เจิดพลาดโทษ!หงส์พ่ายแบ็กกี้ส์คารัง0-2

ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เจิดพลาดโทษ!หงส์พ่ายแบ็กกี้ส์คารัง0-2

เจิดพลาดโทษ!หงส์พ่ายแบ็กกี้ส์คารัง0-2

Posted 12/02/2013 by siamsport

เวสต์ บรอม เวสต์บรอม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผู้ตัดสิน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส โฆเซ่ เอ็นริเก้ เชน ลอง สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง เจมี่ คาร์ราเกอร์

สตีเว่น เจอร์ราร์ด พลาดการสังหารจุดโทษขึ้นนำ ก่อน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ถูก "เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช ใช้จังหวะสวนกลับไวบุกมาอัดชัย 2-0 ส่งผลให้ เวสต์บรอมวิช แซงขึ้นไปอยู่ที่ 8 ของตาราง เขี่ยเจ้าถิ่นหล่นไปอยู่ที่ 9 แทน ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556

ลิเวอร์พูล 0 - 2 เวสต์บรอมวิช

สนาม : แอนฟิลด์ ผู้ชม: 44,000 คน

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เบรนแดน ร็อดเจอร์ส สภาพทีมขาด แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าตัวเก่งที่ฟิตไม่ทัน แต่ได้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ฟิตกลับมามีชื่อเป็นสำรอง โดยการจัดทัพแดนกลางยึดชุดใหญ่มี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลวา และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด นำทัพ แนวรุกส่ง จอนโจ เชลวี่ย์ ลงมาประสานงานกับ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง และ หลุยส์ ซัวเรซ

ฟาก "เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช ภายใต้การคุมทีมของ สตีฟ คล้าร์ก มีข่าวดีคือได้ ยุสซุฟ มูลุมบู ฟิตกลับคืนตัวจริง ส่วนแบ็กซ้ายกลับมาใช้ เลียม ริดจ์เวลล์ แทน โกรัน โปปอฟ ที่ติดโทษแบน แนวรุกวาง คริส บรันท์, เจมส์ มอร์ริสัน และ เกรแฮม ดอร์แรนส์ คอยปั้นเกม หน้าเป้าวาง เชน ลอง คอยจบสกอร์

เขี่ยบอลเริ่มเกมมา หงส์แดง ครองบอลบุกเข้าใส่ทันที และนาทีที่ 8 ก็สามารถส่งบอลเข้าไปสู่ก้นตาข่ายได้ เกล็น จอห์นสัน เติมเกมบุกขึ้นมาตัดสินใจยิงยัดเข้ามาถูก เบน ฟอสเตอร์ บินปัดทิ้งออกมาเข้าทาง เชลวี่ย์ ซ้ำดาบสองตุงตาข่าย แต่ก็ต้องเฮเก้อเมื่อผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

รูปเกมยังเป็นเจ้าบ้านครองสถานการณ์ไว้ได้หมด นาที 24 สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง โยนลูกเตะมุมโค้งเข้ามาให้ แดเนียล แอ็กเกอร์ เทกขึ้นโขกบอลถูก ฟอสเตอร์ ผวาปัดบอลข้ามคานไปได้อีก

ต่อเนื่องเลยกับโอกาสของเจ้าบ้าน เจอร์ราร์ด ไหลบอลสั้นให้ ดาวนิ่ง กระชากเลี้ยงบอลตัดเข้าในมากดเต็มแรงกำลังจะเสียบใต้คาน แต่ ฟอสเตอร์ ยังไม่พลาดบินไปปัดบอลได้ทันอีก

แม้เจ้าบ้านจะเป็นฝ่ายครองเกมได้หมดแต่เกมรุกการต่อบอลดูสะเปะสะปะเหลือเกิน ก่อนที่นาที 40 จะได้เสียวอีกครั้งจากลูกที่ไม่น่ามีอะไร ซัวเรซ ไหลบอลออกทางขวาให้ เชลวี่ย์ แตะบอลไปสุดเส้นหลังก่อนตบเรียดคืนเข้ากลางถูก สตีเว่น รีด แตะสกัดบอลไม่ดีเกือบจะเข้าประตูตัวเองไป ดีที่ว่าบอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว จบ 45 นาทีแรกสกอร์บอร์ดในสนามยังไม่ขยับเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งเวลาหลังได้ 6 นาที เครื่องจักรสีแดง น่าจะได้ประตูขึ้นนำจริงๆ จากจังหวะโต้กลับเร็ว เกล็น จอห์นสัน ปาดจากกราบขวาเข้ากลางไปเสาแรกให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน สอดมาไขว้ยิง แต่ เบน ฟอสเตอร์ นายทวารเวสต์ บรอมวิช ปฏิกิริยารวดเร็วเหลือเกินใช้ขาขวางไว้ได้ทัน

เกมเป็นของเจ้าบ้านตลอด สองนาทีต่อมา ลิเวอร์พูล มีโอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่ จอนโจ เชลวี่ย์ ได้ซ้ำมุมแคบบอลผ่านเสาสองไป แต่จังหวะนี้ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

กระเถิบมานาทีที่ 59 หงส์แดง เปลี่ยนเอา ฟาบิโอ บอรินี่ กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงมาเล่นแทน จอนโจ เชลวี่ย์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

ลิเวอร์พูล บดหนักขึ้นเรื่อยๆ มีโอกาสอีกในนาทีที่ 68 เมื่อ ดาวนิ่ง ชิ่งให้กับ ฟาบิโอ บอรินี่ ตัวสำรองจิ้มไม่ผ่านมือของ เบน ฟอสเตอร์ นายทวารเวสต์ บรอมวิช

นาทีที่ 70 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้ซัดเน้นๆ แต่ เบน ฟอสเตอร์ ปัดไว้ได้มือเดียว บอรินี่ ตามชาร์จเฉี่ยวเสาออกไป

จากนั้น 6 นาที ลิเวอร์พูล ได้จุดโทษจากจังหวะที่ โยนาส โอลส์สัน กองหลังเวสต์ บรอมวิช ขึ้นโหม่งไปกระแทกใส่ทางด้านหลังของ หลุยส์ ซัวเรซ จนร่วงในเขตโทษ ผู้เตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมหงส์แดง รับหน้าที่สังหารซัดไปติดเซฟของ เบน ฟอสเตอร์ นายทวารจอมหนึบของเวสต์ บรอม ก่อนเพื่อนร่วมทีมช่วยกันเคลียร์ออกไปได้

อย่างไรก็ตาม กลายเป็น แบ็กกี้ส์ มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 81 จากลูกเตะมุมทางกราบขวา แกเร็ธ แม็คออลี่ย์ ปราการหลังโฉบมาโหม่งเช็ดคานเข้าไปอย่างสวยงามให้ เวสต์ บรอมวิช บุกมานำก่อน 1-0

ไม่เพียงเท่านั้นช่วงทดเจ็บนาทีที่ 91 หงส์แดงมาโดนอีกหนึ่งตุงจากจังหวัดโต้กลับเร็วเป็น เจมส์ มอร์ริสัน ที่จ่ายบอลให้ โรเมลู ลูกากู หลุดเดียวเข้าไปซัดผ่านตัว เรน่า เข้าไปไม่เหลือ แบ็กกี้ส์นำห่าง 2-0

เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม เวสต์ บรอมวิช พลิกล็อคบุกมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล ถึงรัง 2-0 สามแต้มสุดสำคัญของ เวสต์บอรมวิช ส่งผลให้ แซงขึ้นไปอยู่ที่ 8 ของตาราง เขี่ยเจ้าถิ่นหล่นไปอยู่ที่ 9 แทน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, แดเนียล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลวา, สตีเว่น เจอร์ราร์ด - สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, จอนโจ เชลวี่ย์, หลุยส์ ซัวเรซ

สำรอง : แบร็ด โจนส์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โจ อัลเลน, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, อันเดร วิสดอม, ฟาบิโอ บอรินี่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

เวสต์บรอมวิช : เบน ฟอสเตอร์ - สตีเว่น รีด, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์, โยนาส โอลส์สัน, เลียม ริดจ์เวลล์ - เคลาดิโอ ยาค็อบ, ยุสซุฟ มูลุมบู - คริส บรันท์, เจมส์ มอร์ริสัน, เกรแฮม ดอร์แรนส์ - เชน ลอง

สำรอง : โบอาซ มายฮิลล์, บิลลี่ โจนส์, กาเบรียล ทามาส, โรเมลู ลูกากู, มาร์ก-อองตวน ฟอร์ตูเน่, เจอโรม โธมัส, มาร์คุส โรเซนเบิร์ก

ผู้ตัดสิน : จอห์น มอสส์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

คล้าร์กเชื่อหงส์เล่นฟุตบอลดีที่สุดในลีกเวลานี้
สตีฟ คล้าร์ก กุนซือ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เชื่อเวลานี้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้ดีที่สุดในลีกเวลานี้ หลังบรรดาแข้งที่คว้าตัวเข้ามาในช่วงที่ตนยังทำงานกับ "เร้ด แมชีน" เริ่มปรับตัวได้และแสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมา แต่ก็หวังลึกๆ ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเล่นไม่ออกในเกมกับ "แบ็กกี้ส์" คืนวันจันทร์นี้
บีร็อดหวังแข้งหงส์เค้นฟอร์มเก่งหลังได้คูตินโญ่
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหนุ่มของ ลิเวอร์พูล เปิดอก หวังว่าการได้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ มิดฟิลด์อนาคตไกลมาร่วมทัพ จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้นักเตะในทีมต้องแย่งตำแหน่งกันจนเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ แต่ยัน จะไม่รีบส่งแข้งวัย 20 ปีลงสนามอย่างแน่นอน
หงส์เช็กสเตอร์ริดจ์โซ้ย-แบ็กกี้ส์ฟูลทีมสถิติข่ม
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ต้องรอลุ้น แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่มีอาการบาดเจ็บหายทันลงตัวจริง ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ ยังคงเป็นดาวยิงหลักลงล่าตาข่าย เกมรับการมาเยือนของ "เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ 11 ก.พ. ศกนี้
เอ็นริเก้เผยไม่พอใจร็อดเจอร์สจวกฟอร์มผ่านสื่อ
โฆเซ่ เอ็นริเก้ กองหลัง ลิเวอร์พูล เผยไม่พอใจเสียงวิจารณ์ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือของทีม หลังถูกจวกผ่านสื่อถึงการเล่นที่ย่ำแย่ช่วงต้นซีซั่นนี้ แต่ยอมรับเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ตัวเองโชว์ฟอร์มเก่งออกมา เช่นเดียวกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง 2 แข้ง "หงส์แดง" ที่ต่างยึดตัวจริงในตอนนี้