ปรีวิว ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

(นัดที่ 7 ฤดูกาล 2012-13)

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2555

บาร์เซโลน่า     -     เรอัล มาดริด

สนาม: เอสตาดิโอ คัมป์ นู, กาตาลุนญ่า

        ย้อนรอยการเผชิญหน้ากันของคู่ยักษ์ชนยักษ์ของแดนกระทิงดุใน 18 ฤดูกาลหลังสุด เจอกันทั้งหมด 49 นัด ปรากฏว่า บาร์เซโลน่า ชนะไป 22 ส่วน เรอัล มาดริด คว้าชัยไปได้แค่ 13 ที่เหลืออีก 14 นั้น เสมอกันไป

        หากจำแนกออกมาเป็นการเจอกัน 6 ครั้งหลังสุดในทุกรายการนั้น บาร์ซ่า ชนะไป 3 ส่วน เรอัล มาดริด คว้าชัยได้ 2 ครั้ง ที่เหลืออีก 1 นั้นเสมอกันไป

        อย่างไรก็ตาม "เอล กลาซิโก้" ครั้งล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด เอาชนะ บาร์เซโลน่า ได้ 2-1 ในศึกซูเปร์ โกปา นัดที่สอง เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทำให้รวมผลสองนัดเสมอ 4-4 แต่ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ด้วยผลต่างประตูทีมเยือนที่ดีกว่า

        กระนั้นก็ดีเวลานี้ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ออกสตาร์ตร้อนแรงมากคว้าชัยชนะ 6 นัดรวดในลา ลีกา ซีซั่นนี้ มี 18 แต้มเต็ม นำเป็นจ่าฝูงตั้งแต่ต้น โดยนัดที่แล้วได้ 2 ประตูในช่วงท้ายเกม ทำให้แซงชนะเซบีย่า 3-2 อย่างเหลือเชื่อ

        สภาพทีมของบาร์ซ่า ต้องขาด เอริก อบิดัล ที่พักฟื้นจากการปลูกถ่ายตับ รวมไปถึง การ์เลส ปูโยล กองหลังกัปตันทีมที่ข้อศอกหลุดในเกมยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่เจอกับ เบนฟิก้า เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ต้องพักประมาณ 2 เดือนเต็ม

        ส่วน ติอาโก้ อัลกานตาร่า มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าฉีก พัก 2 เดือนเต็ม ในรายของ มาร์ก มูเนียซ่า กับ อิซัค เกวนก้า สองดาวรุ่งยังเดี้ยงชวดบู๊ แต่รายของ เคราร์ด ปีเก้ ปราการหลังทีมชาติสเปนฟื้นตัวจากการบาดเจ็บเท้ากลับมาซ้อมได้แล้ว โอกาสลงสนามเกมนี้มีประมาณ 50-50

        หากลงไม่ได้จะเป็น อเล็กซ์ ซง ได้ยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ แทน แต่ข่าวดีคือ อันเดรส อิเนียสต้า มิดฟิลด์ตัวกลั่นหายเจ็บ กลับมาลงสนามในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ได้แล้ว น่าจะได้เล่นเป็นสามประสานแดนหน้าร่วมกับ เปโดร โรดริเกซ และ ลีโอเนล เมสซี่ ดาวดังชาวอาร์เจนไตน์ที่ซัดไปแล้ว 6 ประตู ในลา ลีกา

        ขยับมาทาง โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ฝีมือเยี่ยมชาวโปรตุกีสของเรอัล มาดริด แชมป์เก่าลา ลีกา ซีซั่นก่อน ฟอร์มเริ่มกระเตื้องขึ้นมาแล้ว หลังชนะรวด 4 เกมในทุกรายการ โดยกลางสัปดาห์ บุกไปถล่มอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในแชมเปี้ยนส์ ลีก 4-1 ส่วนในลีกกระหน่ำ ลา กอรุนญ่า ขาดลอยเละเทะ 5-1

        สภาพทีมสมบูรณ์สุดๆ ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเลย เกมนี้ได้ ฟาบิโอ โคเอนเตรา วิงแบ็คทีมชาติโปรตุเกส พ้นโทษแบน 4 นัดกลับมาแล้ว น่าจะได้เล่นเป็นตัวจริงทันที พร้อมกับให้ เซร์คิโอ รามอส กลับมาเป็นหัวใจหลักในแนวรับของทีมอีกครั้งจับคู่กับ เปเป้ ตามเดิม

        ขณะที่แดนกลาง ชาบี อลอนโซ่ คุมเกมร่วมกับ ซามี เคดิร่า เปิดทางให้กับ อังเคล ดิ มาเรีย และ เมซุต โอซิล ที่จะกลับมาเป็นตัวจริงในเกมนี้ ประสานงานกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส ที่ซัดไปแล้ว 6 ประตูในลา ลีกา ช่วยกันสร้างสรรค์เกมให้กับ คาริม เบนเซม่า กองหน้าดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส เข้าทำสกอร์

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

        บาร์เซโลน่า: บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อเล็กซ์ ซง (เคราร์ด ปิเก้), อาเดรียโน่ คอร์เรอา - เชส ฟาเบรกาส, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี เอร์นานเดซ (กัปตันทีม) - เปโดร โรดริเกซ, ลีโอเนล เมสซี่, อันเดรส อิเนียสต้า

        เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โคเอนเตรา - ซามี เคดิร่า, ชาบี อลอนโซ่ - อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า

บาร์เซโลน่า   -   เรอัล มาดริด
- ถ้าบาร์ซ่าชนะในเกมนี้ จะเป็นการออกสตาร์ตที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร (ชนะ 7 เกมรวด)
- ลิโอเนล เมสซี่ เป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่ทำแฮตทริกในเอล กลาซิโก้ จากเกมเสมอ 3-3 เมื่อเดือนมีนาคม 2007 ที่คัมป์ นู
- นอกจากนั้น เมสซี่ยังทำประตูในเอล กลาซิโก้ ทั้งหมด 15 ลูก (ในทุกรายการ) สูงสุดของฝั่งบาร์ซ่า เป็นรองแค่ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ของเรอัล มาดริด ที่ยิง 18 ประตูเพียงรายเดียว
- อเล็กซิส ซานเชซ จะลงเล่นเกมนี้เป็นนัดที่ 50
- ราชันชุดขาวในยุคของ โชเซ่ มูริโญ่ มีสถิติเยือนคัมป์ นู 5 ครั้งหลังสุด ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 2
- สถิติทั้งหมดของมูรินโญ่ในเอล กลาซิโก้ คือ ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 6 โดยชัยชนะสามครั้งเกิดขึ้นในคัมป์ นู, ซานติอาโก้ เบร์นาเบว และสนามกลางอย่างละนัด
- 8 จาก 11 ใบแดงหลังสุดของคู่นี้ มาจากผู้เล่นของเรอัล มาดริด
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงบาร์ซ่าได้ 8 ประตูจากการเผชิญหน้า 18 เกมก่อนหน้านี้ (รวมถึงสมัยอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด) ซึ่ง 5 เกมหลังที่เจอกัน โรนัลโด้ยิงได้ทุกนัด
- อเล็กซิส ซานเชซ ยิงเรอัล มาดริด ได้ทั้งสองนัดที่เจอกันในฤดูกาลที่แล้ว
- คู่นี้เสมอกันแค่ครั้งเดียวจาก 7 หนหลัง โดยที่เหลือบาร์ซ่าชนะ 4 เรอัล มาดริดชนะ 2
- 6 จาก 8 เกมหลังที่เจอกัน เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายทำประตูขึ้นนำได้ก่อน โดยเฉพาะ 3 ครั้งหลัง ซึ่งพวกเขาเป็นฝ่ายชนะ 2 ครั้งในบั้นปลาย

โปรแกรม ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
17.00 น. เลบันเต้ - บาเลนเซีย 
21.00 น. มายอร์ก้า - กรานาด้า 
23.00 น. แอธ.บิลเบา - โอซาซูน่า
00.50 น.  บาร์เซโลน่า - เรอัล มาดริด
02.30 น. แอต.มาดริด - มาลาก้า