โด้ฮีโร่!ชุดขาวเปิดรังอัดแซงเรือใบท้ายเกม3-2
Posted 19/09/2012 by siamdara
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี.
วันอังคารที่ 18 กันยายน 2555
เรอัล มาดริด (สเปน) 3 - 2 แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
บิ๊กแมตช์ที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เปิดบ้านรับแข้ง "เรือใบ" แมนฯ ซิตี้ เกมนี้เจ้าถิ่นดร็อปแกนหลักอย่างเซร์คิโอ รามอส, คาริม เบนเซม่า และ เมซุต โอซิล เป็นแค่สำรอง เช่นเดียวกับลูก้า โมดริช พร้อมเปิดโอกาสให้ไมเคิ่ล เอสเซียง และ กอนซาโล่ อิกวาอิน เป็นตัวจริง ร่วมกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ประจำทีม ส่วนซิตี้ประเดิมมาติย่า นาสตาซิช กองหลังดาวรุ่งตัวใหม่ทันที แต่เซร์คิโอ อเกวโร่ ยังเป็นแค่สำรองในแดนหน้า
เปิดฉากขึ้นมาราชันเดินหน้าลุยใส่ทันที นาทีที่ 9 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวพลิกหนีแว็งซ็องต์ ก็องปานี ก่อนยิงทันที แต่โจ ฮาร์ท พุ่งปัดทิ้งออกหลังไปหวุดหวิด
จากนั้นนาที 21 ราชันน่าได้มาก กอนซาโล่ อิกวาอิน หลุดเข้าไปยิงติดบล็อกฮาร์ท บอลยังไม่พ้นอันตราย อิกวาอินเก็บคืนมาให้โรนัลโด้ยิงแฉลบกองหลังซิตี้ บอลปลิ้นมาเข้าทางซามี่ เคดิร่า ที่แปตามน้ำทันที แต่ก็ข้ามคานออกหลังไป
เรอัล มาดริดครองเกมบุกกดดันอยู่ฝ่ายเดียว ชนิดพับสนาม จนครบครึ่งชั่วโมงก็ได้ลุ้นอีก มาร์เซโล่ เติมเกมรุกขึ้นมายิงไกล แต่ก็เข้าซองฮาร์ทแบบไม่ยาก
แถมซิตี้ต้องปรับหมากในนาที 35 ซามีร์ นาสรี่บาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่งอเล็กซานเดอร์ โคลารอฟลงแทน
ท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่นมีโอกาสบ้างประปราย แต่จังหวะสุดท้ายไม่คมเอง หมดครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
ครึ่งหลังเรอัล มาดริดลุยต่อ และนาทีที่ 52 ฆาบี้ การ์เซียกองกลางแมนฯ ซิตี้ก็รับใบเหลืองเป็นรายแรกในจังหวะเสียบเอสเซียงแถวกลางสนาม
นาทีที่ 60 มาร์เซโล่แบ็คซ้ายเจ้าบ้านพาบอลบุกมาขึ้นมาส่องจากหน้าเขตโทษ แต่ไม่ตรงกรอบก่อนที่เรือใบจะเปลี่ยนตัวสำรองอีกรายให้เอดิน เชโก้ลงไปแทนดาบิด ซิลบาในนาทีที่ 62
ด้านราชันชุดขาวส่งโอซิลลงไปแทนเอสเซียงเป็นตัวสำรองรายแรกในอีกสองนาทีต่อมา และนาทีที่ 65 มาร์เซโล่ลองเข่นจากหน้าเขตโทษอีกที คราวนี้บอลข้ามคานไปแค่คืบเท่านั้น
ในที่สุดนาทีที่ 69 เรอัล มาดริดก็บุกขึ้นสูงจนโดนโต้โดยเปเป้เสียบอลแถวแดนกลาง ยาย่า ตูเร่จึงลากขึ้นไปไหลทะลุช่องให้เชโก้เผด็จศึกจาก 16 หลาผ่านอีเคร์ กาซิยาสเข้าประตูพาเรือใบบุกมานำ 1-0
เขี่ยบอลกันใหม่นาทีเดียว ก็องปานีก็ได้ใบเหลืองในจังหวะทำฟาวล์โรนัลโด้ แต่นาทีที่71ทีมจากเมืองผู้ดีเกือบได้สกอร์อีกเมื่อคาร์ลอส เตเวซลุยขึ้นไปจ่ายบอลให้เชโก้เจ้าเก่าง้างยิงจากริมเขตโทษฝั่งซ้ายถูกกาซิยาสปัดได้หวุดหวิด
จากนั้นเรอัล มาดริดก็ใช้บริการของลูก้า โมดริชกับคาริม เบนเซม่าลงไปแทนเคดิร่ากับอิกวาอีน ขณะที่แมนฯ ซิตี้ส่งปาโบล ซาบาเลต้าแทนที่ไมค่อนในนาทีที่ 74
ถัดมาอีกพักเดียว ตูเร่ได้กระชากบอลขึ้นฝั่งขวาไปกระทุ้งแถวริมเขตโทษ แต่ถูกมาร์เซโล่ตามบีบบอลจึงเข้าหน้าต่างอย่างน่าเสียวไส้
และแล้วนาทีที่ 76 เจ้าบ้านก็ทวงประตูคืนได้เมื่อมาร์เซโล่บุกขึ้นสูงมาหาโอกาสสับไกจากหน้าเขตโทษอีกหน แล้วบอลแฉลบการ์เซียเข้าเสียบใต้เพดานทำให้สกอร์เปลี่ยนเป็น 1-1
เรือใบสีฟ้ามาได้ประตูนำ 2-1 อีกครั้งนาทีที่ 85 จากจังหวะที่ ได้ลูกตั้งแตะบริเวณฝั่งขวาระยะประมาณ 30 หลาเป็น อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ รับหน้าที่เปิดบอลกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไป
ยังไม่ทันสิ้นเสียงเฮเพียงแค่สองนาทีถัดมา นาทีที่ 87 ชุดขาวไล่ตามตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จจากการพลิกตัวยิงกลางกรอบเขตโทษของเรือใบโดย คาริม เบนเซม่า ด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเลียดเสียบมุมผ่านมือ โจ ฮาร์ท นายด่านทีมเยือนที่พุ่งสุดตัวแต่ไม่ถึงเข้าไปตุงตาข่าย
เรือใบโหมบุกเพลินๆ แต่กลับเป็น ชุดขาว ที่ได้ประตูแซงนำนาทีที่ 90 จาก จังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กระชากบอลเข้าไปสับโยกหลอก ปาโบล ซาบาเลต้า ในเขตโทษเรือใบ พาบอลเข้าเท้าขวาและซัดเต็มข้อบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นก่อนหนึ่งครั้งผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าไปไม่เหลือซาก
ช่วงท้ายทดเวลาบาดเจ็บ ทัพเรือใบ พยายามโหมบุกทวงประตูคืนแต่ไม่ผ่านแนวรับ เรอัล มาดริด จบเกม เรอัล มาดริด แซงเก็บชัยเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบสุดมันส์ 3-2 คว้าสามแต้มแรกในรังได้สำเร็จ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซียาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, คเลแปร์ ลิม่า เดอ แฟร์เรยร่า "เปเป้", ราฟาแอล วาราน, "มาร์เซโล่" ดา ซิลวา จูเนียร์, ชาบี อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า, อังเคล ดิ มาเรีย, ไมเคิ่ล เอสเซียง, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, กอนซาโล่ อิกวาอิน
สำรอง : อันโตนิโอ อาดาน, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา, ริคาร์โด้ กาก้า, คาริม เบนเซม่า, เมซุต โอซิล, ลูก้า โมดริช
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ดั๊กลาส ไมคอน, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, มาติย่า นาสตาซิช, กาแอล กลิชี่, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, ฆาบี การ์เซีย, ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่, คาร์ลอส เตเวซ
สำรอง : คอสเตล ปันติลิมอน, ปาโบล ซาบาเลต้า, โจลีออน เลสค็อตต์, เอดิน เชโก้, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, เซร์คิโอ อเกวโร่, แจ๊ค ร็อดเวลล์
ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวาเกีย)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
10 นายทวารเหนียวหนึบตัวจริง
ในโลกฟุตบอลแล้วนั้น หนึ่งในตำแหน่งที่น่าน้อยใจที่สุดก็คือผู้รักษาประตู เพราะทั้งๆ ที่พวกเขามีความสำคัญไม่น้อยหน้าไปกว่าพวกดาวยิงทั้งหลาย แต่กลับไม่ได้รับการใส่ใจมากเท่ากับพวกกองหน้า แถมพอพลาดแค่ครั้งเดียวก็ยังโดนด่ายันลูกบวชได้เลยทีเดียว ถึงแม้ในเกมเดียวกันพวกเขาจะมีชอตเซฟที่สวยเป็นสิบๆ ครั้งก็ตาม เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาให้เกียรติกับเหล่านายทวารในยุคนี้ ด้วยการร่างรายชื่อ 10 ยอดผู้รักษาประตูในปัจจุบันกัน
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ผลบอล : เปแอสเช ไล่เจ๊าซิวแชมป์! กอนคาโล่ รามอส โขกหนึ่งพร้อมจ่ายตี เลอ อาฟร์
วิเคราะห์บอล บาร์เซโลน่า พบ บาเลนเซีย วันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2567
ลุล่วง! นาโปลี จ่อตั้ง อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือใหม่
ดราม่า!โธมัส ทูเคิ่ล สวน อูลี่ เฮอเนส พูดไร้สาระ
จะเอายังไงกันแน่?นักข่าวดังแฉ แมนยู พร้อมขาย มาร์คัส แรชฟอร์ด
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
"ศุภชัย" ซัดเบิ้ล! ไทย ทุบ คีร์ก...
โดนรัวครึ่งหลัง! ไทย บุกพ่าย ญี่...
คลิปไฮไลท์