คู่รักวัยกระเตาะ ''ชาช่า-เลโอ'' รับคบหาดูใจมากว่า 4 ปี ในฐานะคนพิเศษ ขออุบไม่เรียกแฟน เผย ''เป๊ก-ธัญญ่า'' รับรู้ความสัมพันธ์ ฝ่ายชายปัดซื้อแหวนตีตราจอง เผยแค่ของขวัญวันเกิดเท่านั้น แจงธุรกิจร้านเสื้อผ้าที่ลงทุนร่วมกันไปได้ดี เตรียมขยายร้านเร็วๆ นี้ บอกไม่กลัวอาถรรพ์ทำธุรกิจร่วมกันทำรักล่ม

    เป็นคู่รักวัยรุ่นสุดแนวที่น่ารักคู่หนึ่งเลยทีเดียว กับคู่ของสาว ''ชาช่า'' อริต์ตา รามณรงค์ กับพิธีกรหนุ่มหน้าใส ''เลโอ โซสเซย์'' อดีตสมาชิกวง บี-โอ-วาย ที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานกว่า 4 ปีแล้ว แต่ยังอุบความสัมพันธ์ไม่ขอใช้คำว่าแฟนเพราะกลัวจะแรงไป ขอดูกันไปคบกันไปแบบยาวๆ ดีกว่า ล่าสุด เจอะตัวทั้งคู่ในงานครบรอบ 4 ปี ช่องแบงแชนแนล ที่ตึกจีเอ็เอ็ม เมื่อวันก่อน เลยต้องขอจับทั้งคู่มาสอบถามเรื่องราวความรักสักหน่อย ซึ่งหนุ่มเลโอนั้นก็ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยรอยยิ้มถึงเรื่องความสัมพันธ์กับสาวชาช่าว่า
    

    ''ครับ ก็สนิทครับ เรียกว่าแฟนอาจจะโจ๋งครึ่มไป ก็เรียกว่าคนพิเศษดีกว่าครับผมว่า (หัวเราะ) เด็กอยู่ด้วยครับผมว่ามันจะดูไม่ดี อาจจะรอให้โตกว่านี้ก็ดูกันไปเรื่อยๆ ยาวๆ ดีกว่า เราคุยกันมาเรื่อยๆ เราอาศัยความเข้าใจกันมากกว่ามันก็เลยคุยกันได้ยาวๆ ครับ ก็สนิทกันมาจะ 4 ปีแล้วครับผม''
    

    ก่อนที่ด้านสาวชาช่า จะให้สัมภาษณ์เสริมทันทีว่า
    

    ''ก็ไม่รู้สิ พวกเราก็ไม่ได้พูดคุยกันว่า เห้ย..เราเป็นแฟนกันนะอะไรแบบนี้ แต่ว่าเราก็คบกันสนิทกัน''
    

    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ลูกพี่ลูกน้องของสาวชาช่าอย่างธัญญ่านั้นรู้หรือไม่ว่าทั้งคู่กำลังคบหาดูใจกัน
    

    ''พี่ธัญญ่ารู้ค่ะ ก็เคยเจอพี่เลโอเหมือนกัน ก็ไม่อะไรนะคะ จะมีก็พี่เป๊กที่แบบแซวๆ ว่า ผมทรงอะไรวะ (หัวเราะ) อะไรแบบเนี้ย ก็อาจจะมีหวงขู่สไตล์พี่เป๊กอ่ะค่ะ''
    

    จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นว่า นิ้วนางของสาวชาช่านั้นมีแหวนอยู่จึงถามว่าเป็นแหวนที่เลโอให้เพื่อตีตราจองหรือเปล่า ด้านหนุ่มเลโอก็ได้ยิ้มก่อนให้คำตอบเรื่องนี้ว่า
    

    ''เอ่อ...อันนี้ผมซื้อให้จริงครับ แต่ซื้อให้นานแล้วครับ ประมาณ 3  ปีที่แล้วตอนวันเกิด ซึ่งจริงๆ มันมีของผมด้วยนะ แต่ผมทำหาย ก็เห็นว่าน่ารักดี เห็นว่าตอนนั้นเขายังไม่มีแหวนใส่เลยซื้อให้ครับ ที่ซื้อให้ใส่นิ้วนางก็เพราะแหวนนิ้วนางของผู้หญิงเป็นอะไรที่ง่ายสุดแล้วครับ เพราะนิ้วนางของผู้หญิงจะเท่านิ้วก้อยของผู้ชาย'' ก่อนที่ทางด้านสาวชาช่า จะกล่าวต่อว่า
    

    ''ของพี่เลโอหายไปแล้ว เขาเป็นคนไม่ค่อยดูแลรักษา ตอนแรกก็ถามว่าทำไมไม่ใส่ เขาบอกว่าหาย เราก็แบบอ่ะหายก็หาย เข้าใจได้ค่ะ ถามว่าตีตราจองไหมเขาก็ไม่ได้ใส่ให้นะ เขาบอกใส่เองได้ก็ใส่สิ'' (หัวเราะ)
    

    ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงธุรกิจร้านเสื้อผ้าที่เปิดร่วมกันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ด้านสาวชาช่าให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า
    

    ''ใช่ค่ะ มีร้านที่สยาม ซอย 2 เป็นร้านเสื้อผ้า เคสโทรศัพท์อะไรแบบนี้ ก็เราสนิทกันแล้วคุณแม่เราก็ช่วยด้วยน่ะค่ะ ก็ถือว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ตังค์ด้วยค่ะ'' ซึ่งด้านหนุ่มเลโอก็ได้กล่าวเสริมต่อด้วยว่า
    

    ''ผมคิดว่าเอาเวลาว่างแทนที่จะไปเสียตังค์ดูหนัง ช็อปปิ้ง มาหาตังค์ดีกว่า พวกเราก็ไม่ได้คิดหรือเชื่อเรื่องอาถรรพ์อะไรนะครับ ก็ทำมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้มีอยู่หนึ่งสาขาที่สยาม ก็กำลังแพลนว่าจะย้ายร้าน แต่ก็ยังอยู่ที่สยามเหมือนเดิม เพียงแต่พื้นที่ในร้านก็จะกว้างขึ้นเพราะร้านเดิมมันเล็ก ย้ายไปที่ๆ ใหญ่ขึ้น ส่วนเรื่องเงินเราไม่ได้ซีเรียสอะไรเลยครับ ทำๆ ไป สนุกๆ ไปแล้วก็เก็บเข้าบัญชีรวม อาจจะมีปัญหาทางธุรกิจบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์อะไรนะครับ อาจจะแบบคนหนึ่งชอบสีนี้ คนหนึ่งชอบอีกสี อะไรแบบนี้มากกว่าครับ'' เลโอ กล่าว