อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ออกมาพูดแบบแมนๆ ว่า เมซุต โอซิล จอมทัพดีกรีทีมชาติเยอรมัน เป็นการซื้อตัวแบบเสียไม่ได้ เนื่องจากเป็นนักเตะคุณภาพระดับโลก ที่ไม่อยากเสียโอกาสได้ตัวมาร่วมทีม ขณะที่ความจริงแล้ว อยากได้กองหน้ามากกว่า

อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล แห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับตามตรงว่า เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมัน ไม่ได้เป็นหมายการล่าตัวของเขา จนกระทั่งวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ เนื่องจากทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการหากองหน้าระดับโลกมาเสริมประสิทธิภาพแนวรุก แต่ในเมื่อมีนักเตะเวิลด์คลาสคนหนึ่ง สามารถย้ายทีมได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องมองข้าม
 
เวนเกอร์ ทุ่มเงิน 42.5 ล้านปอนด์ (ราว 1,912 ล้านบาท) ซื้อ โอซิล มาจาก เรอัล มาดริด ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ และกลายเป็นหนึ่งในการซื้อตัวที่ยอดเยี่ยม เพราะ โอซิล แทบไม่เสียเวลาปรับตัว อย่างไรก็ดี เวนเกอร์ ก็ยอมรับตามตรงว่า โอซิล ไม่ได้เป็นเป้าหมายแรกเลย เพราะความจริงเขาอยากได้กองหน้า และพยายามเจรจาซื้อ กอนซาโล่ อิกวาอิน และ หลุยส์ ซัวเรซ แต่แห้วหมด 
 
"อย่างแรกเลยคุณต้องมองไปที่คุณภาพ และเมื่อคุณมีความคาดหวังสูงส่ง คุณก็มองข้ามนักเตะระดับโลกไปไม่ได้ เราไม่มีได้มีปัญหาในแผงกลาง แต่คุณภาพระดับนี้เป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธได้" เวนเกอร์ กล่าว ก่อนย้ำว่า ในเกมฟุตบอลสมัยใหม่ ขุมกำลังเชิงลึกมีความสำคัญมาก เพราะนักเตะต้องสามารถถูกหมุนเวียน และโรเตชั่นได้อย่างไม่บั่นทอนประสิทธิภาพของทีม  
 
 "ผมเชื่อว่าสิ่งสำคัญคือสิ่งที่คุณเห็นเวลาทีมลงไปเล่น คุณต้องรับมือกับคนที่เหลือ ดูอย่าง บาเยิร์น มิวนิค บางเกมพวกเขามี (ฆาบี) มาร์ติเนซ และ (มาริโอ) เกิทเซ่ นั่งข้างสนาม มีคนบอกว่าทีมมีมูลค่า 92 ล้านยูโร และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 190 ล้านยูโร แต่ บาเยิร์น มีซุ้มสำรองมูลค่า 100 ล้านยูโร การมีนักเตะเก่งๆ ข้างสนามเป็นเรื่องปกติของสโมสรใหญ่ในทุกวันนี้"