เดลี่ เมล สื่อชื่อดังของประเทศอังกฤษ ได้มีการเปิดเผยออกมาว่า สองทีมยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกคือ แมนฯ ยูไนเต็ด และเชลซี ซึ่งมีกำหนดบินมาฟาดแข้งนัดกระชับมิตรที่กรุงเทพฯ ช่วงกลางเดือน ก.ค. อาจจำเป็นต้องยกเลิกการเดินทางหากสมาคมฟุตบอลฯ ไม่อาจจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ตามธรรมนูญฟีฟ่า โดยองค์กรลูกหนังโลกได้ให้เวลาสมาคมฯ เคลียร์ปัญหาให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า

        ความคืบหน้าของศึกการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล แห่งประเทศไทยที่ยังชะงักงันเนื่องจากมีคำสั่งศาลมีนบุรีไม่ให้ทำการโหวตรับ ร่างธรรมนูญเลือกตั้งฉบับใหม่ พร้อมกับมีหนังสือจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติสั่งการให้สมาคมฟุตบอลฯ จัดการในเรื่องของการฟ้องร้องต่อศาลด้วยการให้สโมสรฟุตบอลพัทยา หรือพัทยา เอฟซี ดำเนินการถอนฟ้องภายในวันที่ 24 มิ.ย. นี้ ไม่เช่นนั้นจะมีมาตรการลงโทษต่อไป
    

 
โดยสิ่งที่แฟนบอลทั่วไปให้ความสนใจก็คือถ้ามีคำสั่งลงโทษ แบนสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยออกมาจากฟีฟ่า จะมีผลกระทบกับการจัดฟุตบอลนัดพิเศษที่จะมียอดทีมแห่งยุโรปเดินทางมาเยือน ไทย ไม่ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูล และบาร์เซโลน่าหรือไม่ 

ล่าสุดเดลี่ เมลสื่อชื่อดังของประเทศอังกฤษได้มีการเปิดเผยออกมาว่า สองทีมยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกซึ่งมีกำหนดบินมาฟาดแข้งนัดกระชับมิตรที่ กรุงเทพฯ ช่วงกลางเดือน ก.ค. อาจจำเป็นต้องยกเลิกการเดินทางหากสมาคมฟุตบอลฯ ไม่อาจจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ตามธรรมนูญฟีฟ่า โดยองค์กรลูกหนังโลกได้ให้เวลาสมาคมฯ เคลียร์ปัญหาให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้แฟนบอลชาวไทยต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยการเดินทางมา เยือนของ 2 ทีมระดับบิ๊ก ที่ต่างจะประเดิมกุนซือคนใหม่ ทั้ง เดวิด มอยส์ และ โชเซ่ มูรินโญ่ ในการมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้
 

สำหรับ "ปีศาจแดง" เคยถอนตัวจากการทัวร์ที่ประเทศอินโดนีเซียมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2009 หลังจากครั้งนั้นเกิดเหตุความรุนแรงที่กรุงจาการ์ตา เพียงไม่กี่วันก่อนหน้าที่แชมป์พรีเมียร์ลีกปีล่าสุดจะยกพลไปถึง
     

 
        จากการที่มีข้อสงสัยถึงขั้นตอนการแก้ไขธรรมนูญใหม่ที่อ้าง ว่าสมาคมฟุตบอลฯ ไม่เคยแจ้งให้ทางสโมสรได้รับทราบมาก่อน และมองว่ามีการรวบรัดเพื่อให้ทันการเลือกตั้งในครั้งนี้หรือไม่ ล่าสุดทางด้านสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยก็ได้เปิดเผยขั้นตอนของการดำเนินการ ออกมาให้รับทราบแล้ว โดยมีช่วงระยะเวลาดังต่อไปนี้

 
        1.ที่ประชุมใหญ่สมาคมฟุตบอลฯ ประจำปี 2551 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2552
      
        -ประธาน ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ฟีฟ่า และ เอเอฟซี ได้จัดทำธรรมนูญมาตรฐานให้สมาคมฟุตบอลทุกประเทศได้นำไปปฏิบัติ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้แก้ไขตามที่ ฟีฟ่า และ เอเอฟซี กำหนด
 
     
        2.ที่ประชุมใหญ่สมาคมฟุตบอลฯ ประจำปี 2552 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2553
      
        -ประธาน ที่ประชุมได้ขอมติเพื่อดำเนินการปรับปรุง ระเบียบข้อบังคับลักษณะปกครองของสมาคมฟุตบอลฯ ให้สอดคล้องเป็นไปตามข้อกำหนดแนวทางของฟีฟ่า โดยขอให้ที่ประชุมได้อนุมัติให้สภากรรมการเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งที่ประชุมมีมติรับทราบ และอนุมัติให้ดำเนินการตามที่เสนอ
 
     
        3.เดือนสิงหาคม 2553
      
        - ฟีฟ่าได้เชิญผู้แทนสมาคมฟุตบอลฯ ปรึกษาเรื่องการดำเนินการแก้ไขข้อบังคับฯ โดยเป็นการประชุม 3 ฝ่าย มี ฟีฟ่า, เอเอฟซี และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประชุมที่สำนักงานใหญ่ เอเอฟซี ซึ่ง ฟีฟ่า และ เอเอฟซี ได้ให้คำแนะนำ และปรึกษาในการดำเนินการปรับปรุงแก้ไข
 
     
        4.ประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554
      
        -ประธาน ที่ประชุมแจ้งให้สภากรรมการทราบถึงความคืบหน้าในการแก้ไขข้อบังคับฯ ตามที่ฟีฟ่าได้แนะนำ และเห็นชอบมา โดยมีการชี้แจงเป็นรายมาตราต่อที่ประชุมเพื่อขอคำแนะนำจากสภากรรมการ
      
        -ที่ ประชุมมีมติให้นายกสมาคมฯ และคุณวีระ คำมี ประธานฝ่ายกฎหมาย พร้อมคณะกรรมการได้ร่วมกันตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง
      
        -คุณ วิรัช ชาญพานิชย์ ได้ให้ความเห็นว่าเห็นด้วยกับร่างข้อบังคับฯ ฉบับใหม่นี้ และคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีเหมาะสม และควรแจ้งให้สมาชิกสโมสรบอลถ้วยได้ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเหลือสิทธิ เพียงถ้วยละ 2 ทีม 

      
        5.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556
      
        -คณะ ผู้แทนจากฟีฟ่านำโดย มร.เทอร์รี่ (Mr. Thierry) และมร.เจมส์ ( Mr.James) ได้เดินทางมาสรุปเรื่องการแก้ไขข้อบังคับลักษณะปกครอง และได้ให้ recommendation
 
     
        6. วันที่ 31  มีนาคม 2556 ที่ประชุมใหญ่ประจำปี 2555
      
        -ประธาน ในที่ประชุมเสนอให้สมาชิกสโมสรเห็นชอบในหลักการเรื่องการปรับปรุงข้อบังคับ ลักษณะปกครองใหม่ของสมาคมฯ ซึ่งได้แจกจ่ายให้ทุกท่านในที่ประชุมแล้วเพื่อให้สอดคล้องกับธรรมนูญของฟี ฟ่า โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ


    
        7. วันที่ 15 พฤษภาคม 2556
 
        -ฟีฟ่าได้ส่ง มร.เจมส์ เดินทางมาประชุมร่วมกับสมาคมฟุตบอลฯ ในการเห็นชอบในข้อตกลงการแก้ไขข้อบังคับลักษณะปกครองฉบับใหม่
  

 
        8. วันที่ 31 พฤษภาคม 2556
      
        -ที่ ประชุมใหญ่ประจำปีของฟีฟ่า ที่มอริเชียส มีมติเห็นชอบและประกาศรับรองธรรมนูญของฟีฟ่า ซึ่งมีผลบังคับใช้ให้ประเทศสมาชิกจะต้องมีธรรมนูญของสมาคมฯ ที่สอดคล้องกับฟีฟ่า ตามข้อ 13.1 (f)