ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ.)

วันอังคารที่ 17 กันยายน 2556

แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)  -  ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมัน)

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, แมนเชสเตอร์

        เกมประเดิมคุมทีมลุยยุโรปนัดแรกของ เดวิด มอยส์ กุนซือสก็อตต์ หลังจากเกมลีกนัดล่าสุดเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ได้ 2-0 ในเกม พรีเมียร์ ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

        ก่อนหน้านี้ตัวเจ็บมีกองหลังอย่าง จอนนี่ อีแวนส์ และ ราฟาเอล ที่ชวดลงสนามอยู่แล้ว ขณะที่ นานี่ ปีกโปรตุเกส ก็ยังติดโทษแบนตกค้างมาจากฤดูกาลก่อน ในการโดนใบแดงนัดแพ้ เรอัล มาดริด คาบ้าน 1-2 จนตกรอบ 16ทีมสุดท้าย

        ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีข่าวร้ายเมื่อ ฟิล โจนส์ ที่เพิ่งหายเจ็บไม่มีชื่อซ้อม นอกจากนั้น แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าสารพัดประโยชน์ก็ไม่ได้ลงซ้อมเช่นกันมีรายงานว่าทั้งคู่เจ็บ ข้อเท้า และหัวเข่าตามลำดับ อาจหมดสิทธิ์ช่วยทีม

        สำหรับ เวย์น รูนี่ย์ ลงซ้อมกับทีมตามปกติแล้ว และไม่ต้องใส่เฮดแบนด์อีกต่อไป คาดว่าจะได้ลงเป็นคู่หน้าตัวจริงกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เหมือนเดิม ส่วนกองหลังยังคงต้องใช้ ฟาบิโอ ดา ซิลวา เล่นแบ็กขวาต่อไป แดนกลาง ไรอัน กิ๊กส์ มีลุ้นกับมาเป็นตัวจริงเพื่ออาศัยความเก๋าประคองน้องๆ ปีกสองฝั่งมีลุ้นเซอร์ไพรส์ วิลฟรีด ซาฮา ลงแทน แอชลี่ย์ ยัง ที่โดนโจมตีเรื่องพุ่งล้ม ขณะที่ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, ชินจิ คางาวะ ที่ไม่มีชื่อเกมล่าสุดอาจมีส่วนร่วมเช่นกัน

        ด้านทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ของเทรนเนอร์ ซามี่ ฮูเปีย ที่จะได้กลับมาเยือนอังกฤษอีกครั้ง โดยอดีตแข้งลิเวอร์พูล เกมนี้จะไม่มีผู้เล่นติดโทษแบนให้ต้องกังวล

        ผู้เล่นที่ต้องชวดลงเล่นมี กอนซาโล่ กาสโตร มิดฟิลด์ที่เจ็บเป็นรายล่าสุด ขณะที่ เยนส์ เฮเกเลอร์ เจ็บกล้ามเนื้อไม่ได้เดินทางไปด้วยทว่าข่าวดีคือการได้ ลาร์ส เบนเดอร์ ฟิตกลับคืนทีมแล้ว

        นอกจากนั้นผู้เล่นดาวรุ่งที่มีชื่อมายังแมนเชสเตอร์ ด้วยอย่าง คอนสแตนตินอส สตาฟีลิดิส, โดมินิค โคห์ร และ เลวิน เอิซทูนาลี่ ทว่าเต็มที่คงเป็นแค่สำรอง

        กำหลังหลักที่เหลือพร้อมลงสนามหมดอย่าง แบร์นด์ เลโน่ นายทวาร โอเมอร์ โทพรัค กองหลัง มิดฟิลด์ ซิโมน โรลเฟส กัปตันทีมจะหวนเป็นตัวจริงคุมเกมกับ เบนเดอร์ และ สเตฟาน ไรนาร์ทซ์ แดนหน้ามีสามประสานอันตรายอย่าง ซิดนี่ย์ แซม, สเตฟาน คีสลิ่งก์ และ ซน ฮึง มิน ลงเล่

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        แมนฯ ยูไนเต็ด  : ดาบิด เด เคอา - ฟาบิโอ, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล แคร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, แอชลี่ย์ ยัง (วิลฟรีด ซาฮา) -  เวย์น รูนี่ย์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

        ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น : แบร์นด์ เลโน่ - จูลิโอ โดนาติ, โอเมอร์ โทพรัค, เอเมียร์ สปาฮิช, เซบาสเตียน เบอนิช - ลาร์ส เบนเดอร์, สเตฟาน ไรนาร์ทซ์, ซิโมน โรลเฟส - ซิดนี่ย์ แซม, สเตฟาน คีสลิ่งก์, ซน ฮึง มิน

        ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)

เกล็ดความรู้เพิ่ม แมนฯ ยูไนเต็ด - เลเวอร์คูเซ่น
- การลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ เป็นซีซั่นที่ 18 ติดต่อกันของแมนฯ ยูไนเต็ด ทว่าเป็นครั้งแรกในการคุมทีมลงเตะบอลยุโรป ถ้วยใหญ่ ของเดวิด มอยส์
- เกมนี้เป็นเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรก ในฐานะกุนซือของซามี่ ฮูเปีย โค้ชเลเวอร์คูเซ่นเช่นกัน
- เลเวอร์คูเซ่น เอาชนะทีมผีแดงด้วยกฏประตูทีมเยือน จากการพบกันในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เมื่อปี 2001/02
- การพบกันครั้งดังกล่าวเสมอกัน 2-2 ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก่อนกลับไปเสมอกัน 1-1 ที่เยอรมัน
- ไรอัน กิ๊กส์ เป็นนักเตะชุดดังกล่าวเพียงคนเดียวที่ยังหลงเหลือจนถึงชุดปัจจุบัน
- แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะจากเกมยุโรปในบ้านได้เพียง 3 จาก 9 นัด รวมถึงแพ้ 4 จาก 6 เกมหลังสุด
- ชัยชนะ 4-1 ของทีมผีแดง เหนือชาลเก้ 04 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองฯ เมื่อปี 2011 เป็นชัยชนะเหนือทีมจากเยอรมันครั้งที่ 5 ติดต่อกันในบ้านของตัวเองของยูไนเต็ด โดยครั้งสุดท้ายที่แมนฯ ยูไนเต็ดเอาชนะทีมจากเมืองเบียร์ไม่ได้ คือเกมเสมอเลเวอร์คูเซ่น 2-2 เมื่อปี 2002 (สถิติพบกับทีมจากเยอรมันทั้งหมด ชนะ 7 เสมอ 3 แพ้ 2)
- ทีมห้างยาไม่เคยบุกมาเอาชนะทีมจากอังกฤษได้เลย ในการพบกันในบอลยุโรป (เสมอ 2 แพ้ 6)

โปรแกรมฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
กลุ่ม A
01:45 น.   แมนฯ ยูไนเต็ด Vs เลเวอร์คูเซ่น      
01:45 น.   เรอัล โซเซียดาด Vs ชัคเตอร์ โดเนทส์ค      

กลุ่ม B
01:45 น.   กาลาตาซาราย Vs เรอัล มาดริด      
01:45 น.   เอฟซี โคเปนเฮเก้น Vs ยูเวนตุส      

กลุ่ม C
01:45 น.   เบนฟิก้า Vs อันเดอร์เลชท์      
01:45 น.   โอลิมเปียกอส Vs เปแอสเช      

กลุ่ม D
01:45 น.   บาเยิร์น มิวนิค Vs ซีเอสเคเอ มอสโก      
01:45 น.   วิคตอเรีย พิลเซ่น Vs แมนฯ ซิตี้