แกเร็ธ เบล ระเบิดฟอร์มสุดบรรเจิดซัดไกลนาทีที่ 90 ช่วย "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส พลิกแซงเก็บชัยเหนือ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เจ้าบ้านไปแบบสุดมันส์ 3-2 เก็บสามแต้มได้แบบหืดขึ้นคอ พร้อมทะยานขึ้นอันดับ 3 ของตารางทันทีโดยเขี่ย เชลซี หล่นไปอยู่อันดับที่ 4 แทน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 

เวสต์แฮม 2   -   3 สเปอร์ส

สนาม : อัพตัน พาร์ค

　　เกมลอนดอนดาร์บี้ที่รังอัพตัน พาร์ค คืนวันจันทร์นี้ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ของ  แซม อัลลาร์ไดซ์ ได้ เจมส์ คอลลินส์ กับ โจอี้ โอไบรอัน ฟิตกลับคืนสนาม และการจัดทัพมาในระบบเก่ง 4-2-3-1  มี เควิน โนแลน กัปตันทีมเป็นหน้าต่ำ ให้ โจ โคล กับ แม็ทธิว จาร์วิส ขึ้นเกม ริมเส้น หน้าเป้าให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ ลงล่าตาข่าย 

　　ฟาก "ไก่เดือยทอง" ภายใต้การคุมทีมของ อันเดร วิลลาช-โบอาช การจัดทัพกลับมาใช้ อูโก้ โยริส มือกาวกัปตันทีมชาติฝรั่งเศสกลับมาเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งอีกครั้ง แต่หน้าเป้ายังขาด เจอร์เมน เดโฟ ทำให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ได้ยืนหน้าเป้าต่อไป โดยมี อารอน เลนน่อน, เลวิส โฮลท์บี้ และ แกเร็ธ เบล คอยทำเกมรุกสนับสนุน

　　เขี่ยบอลเริ่มเกมมาเป็นเจ้าบ้านเดินหน้าลุยเข้าใส่ก่อนเลย นาทีที่ 10 แอนดี้ แคร์โรลล์ ลงไปล้วงบอลก่อนผ่านบอลออกทางซ้ายให้ โจ โคล แทงบอลต่อให้  แม็ทธิว จาร์วิส เลี้ยงบอลเข้าไปกดเรียดที่เสาแรกไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริส ล้มตัวตะครุบรับบอลได้ทัน

　　กระทั้งอีก 3 นาทีต่อมากลับเป็น สเปอร์ส ที่ได้เฮก่อนเลยจากความผิดพลาดของ กีย์ เดเมล แบ็กขวาจ่ายบอลพลาดเข้ากลางถูก แกเร็ธ เบล ฉกเอาบอลมาโยกหนี เจมส์ คอลลินส์ ก่อนกดเรียดด้วยซ้ายเสียบหน้าต่างเสาไกลเข้าไปสุดเฉียบขาด ช่วยให้ ไก่เดือยทอง บุกนำ 1-0

　　นาที 24 เบล หวิดแผลงฤทธิ์ทำให้ทีมเยือนทิ้งห่าง โฮลท์บี้ ไหลบอลให้ปีกจรวดเลือกเวลส์ซัดไกลเต็มแรง แต่ครั้งนี้  ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น ตามไปรับบอลไว้ได้ทัน

　　อย่างไรก็ดีอีก 2 นาทีต่อมา ขุนค้อน มาได้ลูกจุดโทษ เมื่อ สกอตต์ พาร์เกอร์ ไปสไลด์ตัดฟาวล์ แคร์โรลล์ ในเขตโทษ และเป็น แคร์โรลล์ ที่ลุกขึ้นมายิงบอลเสยเพดานตาข่ายเข้าไปไม่พลาด เวสต์แฮม ตีเสมอ 1-1

　　รูปเกมกลับมาสูสีทันกันอีกครั้ง นาที 34 สเปอร์ส มาได้โอกาสขึ้นนำ อารอน เลนน่อน พลิ้วเลี้ยงบอลขึ้นมาโยนไปเสาไกลให้ เบล พยายามตีลังกายิงบอลแต่โดนไม่เต็มทำให้บอลไร้น้ำหนักไปตรงตัว ยาสเคไลเน่น

　　ช่วงท้ายครึ่งแรกเป็นเจ้าบ้านที่กลับมาครองเกมได้ดีกว่า แต่ในนาที 43 เป็นทีมเยือนได้โอกาสทอง เบล เปิดลูกเตะมุมมาให้ สตีเว่น คอลเกอร์ เทกขึ้นโขกเต็มกบาลกำลังจะเสียบมุม แต่ ยาสเคไลเน่น ยังสุดยอดบินไปปัดบอลออกหลังได้อีก จบครึ่งแรกสกอร์บอร์ดหยุดอยู่ที่ 1-1

　　เขี่ยบอลครึ่งหลังมาไม่กี่นาที ไก่เดือยทอง ได้เสียวเลย เบล กระชากบอลขึ้นมาซัดบริเวณหัวกะโหลกไปแฉลบ เดเมล นิดนึง แต่ ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น ไม่พลาดตัดสินใจทุบทิ้งออกหลังไปได้

　　จากลูกเตะมุมอาคันตุกะก็ชวดได้ประตูไปอีก เบล โยนบอลโค้งมาให้ คอลเกอร์ เทกขึ้นโหม่งเน้นๆถูก ยาสเคไลเน่น บินชกบอลออกไปได้อย่างสุดยอด

　　นาที 57 สเปอร์ส ทิ้งโอกาสทองลงหลุมไปอีก กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน ตัวสำรองซัดบอลเต็มข้อจากนอกกรอบถูก ยาสเคไลเน่น ล้มตัวปัดบอลไปชนเสากระเด้งกลับออกมาให้ อเดบายอร์ โหม่งซ้ำเบาหวิวทำให้ ยาสเคไลเน่น ลุกขึ้นมารับบอลเข้าซองได้ทัน

　　หลังจากมีโอกาสบานเบอะแล้วทำไม่ได้ นาที 58 ก็มาโดน เวสต์แฮม ยิงพลิกแซงนำ 2-1  โจอี้ โอไบรอัน ตักบอลหลุดกับดักล้ำหน้ามาให้ โจ โคล สอดมาเอาบอลและพลิกตัวมายิงเล่นทางด้วยซ้ายเสียบหน้าต่างเสาไกลเข้าไป

　　ยาสเคไลเน่น ไม่รู้ไปกินอะไรมาเหนียวหยึบเหลือเกิน นาที 67 เบล เปิดบอลให้ คอลเกอร์ ได้โหม่งอีกแล้ว แต่นายด่านฟินแลนด์ก็ผวาปัดทิ้งออกไปได้อีก

　　2 นาทีต่อมาโอกาสทองของ สเปอร์ส ก็หลุดลอยไปอีก เลนน่อน กระชากพาบอลขึ้นมาไหลให้ เบล ตั้งป้อมปั่นบอลโค้งกำลังจะเสียบใต้คาน แต่ ยาสเคไลเน่น ยังสุดยอดบินไปสะกิดบอลข้ามคานได้ทัน

　　อย่างไรก็ดีในที่สุดนาทีที่ 76 สเปอร์ส ก็มาตีเสมอ 2-2 สำเร็จ เบล โยนลูกฟรีคิกโค้งเข้ามาและนักเตะของทั้งสองทีมมาชนกันในเขตโทษกลายเป็นจังหวะชุลมุนก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็น คอลเกอร์ สะกิดบอลให้  กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน ยิงจ่อๆเข้าไป

　　เกมทำท่าว่าจะจบลงที่ผลเสมอแต่แล้วนาทีที่ 90 ไก่เดือยทอง มาได้ประตูขึ้นนำ 3-2 จากความสุดยอดของ แกเร็ธ เบล ที่รับบอลกลางสนามก่อนแตะเข้าเท้าซ้ายแล้วซัดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลเข้าไป หมดปัญญาที่ ยาสเคไลเน่น นายด่านเจ้าบ้านที่โชว์ฟอร์มแจ่มมาตลอดจะป้องกันไว้ได้

　　จบเกม ไก่เดือยทอง บุกแซงเฉือน เวสต์แฮม 3-2 เก็บสามแต้มแบบหืดจับพร้อมทะยานแซง เชลซี ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ทันที

รายชื่อผู้เล่นทั้'สองทีม  

　　เวสต์แฮม  : ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น - กีย์ เดเมล, เจมส์ คอลลินส์, วินสตัน รีด, โจอี้ โอไบรอัน -โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, แกรี่ โอนีล - โจ โคล, เควิน โนแลน, แม็ทธิว จาร์วิส - แอนดี้ แคร์โรลล์

　　สำรอง : ราฟาเอล สปีเกล, แจ็ค คอลลิสัน, เอ็มมานูเอล โปกาเตทซ์, ริคาร์โด้ วาซ เท, แม็ตต์ เทย์เลอร์, มารูอาน ชามัค, คาร์ลตัน โคล

　　สเปอร์ส  : อูโก้ โยริส - ไคล์ วอล์คเกอร์, สตีเว่น คอลเกอร์, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ยาน แฟร์ทองเก้น - สกอตต์ พาร์เกอร์, มูสซ่า เดมเบเล่ - อารอน เลนน่อน, เลวิส โฮลท์บี้, แกเร็ธ เบล - เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

　　สำรอง : แบร็ด ฟรีเดล, วิลเลี่ยม กัลลาส, ไคล์ นอห์ตัน, เจค ลิเวอร์มอร์, เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้, ทอม แคร์โรลล์, กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน
 

　　ผู้ตัดสิน  : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์