"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี แรงครึ่งหลัง บุกเอาชนะ "นกขมิ้นเหลือง" นอริช ด้วยสกอร์ดี 3-1 เก็บสามคะแนน แซง สเปอร์ส ขึ้นมาอยู่อันดับสามชั่วคราว ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านม

 

 

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556

นอริช 1-3 เชลซี

สนาม : แคร์โรว์ โร้ด


         "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี จะไร้เงา เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ติดโทษแบนอยู่แล้วซ้ำร้ายยังมาเจ็บอีก โดยเกมนี้ใช้ เดมบา บา ลงนำล่าตาข่ายแดนหน้า บุกเยือนถิ่น "นกขมิ้นเหลือง" นอริช ซิตี้ ที่มี ริคกี้ ฟาน โวล์ฟสวิงเคล เป็นหวัหอกเป้า


        เริ่มเกมมา4นาที แฟนบอล "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ได้เฮกันลั่นก่อน เมื่อ เดมบา บา เอาบอลจากการวางยาวจากแดนตัวเองได้ดี ก่อนพลิกบอลกลับมาจ่ายให้ ออสการ์ วิ่งมากดยิงด้วยขวา บอลพุ่งเสียบหน้าต่างอย่างสวย ให้ เชลซี บุกนำ 1-0


        10นาทีต่อมา เชลซี บุกขึ้นมาอีกระลอก แล้วก็ได้เสียว เมื่อ ฆวน มาต้า จ่ายให้ เดมบา บา วิ่งไปกดยิงมุบแคมในกรอบเขตโทษ แต่ จอห์น รัดดี้ พุ่งปัดบอลเปลี่ยนทางเฉียดเสาไปนิดเดียว


        นาทีที่22 ป็นโอกาสของเจ้าบ้าน นอริช บ้าง เมื่อ ขึ้นมาทางขวา ก่อนเปิดเข้าไปที่หน้าประตู มาร์ติน โอลส์สัน กระโดดยิงจ่อๆระยะ5หลา แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม


        นาทีที่38 ทีมเยือน มีโอกาสบุกและได้ยิงอีกครั้ง แต่ผู้ตัดสินชี้ว่า อันเดร เชือร์เล่ ไปทำฟาวส์ โรเบิร์ต สน็อดกราส เสียก่อน

        3นาทีต่อมา นอริช จะได้บุกและได้จบสกอร์บ้าง แต่ลูกยิงของ อเล็กซานเดอร์ เทตเทย์ ไม่เข้ากรอบไปนิดเดียว

        ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก เชลซี จึงบุกนำ นอริช อยู่ 1-0


        เริ่มครึ่งหลังมา เชลซี มาเสียวได้ก่อน เมื่อ อันเดร เชือร์เล่ จ่ายบอลให้ แอชลี่ย์ โคล เติมขึ้นมาเปิดจาดริมสนามฝั่งซ้าย เดมบา บา โฉบมายิง แต่โดนบอลบางเกินไป บอลจึงผ่านหน้าประตูออกหลังไป


        นาทีที่55 นอริช ได้ฟรีคิกระยะน่ารักน่าลุ้น ระยะประมาณ25หลา แต่ลูกยิง แอนโธนี่ พิลคิงตัน โด่งข้ามกำแพงลอยออกหลังไปอย่างไม่ใกล้เคียง


        แต่แล้วนาทีที่68 แฟนๆเจ้าถิ่น ได้เฮกันลั่น เมื่อขึ้นบอลมาทางซ้าย เปิดข้ามมาทางเสาสอง โดย มาร์ติน โอลส์สัน ให้ ริคกี้ ฟาน โวล์ฟสวิงเคล โหม่งตั้งมาหน้าประตูให้ แอนโธนี่ พิลคิงตัน โหม่งเอาชนะ ดาวิด ลุยซ์ ผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เข้าประตู ให้ นอริช ตีเสมอ 1-1


        นาทีต่อมา นอริช รับใบเหลืองไป หลัง อเล็กซานเดอร์ เทตเทย์ ไปสอย อันเดร เชือร์เล่ จากด้านหลังอย่างโฉ่งฉ่าง เลยไม่รอดรับใบเหลือง


        นาทีที่73 ทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวทั้งคู่ โดย นอริช เปลี่ยน แกรี่ ฮูเปอร์ ลงมาแทน ริคกี้ ฟาน โวล์ฟสวิงเคล ส่วน เชลซี เปลี่ยน ซามูเอล เอโต้ ลงมาแทน เดมบา บา และเปลี่ยน เอแดง อาซาร์ ลงมาแทน แอชลี่ย์ โคล


        ก่อนหมดเวลา10นาที ทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดย นอริช ส่ง นาธาน เร้ดมอนด์ ลงมาแทน โรเบิร์ต สน็อดกราส ขณะที่ เชลซี เปลี่ยน วิลเลี่ยน ลงมาแทน ฆวน มาต้า


        นาทีที่85 สาวกสิงห์บลู ได้เฮกันลั่นทุ่ง เมื่อ ออสการ์ เปิดบอลมาหน้าประตูนอริช ในจังหวะสวนกลับจากแดนตัวเอง อเล็กซานเดอร์ เทตเทย์ เคลียร์บอลไม่ดี มาเข้าทางปืนของ เอแดง อาซาร์ กดรอดตัว จอห์น รัดดี้ เข้าประตูให้ เชลซี นำ 2-1


        หลังทำนบแตก เชลซี ก็บวกสกอร์เพิ่มอย่างรวดเร็ว เมื่อ เอโต้ พาบอลลุยมาติดแนวรับนอริช กระเด้งตั้งแท่นให้ วิลเลี่ยน วิ่งมาปั่นด้วยเท้าซ้าย บอลโค้งเสียบประตูอย่างามหยดย้อย ให้ เชลซี บุกนำห่าง ถึง 3-1 ใน2นาที


        ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา เชลซี จึงบุกเอาชนะ นอริช 3-1
11นักเตะของทั้งสองทีม

นอริช(4-5-1):จอห์น รัดดี้,รัสเซลล์ มาร์ติน,ไมเติ่ล เทอร์เนอร์,เซบาสเตียน บาสซง,มาร์ติน โอลส์สัน,จอนนี่ ฮาวสัน,อเล็กซานเดอร์ เทตเทย์,เลรอย เฟอร์, โรเบิร์ต สน็อดกราส, แอนโธนี่ พิลคิงตัน ,ริคกี้ ฟาน โวล์ฟสวิงเคล

สำรอง:สตีเว่น วิตเทเกอร์,แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน,แกรี่ ฮูเปอร์,มาร์ค บันน์,จอห์น เอลมานเดอร์,นาธาน เร้ดมอนด์,ไรอัน เบนเนตต์

เชลซี(4-2-3-1):ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,ดาวิด ลุยซ์,จอห์น เทอร์รี่,แอชลี่ย์ โคล,รามิเรส,แฟร้งค์ แลมพาร์ด,ฆวน มาต้า,ออสการ์,อันเดร เชือร์เล่,เดมบา บา

สำรอง:มาร์ค ชวาร์เซอร์,แกรี่ เคฮิลล์,เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า,ไมเคิ่ล เอสเซียง,วิลเลี่ยน,เอแดง อาซาร์,ซามูเอล เอโต้

ผู้ตัดสิน : นีล สวอร์บริค