิดเมื่อวันที่ 25 พ.ค.1973 ในฐานะหนึ่งในลูกชายทั้งหมด 7 คน ของ กัดดาฟี่ผู้พ่อ ที่ยังมีลูกสาวอีก 1 คน จากภรรยาทั้งหมด 2 คนนั้น เป็นทั้งนักธุรกิจ และอดีตนักฟุตบอล รวมทั้งยังเคยเป็นผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษของลิเบีย และมีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามกลางเมืองของลิเบียในปี 2011 อีกด้วย ก่อนที่จะต้องหลบหนีออกมาจากบ้านเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยที่องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเทอร์โปล) หรือตำรวจสากล ได้ออกหมายจับเจ้าตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนอยู่ในเวลานี้

ในส่วนของฟุตบอลนั้น ลูกชายกัดดาฟี่ วัย 38 ปี ถือว่า มีฝีเท้าพอตัว เมื่อติดทีมชาติลิเบีย 18 นัด ยิงได้ 2 ประตู แต่ในแง่คุณภาพยังไม่ดีพอสำหรับการลงเล่นในระดับ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี โดยเจ้าตัวอาศัยอิทธิพลทางการเมืองของบิดา ในการเซ็นสัญญากับ เปรูจา (2003–2004 ลงเล่น 1 นัด), อูดิเนเซ่ (2005–2006 ลงเล่น 1 นัด) และ ซามพ์โดเรีย (2006–2007 ไม่ได้เล่นเลยสักนัด) แถมยังเคยไปซ้อมร่วมกับ ยูเวนตุส และ ลาซิโอ มาแล้วเช่นกัน 

ชีวิตค้าแข้งของ ซาดี้ ไม่ธรรมดามากขึ้นไปอีก เมื่อเคยว่าจ้าง ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1986 มาเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคส่วนตัว และเคยใช้บริการ เบน จอห์นสัน อดีตนักวิ่งลมกรดแคนาดา ในฐานะเทรนเนอร์ส่วนตัว นอกจากนี้ ยังเคยเป็นกัปตันทีมชาติลิเบีย และเคยเป็นประธานสมาพันธ์ฟุตบอลลิเบียมาแล้วเช่นกัน  

เจย์ โบรธอยด์ กองหน้าชาวอังกฤษ สังกัด ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ทีมน้องใหม่ พรีเมียร์ลีก ซึ่งเคยร่วมทีม เปรูจา กับทายาทจอมเผด็จการลิเบียมาแล้ว กล่าวว่า "เขาไม่ได้เก่งที่สุด แต่เขาเล่นเป็นงานอดิเรกมากกว่า เขาเป็นมหาเศรษฐีก็จริง แต่เขาก็อยากจะเล่นฟุตบอล เขาอยากจะมาซ้อมทุกวัน และหากให้พูดอย่างแฟร์ๆ แล้ว เขาก็ทำอย่างนั้นได้เหมือนกันนะ เขาไม่เคยคาดหวังว่า จะได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ แต่ก็เห็นได้ชัดว่า มีองครักษ์คอยติดตามอารักขาเขามากมายหลายคนด้วยกัน"