เวย์น รูนี่ย์ กับ แดนนี่ เวลเบ็ค ควงกันซัดคนละสองตุง ปล่อยให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กดอีกประตู ช่วย "สิงโตคำราม" อังกฤษ โชว์ฟอร์มสุดโหดเปิด เวมบลีย์ ไล่ถล่ม "สมันน้อย" ซาน มารีโน่ ไปตามคาด 5-0 เก็บไปสามแต้มตามความคาดหมาย ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอช. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา

                                                                          ฟุตบอลโลก 2014

                                                                     รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอช.

                                                                       วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2555

                                                                     อังกฤษ 5   -   0 ซาน มารีโน่

สนาม : เวมบลีย์

     สิงโตคำราม ต้องขาด สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ เกล็น จอห์นสัน ติดโทษแบน ทำให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ กับ ไมเคิ่ล แคร์ริค ได้รับโอกาสลงตัวจริง แนวรุก เวย์น รูนี่ย์ ที่เป็นกัปตันทีม ลงยืนคู่ แดนนี่ เวลเบ็ค

     ส่วนทีมเยือน ซาน มารีโน่ ทีมอันดับสุดท้ายของฟีฟ่าแรงกิ้ง จัดทัพแบบเน้นเกมรับเหนียวแน่นในระบบ 5-4-1 แนวรุกทิ้ง ดานิโล่ รินัลดี้ ยืนค้ำแดนหน้าคนเดียว

     เริ่มเกมขึ้นมา 5 นาที อังกฤษ ต้องเสีย ธีโอ วัลค็อตต์ ที่หลุดเดี่ยวไปปะทะกับ อัลโด้ ซิมอนชินี่ นายทวารทีมเยือนจนบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว สุดท้ายต้องส่ง อารอน เลนน่อน ลงสนามแทนในนาทีที่ 10

     รูปเกมเป็นเจ้าถิ่นที่ครองบอลบุกต่อเนื่อง แต่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ยังจบสกอร์ไม่ได้ นาทีที่ 33 เป็นโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุด ไมเคิ่ล แคร์ริค ตะบันทีแรกไปชนคานกระดอนออกมา แดนนี่ เวลเบ็ค ตามซ้ำด้วยซ้ายเช็ดเสาออกหลังอีก

     นาทีที่ 35 สิงโตคำราม มาได้จุดโทษ เมื่อ แดนนี่ เวลเบ็ค กระชากบอลหนี ซิมอนชินี่ แล้วโดนรวบล้มลงไป ซึ่งนายประตูซาน มารีโน่โดนใบเหลืองด้วย ก่อนที่ เวย์น รูนี่ย์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดเป้า อังกฤษ นำ 1-0

     ถัดจากนั้น 2 นาทีสกอร์เปลี่ยนเป็น 2-0 สำหรับเจ้าบ้าน ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ทิ่มบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ อารอน เลนน่อน ตัวสำรอง ปาดเรียดเข้ากลาง แดนนี่ เวลเบ็ค ยิงไขว้หลังด้วยเท้าขวาเข้าไปอย่างเหนือชั้น

     อังกฤษ จ้องเอาประตูที่สามอีกในช่วงท้ายครึ่งแรก เวย์น รูนี่ย์ ปั่นโค้งด้วยขวาจากหน้ากรอบโทษ บอลเลี้ยวเข้าหาเสาไกลแล้ว แต่ ซิมอนชินี่ พุ่งปัดพ้นเสาได้เยี่ยม จบครึ่งแรก อังกฤษ นำ 2-0

     กลับมาเล่นครึ่งหลัง สิงโตคำราม น่าได้เม็ดสามในนาทีที่ 53 เป็นจังหวะประสานงานของ เลนน่อน กับ เวลเบ็ค ไปถึง ไมเคิ่ล แคร์ริค หลุดเข้าไปซัดติดเซฟ ซิมอนชินี่ ที่ใช้เท้าป้องกัน

     เป็น อังกฤษ ที่ครองบอลบุกฝ่ายเดียว ขณะที่ทีมเยือนตั้งรับกันต่ำมาก ทำให้เจาะเข้าลำบาก ถึงนาทีที่ 66 จึงเปลี่ยนตัวคนที่สองส่ง จอนโจ เชลวี่ย์ ลงแทน แคร์ริค เป็นการลงประเดิมทีมชาติชุดใหญ่ของ เชลวี่ย์ ด้วย

     หลังจากเจาะสั้นๆ ไม่เข้าอยู่นาน ในที่สุด อังกฤษ ก็มายิงเพิ่มเป็น 3-0 ในนาทีที่ 70 เริ่มจาก เชลวี่ย์ วางบอลยาวออกซ้ายให้ เบนส์ โหม่งตั้งเข้ากลาง เลนน่อน วิ่งมารับบอลแล้วโดนสะกิดล้ม ก่อนที่ รูนี่ย์ จะรับช่วงต่อ ปั่นโค้งด้วยขวาจากระยะ 20 หลาเลี้ยวเสียบเสาเข้าไปแบบไม่ต้องจับ เป็นประตูที่ 2 ของ รูนี่ย์ ในเกมนี้

     ถัดจากนั้น 2 นาที เจ้าบ้านยิงนำห่างเป็น 4-0 ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ลุยเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วผ่านเรียดเข้ากลาง แดนนี่ เวลเบ็ค แปด้วยขวาจ่อๆ ลอดขา ซิมอนชินี่ เข้าไป เป็นลูก 2 ของ เวลเบ็ค เกมนี้เช่นกัน

     นาทีที่ 73 รูนี่ย์ ถูกถอดออกจากสนาม แล้วส่ง แอนดี้ แคร์โรลล์ ลงแทน โดยปลอกแขนกัปตันทีมไปอยู่กับ โจ ฮาร์ท

     ประตูปิดท้าย 5-0 ของ อังกฤษ เกิดขึ้นในนาทีที่ 77 เบนส์ ลุยถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายแล้วผ่านเข้ากลาง เคลฟเวอร์ลี่ย์ ป้ายต่อให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ปั่นข้าม ซิมอนชินี่ เสียบใต้คานเข้าไป เป็นประตูแรกของปีกวัย 19 กับทีมชาติชุดใหญ่ด้วย

     ช่วงเวลาที่เหลือยังคงเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมบุกแต่ฝ่ายเดียวแต่ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้จบเกม อังกฤษ ถล่ม ซาน มารีโน่ ไปเบาะๆ 5-0 เก็บสามแต้มเต็ม รวมเพิ่มเป็น 7 คะแนนแล้ว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, ไคล์ วอล์คเกอร์, แกรี่ เคฮิลล์, ฟิล จากีลก้า, เลห์ตัน เบนส์, ธีโอ วัลค็อตต์ (อารอน เลนน่อน น.10), ไมเคิ่ล แคร์ริค (จอนโจ เชลวี่ย์ น.66), ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เวย์น รูนี่ย์ (แอนดี้ แคร์โรลล์ น.73), แดนนี่ เวลเบ็ค

     ซาน มารีโน่ : อัลโด้ ซิมอนชินี่, คริสเตียน โบรลลี่, อเลสซานโดร เดลลา วัลเล่, ดาวิเด้ ซิมอนชินี่, ฟาบิโอ วิตาโยลี่ (ซิโมเน่ บาชชอคคี่ น.84), เมียร์โก ปาลาซซี่, อเล็กซ์ กัสเปโรนี่, มิเคเล่ แชร์เวลลินี่, มัตเตโอ ค็อปปินี่ (ลอเรนโซ่ บุสคารินี่ น.76), เอ็นริโก้ ชิเบลลี่, ดานิโล่ รินัลดี้ (แอนดี้ เซลบา น.79)

     
ผู้ตัดสิน : เจดิมินาส มาเซก้า (ลิทัวเนีย)