ขอเสนอ 10 ยอดเลี้ยงที่บ่อยครั้งก็ทำให้เพื่อนหัวเสีย แต่อีกหลายครั้งก็ทำผลงานได้ดี มีใครกันบ้าง ไปชมกันในเกมฟุตบอล หนึ่งในทักษะที่ดึงดูดใจแฟนบอลได้มากที่สุด ไม่แพ้ลูกจ่ายงามๆ ฟรีคิกหยดย้อย หรือประตูที่เฉียบคม คือ ลีลาสับขาหลอกเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ให้หัวหมุน แต่บ่อยครั้งเช่นกันที่การเอาแต่ยึกยักเก็บบอลไว้กับตัวเองจะทำให้เพื่อน เสียโอกาส

โกล.คอม ขอเสนอ 10 จอมลีลาที่ขยันเล่นเองโดยไม่สนใจเพื่อนที่อยู่รอบๆ ถูกใจหรือไม่ เราตกใครไป เติมได้ที่กล่องคอมเมนต์ข้างล่างได้เลย

ลูคัส มูรา (ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง)

ดาวรุ่งจอมลีลาชาวบราซิล ที่เปแอสเช ต้องยื้อแย่งมาจากหลายทีมทั่วยุโรป ทั้งที่อายุเพียง 20 ปี เท่านั้น คือ เครื่องการันตีคุณภาพของมูราได้เป็นอย่างดี ทว่าด้วยความที่เขายังเป็นเด็ก ทำให้หลายๆ ครั้งที่ติดโชว์มากเกินไป และครองบอลในจังหวะที่อาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ครั้งหนึ่งผู้จัดการทีมเซา เปาโล เคยตำหนิเขาเรื่องเล่นบอลแบบเห็นแก่ตัว ซึ่งทำให้เกมถัดมา เขาต้องรีบผ่านบอลออกไปทันทีที่ได้บอลมา

คริสเตียโน โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด)

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ในเกมใหญ่ๆ อย่างที่พบบาร์เซโลนา หรือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปีกแดนฝอยทองรายนี้คือข้อแตกต่างที่พาให้ราชันชุดขาวไปสู่ชัยชนะ แต่จากสถิติการง้างเท้ายิงไปกว่า 7 ครั้งต่อเกม แสดงให้เห็นว่านักเตะรายนี้ไม่เคยลังเลเลย หากจะง้างเท้าสับไก ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนในสนามฝั่งคู่ต่อสู้ แทนที่จะส่งให้เพื่อนร่วมทีม

โรบินโญ (เอซี มิลาน)

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แต่โรบินโญอายุ 29 ปี แล้ว และเขายังคงต้องอยู่ข้างสนามเพื่อคอยดูเพื่อนคนอื่นเล่นเป็นหลักในทีมปีศาจแดงดำแห่งอิตาลี เหตุผลของเรื่องนี้ก็คงไม่ได้เข้าใจยากอะไร หากย้อนกลับไปมองตอนที่เขายังเล่นให้เรอัล มาดริด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเขามักจะเก็บบอลไว้กับตัว และโชว์ลีลาหลบคู่ต่อสู้แบบไม่เข้าท่าเพียงเพราะต้องการจะโชว์แฟนบอลเท่านั้นฃ

ฟรองค์ ริเบรี (บาเยิร์น มิวนิค)

แม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในพ่อเลี้ยงของวงการ แต่จอมพริ้วชาวฝรั่งเศสคือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของผู้เล่นที่พาบอลหลบคู่ต่อสู้ และมีประโยชน์กับเพื่อนร่วมทีมได้ด้วย เขามีสถิติเลี้ยงบอลต่อเกมอยู่ที่ 5 ครั้ง ซึ่งถือได้ว่ามากที่สุดในยุโรป แต่ก็ทำได้ถึง 5 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์ ด้วยกัน

ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (ลิเวอร์พูล)

ดาวยิงหน้าใหม่ของทีมหงส์แดงอาจทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในถิ่นแอนฟิลด์ โดยเฉพาะในแง่ของการที่เข้ามาเสริมมิติใหม่ในเกมรุกให้ทีมดังแห่งเมอร์ซีไซด์ หลังจากที่ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักทั้งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเชลซี สองทีมเก่าของเขา

อย่างไรก็ดี ตอนที่เขามาใหม่ๆ มีบล็อกของทีมลิเวอร์พูลแห่งหนึ่ง เคยออกอาการวิตกว่าแข้งรายนี้จะกลายเป็นการเสริมทัพที่ล้มเหลว โดยได้นิยามคุณสมบัติของสเตอร์ริดจ์เอาไว้ว่าเป็นนักเตะที่ "เห็นแก่ตัว, หวงบอล และไม่ใส่ใจเพื่อนร่วมทีมข้างๆ เลย"

ดาเต็ม เบน อาร์กฟา (นิวคาสเซิล)

ในวันที่ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ทำประตูได้แบบนี้ แฟนบอลตูน อาร์มี ทุกคนก็คงอยากที่จะบอกเขาว่า ไม่ต้องส่งบอลแล้วแหละ นายเลี้ยงเข้าไปเองเลยดีกว่า

อย่างไรก็ดี มันไม่ได้จบลงที่ก้นตาข่ายเสมอไป

ฤดูกาลนี้ เบน อาร์กฟา เลี้ยงบอล 4.5 ครั้งต่อเกม แต่เสียบอลไปถึง 3.2 ครั้ง ซึ่งมันเป็นสถิติที่ไม่ดีเอาเสียเลย

ไรอัน บาเบล (อาแย็กซ์)

หลังจากที่โลดแล่นอยู่ในอังกฤษและเยอรมันกับ ลิเวอร์พูลและฮอฟเฟนไฮม์ ไรอัน บาเบล กลับมายังแผ่นดินเกิดเพื่อค้าแข้งกับอาแย็กซ์อีกครั้ง

แม้จะไม่เคยมีใครปฏิเสธเรื่องพรสวรรค์ของเขา แต่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหตุผลที่ทำให้บาเบลไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในชีวิตค้าแข้ง เป็นเพราะเมื่อถึงเวลาที่จะต้องผ่านบอลทีไร เขาตัดสินใจได้แย่ทุกที

ริควาร์โด กวาเรสมา (อัล อาห์ลี ดูไบ)

ปีกแดนฝอยทองเพิ่งอายุ 29 ปี เท่านั้น แต่กลับต้องระเห็จไปค้าแข้งที่ดูไบ หลังจากที่ทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลยทั้งกับอินเตอร์ มิลาน และเชลซี แม้เมื่อ 2 ปีก่อนที่เขาเล่นให้เบซิคตัสจะทำผลงานได้ค่อนข้างโอเค แต่อาการหวงบอลเป็นธรรมชาติของเขานั้นทำให้ผู้จัดการทีมหลายคนหัวเสียมาแล้ว

หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล)

ฟอร์มของหลุยส์ ซัวเรซ ในฤดูกาลนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูลเท่านั้น แต่เขากำลังท้าชิงตำแหน่งผู้เล่นที่ดีที่สุดของพรีเมียร์กลีก

เขาเป็นนักเตะที่มีอัตราเฉลี่ยเสียบอลมากที่สุด แต่หากไม่มีฟอร์มการเล่นที่หวือหวาแบบนี้ ลิเวอร์พูลอาจจะไปได้ไม่ถึงแม้กระทั่ง 10 อันดับแรก ในตารางลีกสูงสุดของอังกฤษก็เป็นได้

อาร์เยน ร็อบเบน (บาเยิร์น มิวนิค)

อาร์เยน ร็อบเบน เคยเป็นและยังคงเป็นนักเตะที่เห็นแก่ตัวที่สุดคนหนึ่งในโลกฟุตบอลเสมอมา แน่นอนว่ามันช่วยเสมอเสน่ห์ในฟุตบอลของเขา และทำให้เกิดผลงานยอดเยี่ยมในหลายต่อหลายครั้ง แต่ลองคิดดูสิว่า ถ้าเขาเห็นแก่ตัวน้อยลงอีกนิด บาเยิร์น มิวนิค จะชนะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกปีที่แล้วรึเปล่า