ก่อนที่ฟุตบอลอังกฤษฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นขึ้น โกล ประเทศไทย ขอประเมินผลงานจากฤดูกาลก่อน และจัดอันดับ 10 ยอดนักเตะในพรีเมียร์ลีกประจำปีนี้

10. ดาบิด ซิลบา

ดาบิด ซิลบา อาจจะฟอร์มตกลงไปบ้างเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขายังเป็นขุมกำลังด้านการสร้างสรรค์เกมตัวเอ้ของแมนฯ ซิตี้ รวมถึงเป็นจอมทัพที่เทคนิคดีที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีก

ลูกจ่ายจากเท้าซ้ายของซิลบาทั้งแม่นยำและเพลินตา รวมถึงวิสัยทัศน์ของเขาก็ยอดเยี่ยมจนเรียกเสียงฮือฮาได้เสมอ หากซิลบาไม่เจออาการบาดเจ็บรบกวน และรักษาความฟิตได้อย่างต่อเนื่องในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง คาดว่าเราคงได้เห็นอะไรดีๆ จากจอมเทคนิคชาวสเปนรายนี้อีกอย่างแน่นอน

ลงเล่น (สำรอง) : 25 (3) นัด
ประตู : 4 ประตู
แอสซิสต์: 11 ครั้ง
ลูกจ่ายสำคัญ (ค่าเฉลี่ย) : 104 ครั้ง (3.3 ครั้งต่อเกม)
จ่ายบอลสำเร็จ/พยายาม (เปอร์เซ็นต์) : 1557/1823 ครั้ง (85.4%)

9. สตีเวน เจอร์ราร์ด

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด สตีเวน เจอร์ราร์ด ยังคงเป็นหนึ่งในดวงใจของแฟนบอลหงส์แดงอยู่เสมอ เขามีทั้งความทุ่มเทในสนาม ความเป็นผู้นำ และการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมหาที่เปรียบไม่ได้

เจอร์ราร์ดทำถึง 9 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว รวมถึงสร้างโอกาสสวยๆ ด้วยการจ่ายบอลยาวตามแบบฉบับที่เขาถนัดอีกนับไม่ถ้วน ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่า ถ้าไม่มีเจอร์ราร์ดในสนาม ลิเวอร์พูลเมื่อฤดูกาลที่แล้วจะมีสภาพเป็นอย่างไร

ลงเล่น (สำรอง) : 36 นัด
ประตู : 9 ประตู
แอสซิสต์: 9 ครั้ง
ลูกจ่ายสำคัญ (ค่าเฉลี่ย) : 93 ครั้ง (2.6 ครั้งต่อเกม)
จ่ายบอลสำเร็จ/พยายาม (เปอร์เซ็นต์) : 2042/2387 ครั้ง (85.5%)

8. มารูยาน เฟลไลนี

ดาวเตะเบลเยียมอาจโดนค่อนแคะอยู่เสมอว่าเป็นนักเตะที่เรียกใบเหลืองได้มากกว่าจำนวนประตูและแอสซิสต์ แต่เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเขากลับลบคำสบประมาทดังกล่าวได้อย่างหมดจด ด้วยการทำได้ 11 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมทีเดียว โดยเฉพาะกับทีมที่ไม่ได้มีสตาร์ดังมาคอยช่วยมากมายอย่างเอฟเวอร์ตัน

นอกจากฟอร์มในเกมรุกที่พัฒนาขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น เฟลไลนียังรักษาผลงานได้เกมรับได้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยการไล่ตัดบอลและแย่งบอลจากฝั่งตรงข้ามมานับไม่ถ้วน จึงน่าจับตามองว่า หากดีลระหว่างเอฟเวอร์ตันและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นจริง เฟลไลนี จะทำได้ดีขนาดไหนในทีมใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ลงเล่น (สำรอง) : 31 นัด
ประตู : 11 ประตู
แอสซิสต์: 5 ครั้ง
ลูกจ่ายสำคัญ (ค่าเฉลี่ย) : 40 ครั้ง (1.3 ครั้งต่อเกม)
จ่ายบอลสำเร็จ/พยายาม (เปอร์เซ็นต์) : 1290/1627 ครั้ง (79.3%)

7. ยาย่า ตูเร่

ยาย่า ตูเร่ คือ แข้งฝีเท้าฉกาจของแมนฯ ซิตี้ ที่อาจไม่ได้มีโปรไฟล์สวยหรู หรือมีแฟนบอลนิยมชมชอบมากเหมือนคนอื่นๆ แต่เขาคือเสาหลักตัวจริงของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเรือใบสีฟ้ามักออกอาการเป๋เสมอ ยามไร้ตูเร่คุมทัพในแดนกลาง

จุดแข็งของตูเร่คือการจ่ายบอลที่แม่นยำ เสียบอลยาก คุมจังหวะเกมได้ดี และเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้อย่างรวดเร็วด้วยการวิ่งทะลุฝ่าแผงกองกลางขึ้นมา หรือจะจ่ายบอลยาวก็ทำได้อย่างไร้ที่ติ ที่สำคัญ เมื่อถึงจังหวะสำคัญๆ ยาย่า ตูเร่ ยังเป็นทีเด็ดที่นิ่งและทำได้เสมอๆ

ลงเล่น (สำรอง) : 32 นัด
ประตู : 7 ประตู
แอสซิสต์: 5 ครั้ง
ลูกจ่ายสำคัญ (ค่าเฉลี่ย) : 45 ครั้ง (1.4 ครั้งต่อเกม)
จ่ายบอลสำเร็จ/พยายาม (เปอร์เซ็นต์) : 2245/2525 ครั้ง (85.4%)

6. เอเด็น อาซาร์

ดาวเตะเบลเยียมแจ้งเกิดในฤดูกาลแรกของเขาบนเวทีพรีเมียร์ลีกได้อย่างรวดเร็ว ด้วยทักษะการครองบอลที่ยอดเยี่ยม ลีลาการเลี้ยงบอลที่น่าตื่นตาตื่นใจ และความสามารถในการสร้างโอกาสที่เหนือชั้นด้วยการแอสซิสต์ไปถึง 11 ครั้งด้วยกัน

นอกจากนี้ ความสามารถในการทำประตูของอาซาร์ก็ไม่เป็นรองใครหน้าไหน เมื่อเขายิงไปถึง 9 ประตู และเป็นส่วนสำคัญในการพาเชลซีคว้าอันดับ 3 พรีเมียร์ลีก และแชมป์ยูโรป้าลีก มาครองได้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

ลงเล่น (สำรอง) : 31(3) นัด
ประตู : 9 ประตู
แอสซิสต์: 11 ครั้ง
ลูกจ่ายสำคัญ (ค่าเฉลี่ย) : 63 ครั้ง (1.9 ครั้งต่อเกม)
จ่ายบอลสำเร็จ/พยายาม (เปอร์เซ็นต์) : 1297/1523 ครั้ง (85.2%)

5. ซานติ กาซอร์ลา

มิดฟิลด์สแปนิชของทีมปืนใหญ่เป็นอีกรายที่ปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้อย่างรวดเร็ว พร้อมสถาปนาตัวเองเป็นแกนหลักของอาร์เซนอลโดยใช้เวลาไม่ถึงฤดูกาล ซึ่งนั่นบ่งบอกถึงฝีเท้าของเขาได้เป็นอย่างดี

กาซอร์ลาทำได้ 12 ประตู 11 แอสซิสต์ และสร้างโอกาสงามๆ ได้ถึง 2.5 ครั้งต่อเกม การจ่ายบอลที่ชาญฉลาดของเขาทำให้แฟนบอลอาร์เซนอลลืมอดีตกัปตันอย่าง เชสก์ ฟาเบรกาส ไปอย่างรวดเร็ว และมันคงจะดีกว่านี้อีกมาก หากปืนใหญ่จะมีศูนย์หน้าคมๆ สักตัวมาช่วยเปลี่ยนลูกจ่ายของเขาให้กลายเป็นประตู
 
ลงเล่น (สำรอง) : 37 (1) นัด
ประตู : 12 ประตู
แอสซิสต์: 11 ครั้ง
ลูกจ่ายสำคัญ (ค่าเฉลี่ย) : 96 ครั้ง (2.5 ครั้งต่อเกม)
จ่ายบอลสำเร็จ/พยายาม (เปอร์เซ็นต์) : 2145/2471 ครั้ง (86.8%)

4. หลุยส์ ซัวเรซ

ฤดูกาลที่ผ่านมา ซัวเรซ คือ หัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยของทีมหงส์แดง ทั้งยังเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลอยู่ในอันดับ 7 บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง ด้วยการทำไปคนเดียว 23 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว

ด้วยผลงานดังกล่าวทำให้ดาวยิงอุรุกวัยกลายเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงนักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอเมื่อฤดูกาลที่แล้ว น่าเสียดายที่พฤติกรรมนอกลู่นอกทางของเขาทำให้เกิดกระแสต่อต้านตามมามากมาย จนแทบจะหมดสิทธิ์คว้ารางวัลตั้งแต่ยังไม่ทันได้ออกเสียงลงคะแนน

และด้วยปัญหาดังกล่าวนี่เองที่ทำให้ซัวเรซต้องโดนแบนอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงการทำตัวเป็นปัญหาให้ต้นสังกัดในเวลานี้ ก็ทำให้เขาไม่ได้อยู่ในอันดับที่สูงกว่านี้  

ลงเล่น (สำรอง) : 33 นัด
ประตู : 23 ประตู
แอสซิสต์: 5 ครั้ง
ลูกจ่ายสำคัญ (ค่าเฉลี่ย) : 90 ครั้ง (2.7 ครั้งต่อเกม)
จ่ายบอลสำเร็จ/พยายาม (เปอร์เซ็นต์) : 921/1203 ครั้ง (76.6%)

3. ฮวน มาตา

จอมทัพแดนกระทิงดุกลายเป็นนักเตะหมายเลขหนึ่งของสิงห์บลูได้อย่างเต็มภาคภูมิเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา หลังทั้งยิงทั้งจ่ายอย่างละ 12 ประตู พร้อมพาสิงห์บลูจบอันดับ 3 ในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้จะเต็มไปด้วยปัญหาและฟอร์มโดยรวมของทีมที่กระท่อนกระแท่นก็ตาม

จากผลงานอันยอดเยี่ยมของมาตา ทำให้แม้เชลซีจะเปลี่ยนตัวกุนซือเป็นโชเซ มูรินโญ แต่เขาก็ยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวหลักต่อไป และน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือมาดเฮียบอย่างมูรินโญ มาตา จะพัฒนาตัวเองขึ้นไปเป็นหมายเลขหนึ่งของพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่

ลงเล่น (สำรอง) : 31 (4) นัด
ประตู : 12 ประตู
แอสซิสต์: 12 ครั้ง
ลูกจ่ายสำคัญ (ค่าเฉลี่ย) : 95 ครั้ง (2.7 ครั้งต่อเกม)
จ่ายบอลสำเร็จ/พยายาม (เปอร์เซ็นต์) : 1566/1838 ครั้ง (85.2%)

2. โรบิน ฟาน เพอร์ซี

ถ้าเปรียบการซื้อขายในตลาดนักเตะเป็นการแทงหวย ปีที่แล้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงถูกรางวัลที่ 1 จากการได้ตัวฟาน เพอร์ซี มาร่วมทีม ดาวยิงดัตช์เขี่ยเวย์น รูนีย์ ขวัญใจคนเดิมในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตกข้างทางไปอย่างรวดเร็วด้วยผลงานการถล่มประตูของเขา

ด้วยจำนวน 26 ประตู จาก 38 นัด ที่ลงสนาม ฟาน เพอร์ซีกลายเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกได้อีกหนึ่งฤดูกาล ไม่เพียงเท่านั้น แต่ละประตูของเขายังพาปีศาจแดงเก็บ 3 คะแนนได้เป็นว่าเล่น จนอาจจะพอพูดถึงว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดค้างบุญคุณของฟาน เพอร์ซี สำหรับแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก็ไม่ใช่คำกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด

ลงเล่น (สำรอง) : 35 (3) นัด
ประตู : 26 ประตู
แอสซิสต์: 8 ครั้ง
ลูกจ่ายสำคัญ (ค่าเฉลี่ย) : 69 ครั้ง (1.8 ครั้งต่อเกม)
จ่ายบอลสำเร็จ/พยายาม (เปอร์เซ็นต์) : 829/1022 ครั้ง (80.2%)

1. แกเร็ธ เบล

ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงที่เกือบพาท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์สไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ และการกวาดหมดทุกรางวัลในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา คงพอบ่งบอกทุกอย่างได้เป็นอย่างดี เบลยอดเยี่ยมแค่ไหน

ปีกชาวเวลส์กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาและโตวันโตคืนด้วยอัตราเร็วที่น่าทึ่ง จากแบ็คผู้ล้มเหลวกลายเป็นตัวรุกที่อันตรายที่สุดในพรีเมียร์ ด้วยความเร็วที่พร้อมจะฉีกกองหลังเป็นชิ้นๆ และทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญเขายังน่ากลัวในจังหวะเตะลูกนิ่งที่มีฟรีคิกซึ่งแทบจะถอดแบบกันมาจากคริสเตียโน โรนัลโด้เลยทีเดียว

การเติบโตของเขาย่อมเป็นที่สนใจของแฟนบอลทั่วไป และน่าจับตามองมากว่าเขาจะยังรักษาฟอร์มเก่งไว้ได้อีกนานแค่ไหน รวมถึงยังพัฒนาต่อไปได้อีกมากน้อยเพียงใด

ลงเล่น (สำรอง) : 33 นัด
ประตู : 21 ประตู
แอสซิสต์: 4 ครั้ง
ลูกจ่ายสำคัญ (ค่าเฉลี่ย) : 75 ครั้ง (2.3 ครั้งต่อเกม)
จ่ายบอลสำเร็จ/พยายาม (เปอร์เซ็นต์) : 888/1131 ครั้ง (78.5%)