คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือจอมแท็กติก "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ชี้จุดเปลี่ยนของเกมที่ชนะ ยูเวนตุส 2-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพราะการตัดสินใจของกรรมการไล่จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งของทีมเยือนออกจากสนามในช่วงต้นครึ่งหลัง รับพอใจผลการแข่งขันที่เก็บอีก 3 แต้มได้สำเร็จ
 
คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ของเรอัล มาดริด มหาอำนาจลูกหนังแดนกระทิง มองว่าการโดนไล่ออกของจอร์โจ้ คิเอลลินี่ ปราการหลังทีมชาติอิตาลี เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมในแมตช์ที่ลูกทีมของเขาชนะ ยูเวนตุส แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 2-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี ที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อวันพุธที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา
 
มานูเอล กราเฟ่ กรรมการตัดสินใจให้ใบแดงโดยตรงแก่คิเอลลินี่ ในนาทีที่ 48 หลังจากที่เขาเข้าปะทะกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งทำคนเดียวสองประตูในเกมนี้ โดยอันเชล็อตติ เชื่อว่า ผลการแข่งขันที่ออกมานั้น เป็นเพราะทีมได้เปรียบด้านจำนวนตัวผู้เล่น
 
กุนซือชาวอิตาเลี่ยน กล่าวว่า "เกมมันเปลี่ยนไป มีกรรมการอยู่ 5 คน จากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจลงโทษยูเวนตุส และเราก็ต้องยอมรับมัน เราน่าจะเล่นได้ดีกว่านี้ แต่ชัยชนะก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา ทีมมีความมั่นใจและพัฒนาขึ้นได้ดี นี่เป็นผลการแข่งขันที่ดี เราชนะเกมหลังจากเล่นดีมากว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นเราก็ช้าลง"
 
 "ผมชอบที่เราเล่นกันได้ดีในหลายครั้ง และเรามีความสมดุลในเกม อย่างไรก็ตาม เราพยายามเดินหน้าบุกไปจนจบเกม ความเข้มข้นของเกมนั้นมันแตกต่างกัน เรามีโอกาสจะแจ้งถึง 2 ครั้ง (ตอนที่นำอยู่ 2-1) และก็ฉวยโอกาสเอาไว้ไม่ได้"
 
 ทัพ "ราชันชุดขาว" ที่ยังไม่ทำคะแนนตกหล่นในการแข่งขันรายการนี้ นั่งเป็นจ่าฝูงของกลุ่มบี ส่วนอันดับ 2 นั้นคือกาลาตาซาราย แชมป์ลีกตุรกี ที่มีคะแนนตามหลังทีมจากลา ลีกา 4 แต้ม