บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-0 เอฟซี โซล

ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี
 
วันที่ 12 มีนาคม 2556 เวลา 18.00 น. สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม

 
 
ศึกลูกหนังเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี นัดที่สอง ที่สนาม ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ประจำวันที่ 12 มี.ค.56 “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งบุกไปเสมอกับ เวกัลตะ เซนได ในแมตช์ที่ผ่านมา 1-1 เปิดรังพบกับจ่าฝูงของสายอย่าง เอฟซี โซล แชมป์ เค ลีก จากเกาหลีใต้ ซึ่งในเกมที่แล้วถล่ม เจียงซู เซินตี้ ไป 5-1

โดยก่อนนัดนี้จะเริ่มขึ้น “โค้ชแต๊ก”อรรถพล ปุษปาคม กุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำขุนพล “แชมป์เซราะกราว”เดินทางไปสักการะศาลหลักเมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อความเป็นศิริมงคลอีกด้วย 

เกมนี้ “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ภายใต้การกุมบังเหียนของ “โค้ชแต๊ก”อรรถพล ปุษปาคม จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ให้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสา มี ธีราทร บุญมาทัน ยืนแบ็กซ้าย ขวาใช้ สุรีย์ สุขะ ให้ ประทุม ชูทอง ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ออสาร์ อิบาเนซ ที่สวมปลอกแขนลงเป็นกัปตันทีม 

แดนกลางมี ชาริล แชปปุยส์ที่พร้อมดักเกมรุกฝ่ายตรงข้ามร่วมกับ สุรัตน์ สุขะ โดยมี คาร์เมโล กอนซาเลซ รับบทเพลเมกเกอร์ ส่วนกองหน้าให้ อนาวิน จูจีน อยู่ทางกราบขวาใช้ ไค ฮิราโนะ เดินเครื่องทางซ้าย พร้อมด้วย รัมเซส บุสโตส หัวหอกชาวชิลี
 
ด้าน เอฟซี โซล ส่งหัวหอกตัวเก่งอย่าง เดยัน ดามยาโนวิช หัวหอกมอนเตรเนโกร รวมทั้ง เซจิโอ เอสคูเดโร่ กองหน้าลูกครึ่งญี่ปุ่น-สเปน ลงสนามในเกมนี้อีกด้วย

ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรกเพียงนาทีเดียว เอฟซี โซล ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ โค กวาง มิน กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษทางขวา ก่อนเลี้ยงตัดเข้าไปในเขตโทษแล้วยิงที่เสาแรกทันที ยังดีที่แผลงหลังเจ้าบ้านล้มตัวบล็อกบอลออกหลังไปได้ทัน 

น.5 หลังจากบุกมาหลายครั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ลองทักทายบ้าง คราวนี้เป็น รัมเชส บุสโตส ที่ลองสับไกลหน้าเขตโทษ แต่บอลยังหลุดเสาแรกออกไปอยู่ดี

น.8 ทีมเยือนจากแดนกิมจิได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ เดยัน ดามยาโนวิช มีโอกาสได้ลองซัดหน้าเขตโทษ บอลเฉี่ยวคานออกหลังไปเพียงนิดเดียว

 น.16 ออสมาร์ อิบาเนซ วางบอลยาวไปทางขวาให้กับ อนาวิน จูจีน จับบอลลงแล้วป้ายบอลต่อให้กับ สุรีย์ สุขะ เปิดบอลไปในเขตโทษ หวังให้ รัมเชส บุสโตส ขึ้นโหม่ง แต่ คิม ยอง แด นายทวาร เอฟซี โซล ยังออกมาคว้าบอลไว้ได้

น.18 เกมรุกของทีมเยือนยังดุดันอย่างต่อเนื่อง คราวนี้เป็น เซจิโอ เอสคูเดโร่ ที่กระชากบอลขึ้นมาทางขวาเข้าไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะตัดสินใจเปิดบอลกลับมา ยังดีที่ ประทุม ชูทอง เข้ามาบล็อกทำบอลออกหลังได้ทัน

น.20 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เดินเกมสู้แบบต่อเนื่อง คราวนี้ ไค ฮิราโนะ วางบอลจากทางซ้ายเข้ามาในเขตโทษ หวังให้ อนาวิน จูจีน วิ่งโฉบเข้ามาโหม่ง แต่ คิม ยอง แด ยังออกมาทุบบอลทิ้งไปได้

 น.26 แข้ง“ปราสาทสายฟ้า”ได้ลุ้นอีกรอบ เมื่อ อนาวิน จูจีน ลากบอลขึ้นมาทางขวา แล้วจัดการกึ่งยิงกึ่งผ่านทันที บอลเตรียมที่จะเสียบเสาสองอยู่แล้ว แต่ คิม ยอง แด ยังเหินไปปัดบอลได้ทันเวลา
 
น.28 จากจังหวะทำชิ่งกันของ เอฟซี โซล ทำให้ โมลิน่า อูริเบ หลุดเข้าไปกระโดดวอลเล่ย์ด้วยขวาในเขตโทษ แต่บอลยังหลุดเสาสองออกไป 

เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง “แชมป์เซราะกราว”เกือบได้เฮ เมิ่อ ชาริล ชัปปุยส์ ลุยขึ้นมาทางขวา ก่อนเปิดบอลเข้าไปให้กับ รัมเชส บุสโตส พลิกตัวจ่ายบอลย้อนมาให้ คาร์เมโร กอนซาเลซ วิ่งเข้ามาตะบันแบบไม่ต้องจับ บอลกลับไปแฉลบแนวรับของทีมเยือนหลุดออกหลังไปแบบน่าเสียดาย

น.35 ชาริล ชัปปุยส์ มีโอกาสพาบอลหลบผู้เล่นทีมเยือนถึง 2 คน ก่อนหลุดเข้าไปในเขตโทษด้านซ้าน แต่จังหวะสุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจยิง ทว่าบอลกลับไม่โดนเต็มหลังเท้า ทำให้เปลี่ยนทางหลุดกรอบไปอีก

 น.39 โอกาสของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังมาอย่างต่อเนื่อง คราวนี้ คาร์เมโร่ กอนซาเลซ รับบอลจากเพื่อนที่เสาแรก ก่อนที่จะง้างเท้าเตรียมยิงทันที แต่กลายเป็น คิม จู ยอง ที่วิ่งมาเคลียร์บอลออกหลัง ได้ก่อนที่ดาวเตะเลือดกระทิงรายนี้จะทำสกอร์

 น.44 สุรีย์ สุขะ รับใบเหลือง หลังไปจากไปทำฟาล์ว เดยัน ดามยาโนวิช จากด้านหลัง ก่อนที่นาทีต่อมา โมลิน่า อูริเบ จะเล่นลูกสูตร ไหลบอลมาที่นอกเขตโทษให้ ชอย ฮุนแต วิ่งเข้ามายิงทันที บอลพุ่งแฉลบ ประทุม ชูทอง ออกหลังไป และจบ 45 นาทีแรกยังเสมอทั้ง 2 ทีมกันอยู่ 0-0

  กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่ง จิรวัฒน์ มัครมย์ ลงไปเล่นแทน อนาวิน จูจีน ขณะที่ เอฟซี โซล เอาหัวหอกอย่าง พาร์ค ฮีซอง ลงมาเพิ่มประสิทธิภาพในเกมรุก

น.48 สุรีย์ สุขะ จ่ายบอลไปให้กับ คาร์เมโร กอนซาเลซ กระชากบอลขึ้นมาทางขวา แล้วเปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ หวังให้ รัมเชส บุสโตส ขึ้นโหม่ง แต่นายทวารจากแดนกิมจิยังออกมารับบอลไปได้       

น.50 เป็นอีกครั้งที่ “ปราสาทสายฟ้า”ได้ลองส่อง คราวนี้ ไค ฮิราโนะ จ่ายบอลย้อนกลับมาให้กับ ธีราทร บุญมาทัน ที่เติมขึ้นมาได้ซัดด้วยขวา บอลยังหลุดเสาสองออกไป

น.57 ทีมเยือนจัดการส่ง โค เมียงจิน ลงมาแทน เดยัน ดามยาโนวิช หัวหอกตัวหลัก กระทั่ง น.62 คาร์เมโร กอนซาเลซ จะได้ซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกหลังไป ก่อนที่เจ้าบ้านจะส่ง สุเชาว์ นุชนุ่ม ลงมาเล่นแทน รัมเชส บุสโตส 

น.64 “แชมป์เซราะกราว”หวิดได้สกอร์นำ เมื่อ จิรวัฒน์ มัครมย์ เปิดฟรีคิกจากฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษ และเป็น ประทุม ชูทอง ที่ขึ้นโหม่งแต่เบาเกินไป บอลจึงไปเข้ามือของ คิม ยอง แด

น.69 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แก้เกมไปครั้งสุดท้าย ด้วยการส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงมาแทน ไค ฮิราโนะ และ น.74 พาร์ค ฮีซุง ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงไปที่เสาแรก ยังดีที่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังเซฟไว้ได้

 น.80 เอฟซี โซล ส่ง คาง จุงฮุน ลงไปแทน ชอย ฮุนแต ก่อนที่อีก 2 นาทีต่อมา ทีมเยือนจากเกาหลีใต้จะมาได้ฟรีคิกฝั่งขวา บอลโยนยาวไปที่เสาสองแต่ อดิลสัน ดอส ซานโตส ปราการหลังชาวบราซิลที่เติมขึ้นมา กลับพุ่งเข้าชาร์จไม่ถึง

 น.84 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกเกือบกลางสนาม และเป็น ออสมาร์ อิบาเนซ ที่วิ่งเข้ามาตะบันเต็มข้อด้วยซ้าย บอลพุ่งไปติดบล็อกของ อดิลสัน ดอส ซานโตส ก่อนที่จะถูกเคลียร์ออกมาได้

น.87 สุรัตน์ สุขะ วางบอลยาวไปให้กับ ชาริล ชัปปุยส์ วิ่งเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายโดนกองหลังของ เอฟซี โซล สกัดบอลทิ้งออกไปได้ทันเวลา

น.89 คาร์เมโร กอนซาเลซ มารับใบเหลืองไปอีกคน หลังจากไปเข้าบอล โค เมียงจิน จากด้านหลัง ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+2 ทีมเยือนมาได้ฟรีคิกฝั่งขวา โมลินา อูริเบ้ จะยิงไปติด จิรวัฒน์ มัครมย์ และจบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอ เอฟซี โซล ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 เก็บไปอีก 1 แต้ม รวมเป็น 2 คะแนน