เปาโล แรงเจล ศูนย์หน้าตัวใหม่ “กิเลนผยอง” สวมบทฮีโร่หลังเปลี่ยนตัวลงมาสังหารจุดโทษเป็นประตูชัยให้ เอสซีจึ เมืองทอง ยูไนเต็ด เฉือนชนะ หาดใหญ่ เอฟซี สุดมันส์ 2-1 ทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกมูลนิธิ ไทยคม เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ

การแข่งขันฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2012 รอบ 32 ทีม ประจำวันพุธที่ 1 ส.ค.2555

 
                                                      เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-1 หาดใหญ่ เอฟซี

ที่ สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เป็นการพบกันระหว่าง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จ่าฝูงไทยลีก ต้อนรับการมาเยือนของ “พญาอินทรีแดง” หาดใหญ่ เอฟซี ทีมอันดับ 9 เอไอเอสลีก โซนภาคใต้

เกมนี้เจ้าถิ่นไม่มี “ย็อคก้า” สลาวิซ่า โยคาโนวิช กุนซือลงคุมทีมหลังติดโทษแบน 2 นัด ต้องลุ้นลูกทีมอยู่บนอัฒจรรย์ โดยโค้ช พล ชมชื่น รับหน้าที่คุมทีมแทน สำหรับการจัดทัพเกมนี้ “กิเลนผยอง” โรเตชั่นนักเตะเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังคงผสมแกนหลักของทีมบางราย นำโดย พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ,รี ควาง ชอน และ “เอ็ดดี้” เอดิวัลโด้ เฮอร์โมซ่า ลงสนามเป็นตัวจริงในถิ่นเป็นครั้งแรก

ทาง ฝั่งทีมเยือน หาดใหญ่ เอฟซี ส่ง 3 ประสานแดนหน้า นำโดย วุฒิพงศ์ เกิดกุล กองหน้าตัวเก่งลงล่าตาข่ายร่วมกับ ณัฐกร ขุนเจริญ และ ณัฐพล จันทสุธิวงศ์  

โดยก่อนเกมแข่งขันจะเริ่มขึ้น เจ้าถิ่นทำการเปิดตัว ธฤติ โนนศรีชัย ปราการหลังตัวใหม่ต่อหน้าแฟนบอลในถิ่นตัวเองเป็นครั้งแรก พร้อมสวมเสื้อหมายเลข 6 ลงเล่นให้กับเอสซีจี เมืองทองฯ ในซีซั่นนี้

นาที ที 5 กิเลนผยอง ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ เอดิวัลโด้ เฮอร์โมซ่า โยนยาวไปปีกซ้ายให้ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ โยนจากริมเส้น ให้ โคเน่ โมฮาเหม็ด ขึ้นโหม่งเน้นๆ แต่ตรงตัว บรรยวัสถ์ ทองแก้ว ผู้รักษาประตูทีมเยือน เซฟไว้ได้

นาที่ที่ 10 เอดิวัลโด้ เฮอร์โมซ่า ได้จังหวะหลุดไปทางด้านขวา ก่อนโยนเข้ากลาง บอลลอย เกือบเข้าหัว ปิยะชาติ ถามะพนธ์ แต่กองหลังหาดใหญ่ฯ สกัดออกหลังไปได้

จากลูกเตะมุม เจ้าถิ่นได้โอกาสลุ้นอีกคร้ง เมื่อ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ โยนลูกเตะมุม แล้วเป็น รี ควาง ชอน โถมโหม่งเต็มศรีษะ แต่ผู้รักษาประตูทีมเยือนปัดออกได้อย่างหวุดหวิด

นาทีที่ 18 เป็นโอกาสลุ้นครั้งแรกของทางฝั่ง ทีมเยือน เมื่อ ณัฐกร ขุนเจริญ ได้บอลบริเวณเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนตวัดยิงเสาแรก แต่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ตามสไลด์ขวางได้ก่อน

นาที่ที่ 20 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ได้บอลทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลางให้ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ได้กดบริเวณกรอบเขตโทษ แต่ติดบล็อกกองหลังทีมเยือนนิดเดียว

โอกาส ยังเป็นของฝั่ง เอสซีจี เมืองทองฯ เป็นส่วนใหญ่ นาทีที่ 25 มีโอกาสขึ้นนำสุดๆ เมื่อ เอดิวัลโด้ ได้บอลทางฝั่งขวา ก่อนเปิดเข้ากลางให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้ซัดในกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว

ใบ เหลืองแรก ของเกมเป็นของทางฝั้งทีมเยือน เมื่อ นิยิฟฟาน ภัทราธิกุล กองหลังทีมเยือน ไปกระโดดกระแทกใส่ โคเน่ โมฮาเหม็ด หน้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าแจกใบเหลืองแรกให้ทันที

นาที่ที่ 28 ทีมเยือนได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะเติมเกมขึ้นทางฝั่งขวา แล้วเป็น วุฒิพงศ์ เกิดกุล กองหน้าตัวเก่ง ได้ชาร์ทในเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

นาที ที่ 32 ทีมเยือนเกือบช็อกแฟนเจ้าถิ่น เมื่อ ณัฐกร ขุนเจริญ แทงบอลทะลุช่องให้ วุฒิพงศ์ เกิดกุล หลุดเดี่ยวก่อนแตะหลบ อัมรินทร์ เยาดำ ก่อนแปโล่งๆหลุดออกนอกกรอบอย่างเหลือเชื่อ

นาที่ถัดมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะฟรีคิก แล้วเป็น พิชิตพงษ์ เฉยฉิว วิ่งเข้ามาอัดเต็มข้อ บอลติดกำแพง มาเข้าทางของ สารัช อยู่เย็น ได้ส่องไกล บอลเหินข้ามคานออกไป

นาทีที่ 38 “กิเลนผยอง” ได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ได้บอลทางฝั่งซ้าย ก่อนไหลเข้ากลางให้ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ได้ส่องไกล แต่บอลหลุดกรอบออกไป

นาทีที่ 42 ทางฝั่ง เอสซีจี เมืองทองฯ ได้ใบเหลืองแรกของเกม เมื่อ สารัช อยู่เย็น ไปทำฟาวล์ใส่ ณัฐกร ขุนเจริญ ทางด้านหลัง

ก่อน หมดครึ่งแรก เจ้าถิ่น ได้ลุ้นอีก เมื่อ กษิต์เดช เวชยาวงศ์ เปิดลูกฟรีคิกจากฝั่งซ้าย ผู้รักษาประตูทีมเยือนออกมารับบอลพลาดเกือบเข้าทาง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว

จบ 45 นาทีแรก เจ้าถิ่น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เสมอกับ หาดใหญ่ เอฟซี 0-0

โดยระหว่างพักครึ่ง เอสซีจี เมืองทองฯ ทำการเปิดตัว สราวุธ มาสุข กองหน้ารายใหม่ จากทีม จามจุรี ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรกต่อหน้าแฟนบอล

เริ่ม ครึ่งหลังได้ 7 นาที เอสซีจี เมืองทองฯ เสียลูกจุดโทษ จากจังหวะหลุดเดี่ยว ของ วุฒิพงศ์ เกิดกุล ก่อนจะโดน วีระวุฒิ กาเหย็ม กระแทกล้มลงในกรอบเขตโทษ กรรมการเป่าลูกจุดโทษให้ทีมเยือนทันที พร้อมชูใบแดงไล่ วีระวุฒิ กาเหย็ม ออกนอกสนาม แล้วเป็น ณัฐพล จันทสุทธิวงศ์ กัปตันทีมรับหน้าที่สังหาร แต่ อัมรินทร์ เยาดำ โชว์ซุปเปอร์เซฟ ปัดออกข้างได้อย่างสุดยอด

นาที่ที่ 58 หลังเจ้าถิ่นโดนใบแดงไล่ออก โค้ช พล ชมชื่น ปรับแท็กติกทันที ส่ง ปิยะพล บรรเทา ลงไปเล่นแทน เอดิวัลโด้ เฮอร์โมซ่า แล้วถอย ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ลงมายืนแบ็กซ้ายแทน

นาทีที่ 63 หลังพยายามบุกอยู่นาน เจ้าถิ่น เอสซีจี เมืองทองฯ ได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ โคเน่ โมฮาเหม็ด แทงทะลุช่องให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หลุดไปทางขวา ก่อนตวัดกลับ เข้ามาให้ โคเน่ โมฮาเหม็ด แปเข้าไปง่ายๆ ให้ “กิเลนผยอง” ขึ้นนำ 1-0

เกม ยังคงแลกกันอย่างสนุก นาทีที่ 65 ทีมเยือนได้รับใบเหลืองเป็นคนที่สอง เมื่อ แซมบา ฟาร์ดี้ เซนเตอร์ฮาล์ฟทีม หาดใหญ่ฯ ไปทำฟาวล์ใส่ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว อย่างน่าเกลียด

นาทีที่ 70 หลังได้ประตูขึ้นนำ เอสซีจี เมืองทองฯ ยิ่งเล่นยิ่งคึก และมีโอกาสได้ประตูที่ 2 เมื่อ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ได้ซัดไกลหน้ากรอบเขตโทษ บอลแฉลบกองหลังทีมเยือน ข้ามคานออกไป

นาที่ที่ 75 หาดใหญ่ เอฟซี แก้เกม เปลี่ยน ณัฐพล จันทสุทธิวงศ์ กัปตันทีมคนยิงจุดโทษพลาดออก แล้วส่ง เอคเค่ เอ็มบ้า ลงไปเล่นแทน

นาที ถัดมา เอสซีจี เมืองทองฯ เกือบขึ้นนำเป็น 2-0 จากจังหวะที่ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เปิดฟรีคิกเข้ากลางให้ ทศพล ลาเทศ เติมขึ้นมาโหม่งหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม เอสซีจี เมืองทองฯ ส่ง เปาโล แรงเจล กองหน้าตัวใหม่ลงประเดิมสนามเป็นเกมแรก แทน โคเน่ โมฮาเหม็ด ผู้ทำประตูขึ้นนำ

นาที่ที่ 83 เปาโล แรงเจล เกือบทำประตูในเกมแรกทันที จากจังหวะที่ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ เปิดจากทางฝั่งซ้าย ก่อนที่ เปาโล จะทะยานขึ้นโขก ตรงตัวผู้รักษาประตูทีมเยือนเกือบเข้าประตู

ก่อนหมดเวลา 2 นาที ทีมเยือนตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะหลุดเดี่ยวของ วุฒิพงศ์ เกิดกุล ก่อนแปสวนตัว อัมรินทร์ เยาดำ เป็นประตูตีเสมอให้กับ หาดใหญ่ เอฟซี

เข้า สู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที “กิเลนผยอง” ได้ประตูพลิกขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะหลุดเดี่ยวในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา ของ ปิยพล บรรเทา ก่อนโดนกองหลังทีมเยือนเตะล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษให้กับเจ้าถิ่น ก่อนที่ เปาโล แรงเจล จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด เอสซีจี เมืองทองฯ นำ 2-1 และเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในสีเสื่อ “กิเลนผยอง”

ช่วงท้ายเกม ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก ก่อนที่ เอสซีจี เมืองทองฯ จะรักษาประตูขึ้นนำจนหมดเวลา ผ่านทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : อัมรินทร์ เยาดำ, รี ควาง ชอน, ทศพล ลาเทศ, วีระวุฒิ กาเหย็ม, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สารัช อยู่เย็น, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, กษิต์เดช เวทยาวงศ์(ดัสกร ทองเหลา น. 90), ปิยะชาติ ถามะพันธ์, เอดิวัลโด้ เฮอร์โมซ่า(ปิยพล บรรเทา น.58), โคเน่ โมฮาเหม็ด(เปาโล แรงเจล น.80)

หาดใหญ่ เอฟซี : บรรยวัสถ์ ทองแก้ว, แซมโบ ฟราคดี้ ,นิยิฟฟาน ภัทราธิกุล(บูฆยรี นิ้วหลี น.85), สุรินทร์ ราโยม, ขรรค์ชัย สุขปาละ, ดุสิต หนองประทุม, ศรัญญู ถนอมภูมิ, เอ็นดุมเบ้ ทอมสัน, ณัฐพล จันทสุธิวงศ์(เอคเค่ เอ็มบ้า น.75), ณัฐกร ขุนเจริญ, วุฒิพงศ์ เกิดกุล

ศึกบิ๊กแมตช์ เกมมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ รอบ 3 ระหว่าง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า เปิดบ้านสนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม พบกับ ชลบุรี เอฟซี ในเวลา 19.00 น.

 
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3 - 2 ชลบุรี เอฟซี

เริ่มเกมได้เพียง 8 นาที เป็นทีมเยือน ชลบุรี บุกมาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน จากลูกยิงสุดสวยของ "น้าเทิด"  เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่ยิงผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าไป แต่ทว่า ในครึ่งหลัง นาทีที่ 48 นักรบปราสาทสายฟ้าก็มาตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลเข้ากลางแฉลบกองหลังฉลามชล มาเข้าเท้า แฟรงค์ อาเชียมปง ได้ซัดเน้นๆ ตุงตาข่ายให้เจ้าถิ่นตามมาเป็น 1-1

เข้าสู่นาทีที่ 60 แฟนบอลชลบุรี ที่ตามมาเชียร์ ได้เฮกันอีกครั้ง จากจังหวะลูกฟรีคิกระยะ 27 หลา เป็น อาทิตย์ สุนทรพิธ ปีกตัวสำรองที่รับหน้าที่ยิงเสียบสามเหลี่ยมเป็นประตูให้ฉลามชลขึ้นนำ 2-1 แต่หลังจากนั้นเพียง 8 นาที บุรีรัมย์ ก็ไล่ตามตีเสมอได้สำเร็จ ในจังหวะที่ สุเชาว์ นุ่ชนุ่ม เปิดบอลจากด้านข้างมาเข้าทางปืนของ โกรัน เยอร์โควิช ดาวยิงตัวใหม่ได้ซัดโล่งๆ ตุงตาข่าย ให้สกอร์ตามมาเป็น 2-2

ท้ายเกมครั้งนี้เป็นแฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮลั่นสนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม บ้าง ในนาทีที่ 88 เมื่อ แฟรงค์ อาเชียมปง เปิดบอลเข้ามาที่เสาสองให้ จอร์จี้ เซตโควิช ตัวสำรองฮีโร่ โขกย้อยศรผ่านมือ สินทวีชัย เสียบเสาไกล เป็นประตูให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าแซงเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ไปแบบสุดมันส์ 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 4 หรือ รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป