"ราชันชุดขาว" ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จหลังเปิดบ้านไล่ถล่ม ซีเอสเคเอ มอสโก 4-1 เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-2 โดยเกมนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดคนเดียวสองลูก ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อวันพุธที่ 14 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ฤดูกาล 2011-12

วันพุธที่ 14 มีนาคม 2555

เรอัล มาดริด (สเปน) 4 - 1 ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย)

(รวมผลสองนัดเรอัล มาดริดชนะ 5-2)

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, มาดริด

 
        "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด บุกไปเสมอกับ ซีเอสเคเอ มอสโก มา 1-1 ที่ลุซนิกิ สเตเดี้ยม ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เกมนี้ไม่มี ฟาบิโอ โคเอนเตรา, อังเคล ดิ มาเรีย และ ฮามิต อัลตินท็อป ที่มีอาการบาดเจ็บรวมไปถึง ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กับ โฆเซ่ กาเยฆอน ที่ไม่มีชื่ออยู่ในโผทำศึกเกมนี้
 
        ส่วนสามตัวรุกวาง เมซุต โอซิล, ริคาร์โด้ กาก้า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปั้นเกมสนับสนุน กอนซาโล่ อิกวาอิน ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่กลับมาอยู่ในฟอร์มเฉียบขาดอีกครั้งเข้าพังสกอร์ 
 
        ทางด้าน ซีเอสเคเอ มอสโก ได้ตัว พาเวล มามาเยฟ และ คีริลล์ นาบับกิ้น พ้นโทษแบนกลับมามีชื่อเป็นสำรอง แต่ไม่มี เคซึเกะ ฮอนดะ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น ที่เจ็บต้นขา
 
        ออกสตาร์ทครึ่งแรก ทีมเยือนเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อทำทางกันมาสวยงาม ก่อนที่จังหวะสุดท้าย อลัน ซาโกเยฟ ไหลเข้าช่องให้กับ เซย์ดู ดูมเบีย กองหน้าชาวไอวอรี่ โคสต์ ตะบันด้วยขวาบอลพุ่งข้ามคานไปในนาทีที่ 8
 
        ถัดมานาทีเดียว เรอัล มาดริด โต้ขึ้นมาบ้าง เมซุต โอซิล ลากบอลขึ้นมาจ่ายออกซ้ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ล็อคแล้วปั่นด้วยขวามาเสาแรก แต่ เซอร์เก เช็ปชูกอฟ นายทวารซีเอสเคเอ มอสโก เซฟไว้ได้
 
        ผ่านมา 14 นาที ราชันชุดขาว น่าได้จุดโทษ จากจังหวะที่ โรนัลโด้ ไหลขึ้นหน้าเข้าเขตโทษให้กับ เมซุต โอซิล พยายามจะพาบอลหนี แต่โดน เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช กัปตันทีมซีเอสเคเอ มอสโก ผลักล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่ยอมเป่าให้จุดโทษ
 
        ขยับมานาทีที่ 18 เจ้าบ้านได้ลุ้นต่อเนื่อง โรนัลโด้ สปีดพาบอลขึ้นมาทางซ้ายแล้วหยุดบอลไว้ ทำเอากองหลังซีเอสเคเอฯ วืดไป ก่อนที่จะจ่ายเข้ากลางถูก อัลโดนิน เคลียร์ทิ้งออกมาเข้าทาง กาก้า สับด้วยขวาเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว
 
        อย่างไรก็ดีนาทีที่ 26 เรอัล มาดริด ออกนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่  เมซุต โอซิล ลากมาหยอดออกขวาให้กับ ซามี่ เคดิร่า ลากมาเปิดข้ามไปเสาสองให้กับ กาก้า ดูดบอลลงอย่างนิ่มนวลแล้วไหลมาเสาแรกให้กับ กอนซาโล่ อิกวาอีน พุ่งชาร์จด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงาม
 
        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 34 ซีเอสเคเอ สวนขึ้นมาบ้าง เซย์ดู ดูมเบีย
พยายามจะพลิกบอลหน้าเขตโทษของชุดขาวบอลทะลักมาทางด้านซ้ายถึง อาห์เหม็ด มูซ่า สับด้วยซ้ายบอลพุ่งแรงเข้ากรอบแต่ อีเกร์ กาซียาส นายทวารเจ้าบ้านปัดข้ามคานไปอย่างน่าหวาดเสียว หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำอยู่ 1-0
 
        กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้ 5 นาที ชาบี อลอนโซ่ กองกลางของราชันชุดขาว ไปสไลด์เสียบ ปอนตุส เวิร์นบลูม จนตัวลอย ผู้ตัดสินชักใบเหลืองให้ทีนที ทำให้เกมนัดหน้า อลอนโซ่ จะติดโทษแบน
 
        เกมของชุดขาวดีกว่า มาได้ประตูที่สองหนีห่างออกไปจากจังหวะที่ เซร์คิโอ รามอส จ่ายต่อให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตะบันด้วยขวาจากระยะร่วม 40 หลา บอลพุ่งส่ายแล้วตกพื้นหนึ่งครั้งทำเอา เซอร์เก เช็ปชูกอฟ นายทวารซีเอสเคเอ มอสโก กะจังหวะไม่ดีบอลผลุบเข้าประตูไปให้ เรอัล มาดริด ออกนำ 2-0 ในนาทีที่ 55 และเป็นประตูที่ 5 ของโรนัลโด้ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้
 
        สองนาทีให้หลัง ทีมเยือนยังสู้อยู่ โซรัน โทซิซ ครอสให้กับ อเล็กไซ เบเรซุตสกี้ โหม่งหลุดเสาซ้ายไป
 
        เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูที่สามในนาที 58 เมื่อ โอซิล ไหลให้กับ กอนซาโล่ อิกวาอีน จับแล้วปั่นด้วยขวาเข้าไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู โดยเป่าเป็นลูกล้ำหน้า อิกวาอีน ไปก่อนแล้ว
 
        ข้ามมานาที 64 เจ้าบ้านได้เตะมุมทางด้านขวา โอซิล เปิดมาเสาแรกให้กับ โรนัลโด้ โหม่งบอลข้ามคานไป
 
        นาทีต่อมา ซีเอสเคเอ มอสโก เกือบตีไข่แตกได้เมื่อ เซกู โอลิเซ่ห์ ตัวสำรองเปิดจากขวาให้กับ อลัน ซาโกเยฟ แปเข้าไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ เป่าเป็นลูกล้ำหน้า โอลิเซ่ห์ ไปก่อนแล้ว
 
        เจ้าถิ่นเปลี่ยนเอา กอนซาโล่ อิกวาอีน คนทำประตูแรกออกแล้วให้ คาริม เบนเซม่า ลงมาบ้างในนาทีที่ 70
 
        นาทีเดียวกันนั้น เรอัล มาดริด มาได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ เมซุต โอซิล เปิดบอลจากทางด้านขวาทะลุแนวรับทีมเยือนมาให้กับ คาริม เบนเซม่า ที่เพิ่งลงมาหมาดๆ จับแล้วตวัดยิงด้วยขวาไปติดขาของ เซอร์เก เช็ปชูกอฟ นายด่านทีมเยือนมาเข้าทาง เบนเซม่า จิ้มเร็วด้วยขวาเข้าไปให้ ราชันชุดขาว นำขาด 3-0 และเป็นประตูที่ 5 ของ เบนเซม่า ในรายการนี้ด้วย
 
        กระนั้นก็ดี ซีเอสเคเอ มอสโก ไล่ตีตื้นมาเป็น 1-3 เมื่อโต้กลับเร็วขึ้นมา อลัน ซาโกเยฟ จ่ายออกมาทางซ้ายให้กับ โซรัน โทซิช ล็อคหลบ เปเป้ ได้สำเร็จ ก่อนจะปั่นด้วยซ้ายจากริมกรอบเขตโทษบอลเช็ดคานล่างเข้าประตูไปอย่างสวยงามในนาทีที่ 77
 
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาซัดประตูปิดท้าย จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านไล่ถล่ม ซีเอสเคเอ มอสโก ไปหายห่วง 4-1 รวมผลสองนัด เรอัล มาดริด เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยสกอร์รวม 5-2

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ซามี เคดิร่า, ชาบี อลอนโซ่ - เมซุต โอซิล, กาก้า (เอสเตบัน กราเนโร่ น.76), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - กอนซาโล่ อิกวาอิน

สำรอง: อันโตนิโอ อาดาน (ผู้รักษาประตู) - นูรี่ ซาฮิน, คาริม เบนเซม่า, ราอูล อัลบิโอล, ราฟาแอล วาราน, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า

ซีเอสเคเอ มอสโก: เซอร์เก เช็ปชูกอฟ - อเล็กไซ เบเรซุตสกี้, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช (กัปตันทีม), จอร์จี้ เชนนิคอฟ - ปอนตุส เวิร์นบลูม, เอฟเกนี่ อัลโดนิน (พาเวล มามาเยฟ น.46) - อาห์เหม็ด มูซ่า (เซกู โอลิเซ่ห์ น.60), โซรัน โทซิช - อลัน ซาโกเยฟ - เซย์ดู ดูมเบีย

สำรอง: เซอร์เก เรฟยากิ้น (ผู้รักษาประตู) - เดวิดาส เซมเบราส, คีริลล์ นาบับกิ้น, อเล็กซานเดอร์ส เคาน่า, โทมัส เนซิด

ผู้ตัดสิน: สเตฟาน ลันนัว (ฝรั่งเศส)