"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถล่มเละ "เดอะ ลาติกส์" วีแกน 4-0 โดยสองในสี่ประตู ยิงได้จากสองเด็กใหม่อย่าง อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ และ นิค พาวว์ อีกด้วย เก็บสามคะแนนเข้ากระเป๋าสบาย ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา

 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2555

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด   4-0   วีแกน

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด


         "ปีศาจ แดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับ "เดอะ ลาติกส์" วีแกน โดยเกมนี้ สองตัวเก่งอย่าง ชินจิ คางาวะ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ได้รับบาดเจ็บมาจากเกมทีมชาติ มีชื่อเพียงสำรองเท่านั้น โดยเกมนี้ ใช้ ชิชาริโต้ จับคู่กับ แดนนี่ เวลเบ็ค เป็นตัวจริงล่าตาข่าย รวมทั้งประเดิมใช้ อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ แบ็คซ้ายตัวใหม่อีกด้วย ส่วนทีมเยือน วีแกน ใช้ ฌอง โบเซจูร์ ยืนกองหน้ากับ ฟรังโก้ ดิ ซานโต้

     เริ่ม เกมมาเพียง4นาที สาวกปีศาจแดง ได้เฮกันก่อน เมื่อจังหวะเปิดยาวไปที่หน้าประตูของ ชิชาริโต้ ให้ แดนนี่ เวลเบ็ค หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ อาลี อัล ฮับซี วิ่งออกมาสกัด แม้จะไม่โดนตัว แต่ ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ชี้เป็นลูกจุดโทษให้กับทีมเจ้าบ้านทันที 

     ชิ ชาริโต้ ที่ได้ลงตัวจริง อาสายิงจุดโทษ แต่หัวหอกเม็กซิโก แปบอลไปเข้าทาง อาลี อัล ฮับซี ล้มตัวเซฟไว้ได้ แมนฯยูไนเต็ด พลาดโอกาสขึ้นนำ ส่วน อาลี อัล ฮับซี แก้ตัวช่วยทีมไว้ได้

     นาทีที่18 แมนฯยูฯ พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ นานี่ เปิดบอลไปที่หน้าประตูให้ แดนนี่ เวลเบ็ค วอลเล่ย์ด้วยขวาเต็มข้อ แม้ อาลี อัล ฮับซี จะหมดสิทธิ์เซฟไปแล้ว แต่ลูกยิงกับพุ่งเฉียดเสาออกหลังไปแบบเฉียดฉิวเป็นอย่างมาก

     5นาที ต่อมา ทีมเยือน วีแกน มีโอกาสได้ลุ้นบ้าง เมื่อได้ฟรีคิกทางริมสนามฝั่งขวา เปิดโดย ฌอน มาโลนี่ย์ บอลเข้าหัว อีบัน รามิส โหม่งสะบัดคนเดียว แต่บอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

     นาทีที่26 ทีมเยือน "เดอะ ลาติกส์" มีโอกาสได้จบอีกครั้ง จากการพาบอลเข้าไปยิงของ เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ แต่ยังบังคับบอลให้เข้ากรอบไม่ได้

     นาทีที่35 แมนฯยูฯ แม้เกมบุกจะดูตื้อๆ แต่ก็มีโอกาสได้ยิงอีกครั้ง จากจังหวะแทงบอลของ ไรอัน กิ๊กส์ ให้ นานี่ หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ นานี่ ชิพโด่งออกหลังไปแบบไม่มีลุ้น

     ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที วีแกน มีลุ้นได้ประตู เมื่อ ฌอง โบเซจูร์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายมาที่หน้าประตู บอลหลุดมาถึง อารูน่า โคเน่ ที่เข้าฮอร์ตเสาสองคนเดียว แต่ อารูน่า โคเน่ ทำบอลลั่นหลุดออกหลังแบบน่าเซ็ง 

     ท้าย ครึ่งแรก มีใบเหลืองใบแรกจนได้ เมื่อ อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ ไปเสียบหนักใส่ เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกควักแจกทันที ก่อนชั่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้หมดครึ่งแรกจึงเสมอกันอยู่ 0-0


     เริ่ม ครึ่งหลังมา3นาที มีใบเหลืองอีกใบ เมื่อคู่กรณีในครึ่งแรกอย่าง เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ กับ อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ มาทำฟาวส์กันอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับฝั่ง ทำให้ ใบเหลืองตกเป็นของ เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ ไป


     อย่าง ไรก็ตาม นาทีที่51 สาวกปีศาจแดง ได้เฮกันซะที เมื่อ ไมเคิ่ล แคร์ริค ไหลบอลให้ นานี่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อน นานี่ จะกึ่งยิงกึ่งผ่านมาที่หน้าประตู อาลี อัล ฮับซี ล้มตัวปัด แต่บอลมาเข้าทางปืนของ พอล สโคลส์ หลุดมาแประยะเผาขนโล่งๆ ให้ แมนฯยูฯ ขึ้นนำ 1-0 ฉลองเกมที่700ของ พอล สโคลส์ อีกด้วย


     5นาที ต่อมา วีแกน รับใบเหลืองไปอีกคน เมื่อ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ไปเตะตัดเกม นานี่ อย่างน่าเกลียด ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ควักแจกอย่างไม่ลังเล


     นาทีที่58 วีแกน ทำการแก้เกม โดยส่ง จอร์ดี้ โกเมซ ลงมาแทน ฌอน มาโลนี่ย์


     นาที ที่63 เจ้าบ้านได้เฮกันอีกครั้ง เมื่อ ไรอัน กิ๊กส์ ไหลบอลคืนในกรอบเขตโทษให้ อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ วิ่งมากดด้วยเท้าซ้ายไปที่หน้าประตู ชิชาริโต้ วิ่งเข้าฮอร์ตส่งบอลตุงตาข่าย กลายเป็นประตูให้ แมนฯยูฯ นำห่าง 2-0


     3นาที ต่อมา อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ โชว์ลีลาพาบอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย แหวกแนวรับ วีแกน ถึง3คน คนตะบันยิงมุมแคบเสาแรกด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด บอลเบียดเสาเบียดตัว อาลี อัล ฮับซี กลายเป็นประตูอย่างเหลือเชื่อ ทีมปีศาจแดง นำโด่ง 3-0


     นาทีที่71 แมนฯยูฯ เปลี่ยนตัวคนเดียวสองคนรวด โดยส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลงมาแทน พอล สโคลส์ และส่ง นิค พาวว์ ลงมาแทน ไรอัน กิ๊กส์


     6นาที ต่อมา ทีมเจ้าบ้านเปลี่ยนตัวคนสุดท้าย โดยส่ง จอนนี่ อีแวนส์ ลงมาแทน เนมานย่า วิดิช


     นาที ที่82 กองหลัง วีแกน เคลียร์บอลไม่ขาด บอลมาเข้าทาง ชิชาริโต้ ก่อนจะไหลบอลให้ นิค พาวว์ ลงมาตะบันยิงเต็มข้อ ส่งบอลตุงตาข่าย แจ้งเกิดลงสนามอย่างสวย พร้อมกับ ทำประตูให้ แมนฯยูฯ นำห่าง 4-0


     ช่วง เวลาที่เหลือ แม้จะเป็นเจ้าบ้านเปิดเกมบุกมากกว่า แต่ก็เจาะประตูเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา แมนฯยูฯ จึงเปิดบ้านถล่ม วีแกน ไป 4-0 เก็บสามคะแนนเข้ากระเป๋า แบบไม่ยาก

รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด : อันเดอร์ ลินเดการ์ด,ราฟาเอล ดา ซิลวา, เนมานย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์,อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์, ไมเคิ่ล แคร์ริค, พอล สโคลส์,นานี่, ไรอัน กิ๊กส์,แดนนี่ เวลเบ็ค,ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ ชิชาริโต้

สำรอง:เดบิด เด เคอา,จอนนี่ อีแวนส์,อันโตนิโอ วาเลนเซีย,โรบิน ฟาน เพอร์ซี่,ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ,นิค พาว์,ชินจิ คางาวะ

วีแกน : อาลี อัล ฮับซี, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, แกรี่ คัลด์เวลล์, อีบัน รามิส, มายนอร์ ฟิเกรัว,เจมส์ แม็คคาร์ธี่,เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, อารูน่า โคเน่, ฌอน มาโลนี่ย์, ฌอง โบเซจูร์,ฟรังโก้ ดิ ซานโต้

สำรอง: ไมค์ พอลลิตต์,เดวิด โจนส์,อัลเบิร์ต ครูแซต,เบน วัตสัน,จอร์ดี้ โกเมซ,เมาโร โบเซลลี่,เรียว มิยาอิชิ

 ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

สถิติหลังเกม
แมนฯ ยูไนเต็ด                                    วีแกน
         56               ครองบอล (%)         44
         17                ยิงตรงกรอบ             8
         10               ยิงไม่ตรงกรอบ          4
          5                       เตะมุม                   5
         10                   เสียฟาวล์               14
          2                     ใบเหลือง                 2
          0                       ใบแดง                   0

ป๋าพอใจผีกลับมาแจ่มครึ่งหลัง

        เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าฟอร์มการเล่นของลูกทีมในครึ่งแรกยังไม่กระเตื้อง ก่อนจะกลับมาเล่นได้ดีในครึ่งหลัง และได้รับผลการแข่งขันที่น่าพอใจ


        "เราต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหลังพลาดจุดโทษ พวกเขา (วีแกน) ดึงเกมช้าหลายครั้ง แต่เราเองก็เล่นเกมไม่เร็วเท่าที่เคยเป็นด้วย"


        "ในครึ่งหลัง เราทำได้ดีขึ้น หลังจากกลับมาเล่นแบบดุดันกว่าเดิม และใช้การเจาะทะลุทะลวงมากขึ้น วีแกน มาเล่นในระบบที่ยากจะต่อกรด้วย มันจึงเป็นผลการแข่งขันที่ดี"
        

ปลื้มสโคลส์ไม่ทิ้งสไตล์เดิม

        เฟอร์กูสัน กล่าวชื่นชม พอล สโคลส์ ลูกศิษย์คนโปรด ที่ลงสนามรับใช้ทีมปีศาจแดงเป็นนัดที่ 700 และฉลองด้วยการยิงประตูแรกให้ทีมขึ้นนำในช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งถือเป็นลูกเก่งของมิดฟิลด์รายนี้ที่มักจะสอดขึ้นมาทำประตูในกรอบโทษอยู่ เป็นประจำ


        "เราจำได้ว่า พอล สโคลส์ มักจะเป็นคนที่สอดเข้ามาในเขตโทษเสมอ แต่บทบาทของเขาเปลี่ยนไปในช่วงหลายปีหลังมานี้ เขาต้องรับบทเป็นตัวคุมเกม" เฟอร์กี้ กล่าว
        

แฮปปี้บุตต์เนอร์ประเดิมสวย

        กุนซือชาวสกอตแลนด์ ยังแฮปปี้ที่ได้เห็นฟอร์มการเล่นของ อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ แบ็กซ้ายตัวใหม่ ประเดิมสนามได้อย่างยอดเยี่ยม และยังลุยขึ้นมาทำประตูที่ 3 ให้ทีมได้ด้วย


        "บุตต์เนอร์ ยังมีพรวดพราดไปบ้าง แต่เขามีความกระตือรือร้นอย่างเต็มที่ และเขาก็เป็นตัวจบสกอร์ที่ดีด้วย เขามีสถิติการทำประตูที่ดีในฮอลแลนด์ โดยรวมแล้วมันเป็นการประเดิมสนามที่ยอดเยี่ยม"
        

บุตต์เนอร์รับเล่นนัดแรกเหมือนฝัน

        ด้าน อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ ก็กล่าวอย่างมีความสุข หลังประเดิมสนามอย่างสวยหรู และยิงประตูได้ด้วย โดยแบ็กซ้ายชาวดัตช์ยอมรับว่ารู้สึกประหม่าไม่น้อยกับเกมนี้


        "ผมมีความสุขมากที่เราชนะเกมนี้และผมก็ยิงประตูในเกมแรก ผมต้องทำประตูและผ่านให้เพื่อนร่วมทีมยิง เราเล่นดีในครึ่งหลังและมีเกมที่ดีเยี่ยม"


        "มันเหลือเชื่อจริงๆ ตอนที่ผมเดินลงสู่สนาม มันเป็นอะไรที่สวยงามมาก ผมประหม่าตอนลงสู่สนาม มันเป็นความฝันของผม และตอนนี้ผมก็สนุกกับมันจริงๆ"
        

มาร์ตี้ฉุนเชิ๊ตดำแจกจุดโทษได้ไง

        โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือ วีแกน แอธเลติก หงุดหงิดกับการตัดสินของ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินที่มอบจุดโทษให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ต้นเกม ทั้งที่เป็นจังหวะไม่น่าฟาวล์ด้วย แม้ อาลี อัล ฮับซี่ จะเซฟได้ก็ตาม


        "วันนี้ผมได้รู้ว่าเมื่อคุณมาเยือนสถานที่แบบนี้ คุณต้องการผู้ตัดสินที่แข็งแกร่ง การตัดสินให้จุดโทษเป็นเรื่องช็อกทีเดียว ผมไม่ใส่ใจกับผลการแข่งขัน ผมจะรับผิดชอบเรื่องนั้น แต่มันยากในการมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แล้วมีผู้ตัดสินที่ถูกชักจูงง่ายแบบนี้"
        

รับฟอร์มของทีมยังห่างจากซีซั่นก่อน
   

 

        มาร์ติเนซ กระตุ้นลูกทีมต้องรีบเรียกฟอร์มการเล่นจากเมื่อฤดูกาลที่แล้วกลับมาให้ได้ โดยเร็ว เพราะมองว่าผลงานยังห่างชั้นจากที่เคยสร้างเอาไว้เมื่อซีซั่นก่อน


        "เรามีมาตรฐานที่ดีกว่าที่เราเล่นในวันนี้ ครึ่งแรกเราเล่นกันอย่างกล้าหาญ แต่ก็ทิ้งโอกาสทำประตูไป หลังจากนั้นพวกเขาก็เลยเล่นได้ผ่อนคลายขึ้น"


        "เรายังไม่ได้ใกล้เคียงกับระดับที่เคยเล่นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เรามีทีมที่แข็งแกร่งและต้องทำงานหนักต่อไป ผมชื่นชมกับฟอร์มการเล่นหลายอย่างของเรา แต่ก็ต้องแสดงความยินดีกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วย"