ยูเซน โบลท์ โชว์ความเป็นโคตรลมกรดอีกครั้งด้วยการผลาดคว้าเหรียญทองวิ่ง 200 เมตรชาย อีกครั้ง ในศึกโอลิมปิก เกมส์ 2012 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา

 ยูเซน โบลท์ ลมกรดหนุ่มชาวจาไมเก้า ประกาศศักดาคว้าแชมป์วิ่ง 200 เมตรชาย ในกีฬาโอลิมปิก เกมส์ 2012 ได้สำเร็จ และเป็นเหรียญที่สองในโอลิมปิกครั้งนี้ จากการวิ่งเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยทั้งสามเหรียญของรายการนี้ต่างตกเป็นของนักวิ่งจากจาไมก้าทั้งหมด

โดยในรอบชิงชนะเลิศ 8 คนสุดท้าย ประกอบด้วย 3 ลมกรดจากจาไมก้าอย่าง ยูเซน โบลท์, โยฮัน เบล็ค และ วาร์เรน เวียร์ ที่เหลืออีก 5 รายเป็น คริสโตฟ เลอมาเทร (ฝรั่งเศส), อเล็กซ์ กูโนเนซ (เอกวาดอร์), ชูรานดี้ มาร์ติน่า (ฮอลแลนด์), วัลเลซ สเปียร์มอน (สหรัฐฯ) และ อนาโซ โจบ็อดวาน่า (แอฟริกาใต้)

ผลปรากฎว่า ยูเซน โบลท์ เข้าป้ายเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 19.32 วินาที คว้าเหรียญทองไปครอง ตามมาด้วย โยฮัน เบล็ค ที่เวลา 19.44 วินาที ได้เหรียญเงิน ส่วน วาร์เรน เวียร์ เข้าวินเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 19.84 วินาที อย่างไรก็ตาม โบลท์ไม่สามารถทำลายสถิติโลและสถิติโอลิมปิกของตนเองได้

ทั้งนี้ เวลาที่ โบลต์ ทำได้ในครั้งนี้ นับเป็นการวิ่งที่เร็วที่สุดเป็นอันดับ 4 ตลอดกาล และทำให้เขาได้เหรียญทองเป็นเหรียญที่ 2 ในศึก "ลอนดอนเกมส์ 2012" ไปแล้ว หลังเจ้าตัวเพิ่งได้เหรียญทองในการแข่งวิ่ง 100 เมตรชายมาคล้องคอ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ความสำเร็จในครั้งนี้ ส่งผลให้ โบลต์ กลายเป็นนักวิ่งคนแรกที่ป้องกันแชมป์ทั้ง 100 เมตรชาย และ 200 เมตรชาย ในการแข่ง โอลิมปิกเกมส์ ได้ และยังเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่มีการป้องกันแชมป์ในการแข่งขันกรีฑา ประเภทลู่ของ โอลิมปิกเกมส์ ได้ด้วย (ครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้ คือการที่ ลาซเซ่ วิเรน ตำนานนักกรีฑาชาวฟินแลนด์ ได้เหรียญทองทั้งในประเภท 5,000 เมตรชาย และ 10,000 เมตรชาย ในปี 1972 และ 1976) ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เหรียญทองในครั้งนี้ พร้อมเผยว่า ตนรู้สึกปวดหลังนิดหน่อยระหว่างแข่งด้วย

"นี่เป็นเหรียญที่ผมต้องการ และผมก็ได้มันมาแล้ว ผมรู้สึกตึงๆ บริเวณหลังนิดๆ ดังนั้นสิ่งที่ผมทำได้ก็คือการพยายามรักษาฟอร์มของตัวเองให้ได้, วิ่งให้เต็มที่ และเมื่อผมเห็นว่า กำลังวิ่งตรงไปยังเส้นชัยแล้วนั้น ผมก็หยุดวิ่ง เพราะผมรู้ดีว่า มันจะไม่เป็นสถิติโลกแน่ๆ" โบลต์ เผย