"อัซซูรี่" อิตาลี คว้าอันดับ 3 ไปครองได้สำเร็จหลังเสมอ "จอมโหด" อุรุกวัย ทั้งในเวลาปกติ และ ต่อเวลพิเศษ 2-2 และเป็นฝ่ายเฉือนชัยในการดวลจุดโทษไป 3-2 ในศึกฟุตบอล คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 นัดชิงที่สาม เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013  นัดชิงที่สาม

วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2556

อุรุกวัย 2   -   2 อิตาลี
(อิตาลี ชนะจุดโทษ 3-2)

สนาม : ซัลวาดอร์ อารีน่า

         เกมชิงอันดับที่ 3 เป็นการพบกันระหว่าง "อัซซูรี่" อิตาลี พบกับ "จอมโหด" อุรุกวัย ในศึกฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 โดยเกมนี้ ขุนพลอุรุกวัย จัดเต็มมากันครบสูตร โดยสามประสานในแดนหน้าอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่ และ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน พร้อมลงสนามพร้อมเพรียง ขณะที่ อิตาลี ขาดขุมกำลังหลักเพียบ โดยจะไม่มีจอมทัพอย่าง อันเดรีย ปีร์โล กับ อันเดรีย บาร์ซาญี่ มีอาการเดี้ยง

        เริ่มเกมมา8นาที เป็นฝ่าย อุรุกวัย ที่โดนใบเหลืองไปอย่างรวดเร็ว โดยตกเป็นของ มักซิมิเลียโน่ เปเรยร่า พร้อมกับเสียฟรีคิกริมสนามฝั่งซ้าย

     และจากจังหวะฟรีคิก อิตาลี ก็ได้เสียวก่อน เมื่อ อเลสซานโดร เดียมานติ วางบอลไปที่หน้าประตูให้ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ที่ดันสูงขึ้นมาโหม่ง แต่บอลถากเสาสองออกหลังไปแบบมีลุ้น

     นาทีที่12 เป็นโอกาสของ อุรุกวัย บาง เมื่อได้ฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลก ดีเอโก้ ฟอร์ลัน รับหน้าที่ยิง ก่อนยิงเรียดทะลุกำแพงเข้ากรอบ แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ยังยืนตำแหน่งดี ล้มตัวรับไว้ได้

     4นาทีต่อมา ทีมอัซซูรี่ มีโอกาสอีกครั้ง เมื่อ มัตเตีย เด ชิโญ่ เติมขึ้นมาเปิดจากริมสนามฝั่งซ้าย ให้ อันโตนิโอ  คันเดรวา วิ่งมายิงตามน้ำด้วยเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษ แต่ เฟร์นานโด มุสเลร่า ล้มตัวเซฟไว้ได้

      นาทีที่25 สาวกอัซซูรี่ ได้เฮกันลั่น เมื่อได้ฟรีคิกริมสนามฝั่งขวา อเลสซานโดร เดียมานติ เปิดบอลโค้งมาโดนเสาสอง กระเด้งไปถูกหลัง เฟร์นานโด มุสเลร่า บอลกระดอนจะข้ามเส้น แต่เพื่อความชัวร์ ดาวิเด้ อัสตอรี่ จึงตามมาซ้ำจ่อๆไม่เหลือ อิตาลี ขึ้นนำ 1-0

     นาทีที่33 เอดิสัน คาวานี่ สามารถโหม่งส่งบอลตุงตาข่ายได้ จากการเปิดฟรีคิกเข้ามา แต่จังหวะ คาวานี่ วิ่งสอดขึ้นมาโหม่งนั้น ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงล้ำก่อน แฟนอุรุกวัย จึงเฮกันเก้อ

     5นาทีต่อมา ทีมจอมโหด เริ่มสร้างโอกาสได้ประตูมากขึ้น เมื่อ เอดิสัน คาวานี่ ยกบอลข้ามแนวรับอิตาลี ให้ มักซิมิเลียโน่ เปเรยร่า หลุดเข้าไปยิง แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ยังเซฟช่วยทีมเมืองมะกะโรนีได้อีกครั้ง

     ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก อิตาลี จึงนำ อุรุกวัย อยู่ 1-0

      กลับมาเล่นต่อในครึ่งเวลาหลัง อุรุกวัย เปิดเกมบุกเข้าใส่เพื่อหวังทำประตูคืนทันที

       นาทีที่ 55 จอร์โจ้ คิเอลลินี่ รับใบเหลืองหลังไปทำฟาวล์ใส่ หลุยส์ ซัวเรซ

       นาทีที่ 56 อุรุกวัย เปลี่ยนตัวส่ง อัลวาโร่ กอนซาเลซ ลงมาแทน คริสเตียน โรดริเกซ

       นาทีที่ 58 วอลเตอร์ การ์กาโน่ ตัดบอลดได้กลางสนามก่อนแทงบอลให้ หลุยส์ ซัวเรซ แต่ เอดินสัน คาวานี่ ที่วิ่งสอดหนีตัวประกบขึ้นมาอยู่ในจังหวะที่ดีกว่า หลุยส์ ซัวเรซ จึงหยุดเล่นก่อนที่ ดาวยิงจากนาโปลี จะแปด้วยขวาในเขตโทษเสียบเสาเข้าไปไม่เหลือ อุรุกวัย ตีเสมอเป็น 1-1

       นาทีที่ 61 หลุยส์ ซัวเรซ ก็โดนใบเหลืองหลังไปทพฟาวล์ใส่ คริสเตียน มาจโจ้

      นาทีที่ 68 ทีมจอมโหด น่าจะได้ประตูขึ้นนำ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน หลุดขึ้นมายิงด้วยขวาในเขตโทษ แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน พุ่งปัดออกมาได้ บอลมาเข้าทาง ดีเอโก้ ฟอร์ลัน อีกครั้งก่อนที่เจ้าตัวจะยิงซ้ำเข้าไปแต่ก็ยังติดขาของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ออกหลังไป

       นาทีที่ 70 อิตาลีเปลี่ยนตัวส่ง อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ ลงสนามมาแทน ดานิเอเล่ เด รอสซี่

       นาทีที่ 73 แฟนอัซซูรี่ได้เฮลั่น อเลสซานโดร เดียมานติ ปั่นฟรีคิกด้วยขวาระยะ 20 หลา บอลพุ่งข้ามกำแพงหนีมือ เฟร์นานโด มุสเลร่า ก่อนตุงตาข่ายสุดสวย อิตาลี ออกนำอีกครั้ง 2-1

       นาทีที่ 78 อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ ไปทำฟาวล์ เอดินสัน คาวานี่ ระยะ 25 หลา ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์พร้อมให้เป็นลูกฟรีคิก และจากจังหวะนี้ เอดินสัน คาวานี่ บรรจงปั่นด้วยขวาบอลพุ่งหนีมือ จานลุยจิ บุฟฟ่อน  ก่อนเสียบคานเข้าไป อุรุกวัย ตีเสมอเป็น 2-2

       นาทีที่ 81 ทีมจอมโหด เปลี่ยนตัวโดยถอดเอา มักซิมิเลียโน่ เปเรยร่า ออกและส่ง อัลวาโร่ เปเรย์ร่า ลงเล่นแทน

       นาทีที่ 82 ริคคาร์โด มอนโตลิโว โดนใบเหลืองอีกคน

       นาทีที่ 83 อิตาลีเปลี่ยนเอา เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ ลงสนามมาแทน อเลสซานโดร เดียมานติ

      ครบ 90 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกัน 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป 120 นาที

       นาทีที่ 96  อิตาลีเปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ดาวิเด้ อัสตอรี่ ออกและส่ง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ลงสนารมแทน

      นาทีที่ 100 อุรุกวัย ได้ลุ้นอีกครั้ง หลุยส์ ซัวเรซ หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษแต่ถูก จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เข้ามาเบียดแย่งบอลทำเอา หลุยส์ ซัวเรซ ล้มลง แต่ จาเมล ไฮมุนดี้ ผู้ตัดสินแอลจีเรีย มองว่าล้มง่ายไป

      นาทีที่ 105 อิตาลีก็ได้ลุ้นเหมือนกัน อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ ได้ยิงด้วยขวา แต่ เฟร์นานโด มุสเลร่า เซฟเอาไว้ได้

       กลับมาเล่นต่อในครึ่งเวลาหลังของการต่อเวลา นาทีที่ 107 อุรุกวัย เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ดีเอโก้ เปเรซ ลงสนามมาแทน เอคิดิโอ อาเรวาโล่ ริออส

       นาทีที่ 110 อิตาลี ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ ริคคาร์โด มอนโตลิโว รับใบเหลืองที่สอง หลังไปทำฟาวล์ใส่ หลุยส์ ซัวเรซ เป็นใบแดงต้องออกจากสนาม

      นาทีที่ 115 อุรุกวัยมีลุ้นอีกครั้งจาก เอดินสัน คาวานี่ ที่ตัดสินใจยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปขนิดมีเสียว

      นาทีที่ 120 ทีมจอมโหด เกือบได้ประตูชัย วอลเตอร์ การ์กาโน่ ซัดด้วยขวาเต็มแรงจากระยะ 30 หลา บอลพุ่งจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน พุ่งปัดไว้ได้ก่อนที่ เอดินสัน คาวานี่ จะตามมาซ้ำหลุดเสาสองออกไป และเป็นแอ็คชั่นสุดท้ายของเกม ก่อนที่จะต้องไปตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ

       อุรุกวัยเป็นฝ่ายยิงก่อน แต่ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ยิงไปติดเซฟของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน

       อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ ยิงเสียบสามเหลี่ยมให้ อิตาลี ออกนำ 1-0

       เอดินสัน คาวานี่ แปเล่นทางเข้าไปง่ายๆ อุรุกวัย ตีเสมอ 1-1

       เอล ชาราวี ยิงเข้าไปไม่พลาด อิตาลี ออกนำ 2-1

       หลุยส์ ซัวเรซ ยิงไม่พลาด อุรุกวัย ตีเสมอ 2-2

       มัตเตีย เด ชิโญ่ ยิงไปโดน เฟร์นานโด มุสเลร่า ปัดไว้ได้ ทำให้สกอร์ยังเสมอกัน 2-2 

       มาร์ติน กาเซเรส ก็ยิงไปโดน จานลุยจิ บุฟฟ่อน ล้มตัวรับไว้ได้ ยังเสมอกัน 2-2

       เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ แปเสียบเสาเข้าไปไม่เหลือ อิตาลี นำ 3-2

       วอลเตอร์ การ์กาโน่ ยิงไปโดน จานลุยจิ บุฟฟ่อน เซฟไว้ได้อีก จบเกม อิตาลี เป็นฝ่ายเอาชนะไปในการดวลจุดโทษ 3-2 คว้าอันดับที่สามของรายการไปครอง

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

     อุรุกวัย(4-3-3) : เฟร์นานโด มุสเลร่า - ดีเอโก้ ลูกาโน่ (กัปตันทีม), ดีเอโก้ โกดิน, มาร์ติน คาเซเรส - มักซี่ เปเรยร่า (อัลวาโร่ เปเรยร่า น.81), เอกิดิโอ อเรวาโล่ ริออส (ดีเอโก้ เปเรซ น.107), วอลเตอร์ การ์กาโน่, คริสเตียน โรดริเกซ (อัลวาโร่ กอนซาเลซ น.56) - ดีเอโก้ ฟอร์ลัน - หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่

     ใบเหลือง : มักซี่ เปเรยร่า น.8, หลุยส์ ซัวเรซ น.61

     อิตาลี(4-2-3-1) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน (กัปตันทีม) - คริสเตียน มาจโจ้, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ดาวิเด้ อัสโตรี่ (เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ น.94), มัตเตีย เด ชีโญ่ - อันโตนิโอ คันเดรว่า, ดานิเอเล่ เด รอสซี่ (อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ น.70), ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ - สเตฟาน เอล ชาราวี, อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่, อเลสซานโดร เดียมานติ (เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ น.83)

     ใบเหลือง : จอร์โจ้ คิเอลลินี่ น.54, ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ น.82

     ใบแดง : ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ น.110

     ผู้ตัดสิน : จาเมล ไฮมุนดี้ (แอลจีเรีย)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : เอดินสัน คาวานี่