เคร็ก เบลลามี่ ซัดสองประตูและปล่อยให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ลงมาเป็นตัวสำรองซัดอีกเม็ด ช่วย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านไล่ยิงแซง "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ทีมเยือน 3-1 เก็บสามแต้มเต็ม เขยิบแซงอาร์เซน่อลขึ้นมาอยู่อันดับ 5 แล้ว โดยมีแต้มเท่ากับ เชลซี อันดับ 4 ที่ 34 แต้ม แต่ประตูได้เสียเป็นรอง ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 30 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 25584

ลิเวอร์พูล 3     -     1 นิวคาสเซิ่ล

สนาม: แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล

　　"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 6 ของตาราง ต้องปราศจาก หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวกลั่นชาวอุรุกวัย ที่ซัดไปแล้ว 8 ประตูในซีซั่นนี้หลังโดนแบนเพิ่มอีก 1 นัดข้อหาชูนิ้วกลางให้แฟนบอล ซึ่งลิเวอร์พูลยอมรับโทษนี้ทันที ผิดไปจากโทษแบน 8 เกมจากการเหยียดผิวที่จะมีการยื่นอุทธรณ์ ทำให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ หัวหอกจอมฝืดได้ลงชนกับต้นสังกัดเก่าโดยยืนหน้าคู่กับ เคร็ก เบลลามี่ อดีตหอกสาลิกาอีกราย

　　ส่วนแผงมิดฟิลด์ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มีชื่อเป็นแค่สำรอง ให้ เจย์ สเปียริ่ง ลงมาจับคู่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

　　ทางด้าน "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ชนะแค่เกมเดียวในรอบ 7 นัดหลังสุด เกมนี้ได้ตัว เดมบา บา ดาวยิงเซเนกัลที่กดไปแล้ว 14 ประตู ฟิตลงสนามมาล่าตาข่ายกับ ฮาริส วุคคิช ดาวรุ่งชาวสโลวีเนียวัย 19 ปี ที่ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ ลีก แค่นัดที่สองเท่านั้นเอง

　　ส่วนแนวรับได้ ไมค์ วิลเลียมสัน หายเจ็บกลับมายืนคู่ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ ได้แล้ว 

　　ออกสตาร์ทครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ครองเกมได้หมด ก่อนที่จะได้ลุ้นในนาทีที่ 6 จากจังหวะที่ แดเนียล แอ็กเกอร์ ลากขึ้นมาส่องด้วยซ้ายจากระยะ 30 หลาทางกราบซ้าย บอลผ่านหน้าปากประตูออกไป

　　จากนั้น หงส์แดง ได้ลุ้นต่อเนื่องทีเดียว ชาร์ลี อดัม ได้กดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลเหินข้ามคานไปในนาทีที่ 19

　　อย่างไรก็ตามกลายเป็น นิวคาสเซิ่ล ที่แทบไม่ได้บุกเลยเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่ ไรอัน เทย์เลอร์ โยนจากทางด้านซ้ายมาให้กับ โยฮัน กาบาย โหม่งเสยกลับหลังบอลไปโดนไหล่ของ แดเนียล แอ็กเกอร์ ปราการหลังของลิเวอร์พูล เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไปอย่างโชคร้ายสงเคราะห์ให้ สาลิกา บุกมานำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 25

　　ทว่าเจ้าบ้านทวงประตูคืนกลับมาได้อย่างรวดเร็วใน 4 นาทีให้หลัง เมื่อ โฆเซ่ เอ็นริเก้ เปิดจากซ้ายโดนสกัดทิ้งออกมาเข้าทางของ ชาร์ลี อดัม เปิดแรงจากขวากลับเข้าไปกลางประตู บอลไปโดนตัว ชีค ติโอเต้ กองกลางทีมเยือน มาตั้งให้กับ เคร็ก เบลลามี่ ตะบันด้วยขวาส่งบอลเสียบเสาเข้าไปงามหยดให้ ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอ 1-1 และเป็นการพังประตูทีมเก่าอีกแล้วของ เบลลามี่

　　พอตีเสมอได้ เจ้าบ้านได้ใจรุกไล่อย่างหนัก มีโอกาสขึ้นนำในนาทีที่ 34 เมื่อ เคร็ก เบลลามี่ เปิดมุมจากซ้ายให้กับ มาร์ติน สเคอร์เทล บิดตัวโหม่งเฉี่ยวเสาออกไปชนิดได้ลุ้น

　　ทีมเยือนสวนขึ้นมาในนาทีที่ 40 ฮาริส วุคคิช กดด้วยซ้ายระยะไกลร่วม 30 หลาลูกพุ่งข้ามคานไป หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1

　　มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ล เปลี่ยนเอา ดาวิเด้ ซานตอน แบ็คซ้ายชาวอิตาเลี่ยนลงมาเล่นแทน ไรอัน เทย์เลอร์
 
　　เจ้าถิ่นยังเริ่มได้ดีกว่า สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ได้กระหน่ำด้วยซ้ายจากระยะ 30 หลา แต่กดไม่ลงบอลข้ามคานไปในนาทีที่ 49
 
　　ขยับมานาทีที่ 58 ลิเวอร์พูล ปรับแท็คติกด้วยการส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก เป็นเกมที่ 6 ในฤดูกาลนี้ โดยลงมาเล่นแทน ชาร์ลี อดัม
 
　　หงส์แดง ได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 64 เมื่อ เจอร์ราร์ด จ่ายบอลขึ้นหน้าให้กับ แอนดี้ แคร์โรลล์ หลุดเดี่ยวแต่แตะบอลยาวไปเลยโดน ทิม ครูล นายทวารสาลิกาออกมาตัดบอลไว้ได้ก่อน 

　　นาทีต่อมา นิวคาสเซิ่ล เปลี่ยน ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ลงมาเล่นแทน ฮาริส วุคคิช

　　อย่างไรก็ดี นาทีที่ 67 หงส์แดง ได้ประตูแซงนำจนได้จากจังหวะที่ได้ฟรีคิกระยะหวังผล 25 หลา เคร็ก เบลลามี่ ปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามกำแพง แดนนี่ ซิมป์สัน แบ็คขวา กับ ทิม ครูล นายทวารทีมเยือน
พยายามจะสกัด แต่ไม่มีใครถึงบอล ลูกเข้าไปตุงตาข่ายให้ ลิเวอร์พูล นำ 2-1 แล้ว และเป็นประตูที่สองของเบลลามี่ ในเกมนี้ด้วย

　　สามนาทีให้หลัง นิวคาสเซิ่ล น่าได้ประตูตีเสมอจริงๆ เดมบา บา โฉบมายิงเฉือนๆผ่าน โฆเซ่ เรน่า ไปแล้ว บอลกำลังจะเข้าประตู แต่ มาร์ติน สเคอร์เทล ตามมาหวดสกัดทิ้งออกจากเส้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ 

　　เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 72 ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูที่สาม เจอร์ราร์ด สาดจากขวามาให้กับ แอนดี้ แคร์โรลล์ โผนขึ้นโหม่งบอลไปชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย

　　2 นาทีต่อมา เจ้าบ้านเปลี่ยนเอา เคร็ก เบลลามี่ ที่โดนศอกจนศรีษะแตกออกแล้วให้ เดิร์ค เค้าท์ ลงมาเล่นแทน

 　　ท้ายเกมนาทีที่ 77 หงส์แดง มาได้ประตูที่สามจนได้จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายสั้นๆขึ้นหน้าให้กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตัวสำรองสอดมายิงด้วยซ้ายมุมแคบบอลลอดขาของ ทิม ครูล นายทวารนิวคาสเซิ่ล เข้าประตูไปให้ ลิเวอร์พูล นำห่าง 3-1

 　　เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ นิวคาสเซิ่ล ไปสนุก 3-1 เก็บสามแต้มเต็ม เขยิบแซงอาร์เซน่อลขึ้นมาอยู่อันดับ 5 แล้ว โดยมีแต้มเท่ากับ เชลซี อันดับ 4 ที่ 34 แต้มแต่ประตูได้เสียเป็นรอง

 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

　　ลิเวอร์พูล: โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนียล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - ชาร์ลี อดัม (สตีเว่น เจอร์ราร์ด น.58), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจย์ สเปียริ่ง, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - เคร็ก เบลลามี่ (เดิร์ค เค้าท์ น.74), แอนดี้ แคร์โรลล์

　　สำรอง: อเล็กซานเดอร์ โดนี่ (ผู้รักษาประตู) - เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน เคลลี่, จอนโจ เชลวี่ย์, มักซี่ โรดริเกซ

　　นิวคาสเซิ่ล: ทิม ครูล - แดนนี่ ซิมป์สัน, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ (กัปตันทีม), ไรอัน เทย์เลอร์ (ดาวิเด้ ซานตอน น.46) - กาเบรียล โอแบร์กต็อง, โยฮัน กาบาย, ชีค ติโอเต้, โฮนาส กูเตียร์เรซ - ฮาริส วุคคิช (ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา น.65), เดมบา บา

　　สำรอง: ร็อบ เอลเลียต (ผู้รักษาประตู) - เจมส์ เพิร์ช, แซมมี่ อเมโอบี้, โชล่า อเมโอบี้, ลีออน เบสต์ 

　　ผู้ตัดสิน: ลี โปรเบิร์ต