ทิม ครูล สร้างสถิติซูเปอร์เซฟพรีเมียร์ลีก, ฟาน เพอร์ซี เป็นจอมยิงนัดผีชนปืน, เรือใบแพ้ทางแมวดำในบ้าน อะไรบ้างที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่าน มา

พรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผลงานน่าสนใจมากมาย เมื่อบรรดาทีมหัวตารางหลายทีมพากันสะดุดโดยพร้อมเพียงกันแบบไม่ได้นัดหมาย ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ในเวลานี้ และอยู่ในวงโคจรลุ้นแชมป์อีกครั้ง หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนักเมื่อช่วงเปิดฤดูกาล

นอกจากนี้ ในหลายๆ สนามก็ล้วนแล้วแต่มีสถิติน่าสนใจมากมายให้เราได้ติดตามกัน โกล ประเทศไทย รวบรวมมาให้ที่นี่

แนว รุกไก่เดือยทองอาจต้องท้อแท้ เมื่อพวกเขาพยายามทำประตูครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากที่เสียท่าให้โลอิค เรมี กองหน้าของนิวคาสเซิล ตั้งแต่นาทีที่ 13 แต่จากฟอร์มของนายด่านสาลิกาดงทำให้ไก่เดือยทองต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่ สุด

ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ ทิม ครูล เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลายเป็นสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก นับตั้งปี 2006-07 เป็นต้นมา เมื่อเขาเซฟไปถึง 14 ครั้ง โดยทำลายสถิติเดิมของ เควิน แพทริค, เดวิด เจมส์ และแบรด ฟรีเดล ที่ทำได้ 12 ครั้งเท่ากัน
 

ซันเดอร์ แลนด์อาจเป็นทีมแจกแต้มให้หลายๆ สโมสรในพรีเมียร์ลีก แต่ไม่ใช่สำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้แน่ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสเตเดียม ออฟ ไลท์ รังเหย้าของพวกเขา

ลูกทีมของกุสตาโว โปเยต์ คว้าชัยชนะเหนือเรือใบสีฟ้าในบ้านได้เป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันเข้าไปแล้ว (ด้วยสกอร์ 1-0 ทั้ง 4 นัด) ซึ่งนั่นอาจเป็นผลพวงจากฟอร์มอันย่ำแย่ในเกมเยือนของแมนฯ ซิตี้ด้วย (ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 5 จากเกมเยือน 9 นัดหลังสุด) แต่มานูเอล เปเยกรินี และลูกทีม คงต้องแก้ไขเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด หากไม่อยากเสียอีก 3 คะแนนในฤดูกาลหน้าที่นี่

ปืน ใหญ่ของอาร์แซน เวนเกอร์ อาจถล่มประตูได้แทบจะทุกทีมในพรีเมียร์ลีก แต่คงไม่ใช่สำหรับทีมของเดวิด มอยส์ เมื่อนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 16 เกมที่อาร์เซนอลเจาะตาข่ายคู่แข่งไม่ได้ ที่สำคัญกว่าทีมเยือนจากลอนดอนจะได้โอกาสยิงเข้ากรอบก็ต้องรอจนถึงนาทีที่ 59 เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ทีมสุดท้ายที่สร้างปัญหาแบบเดียวกันให้ลูกทีมของโค้ชแดนน้ำหอม ก็ยังคงเป็นเอฟเวอร์ตันในสมัยที่เดวิด มอยส์ เป็นกุนซือ เมื่อวันที่ 16 เมษายน นั่นเอง

นิ วคาสเซิลทำไปแล้วถึง 34 ประตูในปีนี้ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยทีเดียวสำหรับทีมขนาด ปานกลางที่ไม่เล็กแล้วก็ไม่ใหญ่มากมายนัก แต่เชื่อหรือไม่ว่าในจำนวนดังกล่าว ไม่มีประตูไหนมาจากฝีเท้าของชาวอังกฤษเลยแม้แต่ประตูเดียว

ซึ่งนั่น ก็อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร หากดูจากรายชื่อขุนพลของอลัน พาร์ดิว พวกเขามีนักเตะเพียง 3 รายที่ถือสัญชาติอังกฤษในแดนกลางและแดนหน้าเวลานี้ (แซมมี อเมโอบี, อดัม แคมป์เบลล์ และกาแอล บิกิริมาน่า) ซึ่งทั้งสามล้วนอยู่ในข่ายดาวรุ่งตัวสำรองข้างสนามทั้งสิ้น

ลิ เวอร์พูลยังคงเดินหน้าระเบิดฟอร์มเก่งในช่วงครึ่งแรกของตัวเองต่อไป โดยหากนับจนถึงเวลานี้ พวกเขาทำได้ถึง 15 ประตู นับเฉพาะ 45 นาทีแรก มากกว่าทีมใดๆ ในพรีเมียร์ลีก

นอกจากนี้ จาก 3 เกมหลังสุด พวกเขายังทำไปได้ทั้งสิ้น 8 ประตู นับเฉพาะครึ่งแรก และสองประตูของหลุยส์ ซัวเรซในเกมนี้ยังทำให้เขาทำได้ถึง 8 ประตูในลีก แม้จะเพิ่งมีโอกาสลงสนามไป 6 นัดเท่านั้นก็ตาม

ดาว ยิงดัตช์คือฮีโร่ในเกมที่ปีศาจแดงคว้าชัยชนะนัดสำคัญเหนืออาร์เซนอล 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ลูกทีมของเดวิด มอยส์ ทะยานขึ้นมาสู่อันดับ 5 ในตารางพรีเมียร์ลีก และก้าวเข้าสู่สารบบลุ้นแชมป์แบบจริงๆ จังๆ

ฟาน เพอร์ซี คือนักเตะที่ชื่นชอบการลงสนามในเกมดวลกันระหว่างสองทีมนี้อย่างแท้จริง เมื่อเจ้าตัวทำประตูในเกมดังกล่าวได้แล้วถึง 5 นัดติดต่อกัน เป็นสองนัดให้อาร์เซนอล กับอีกสามนัดให้ยูไนเต็ด

แม้ จะได้ คริสเตียน อีริคเซน เพลย์เมคเกอร์ชาวเดนมาร์ก ที่ช่วยสร้างโอกาสได้ถึง 8 ครั้ง มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่ทีมของอังเดร วิลลาส โบอาส กลับไม่สามารถเปลี่ยนมันเป็นประตูได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ไก่เดือย ทองฤดูกาลนี้ได้โอกาสยิงไปแล้วทั้งสิ้น 206 ลูกในฤดูกาลนี้ แต่เปลี่ยนเป็นประตูได้เพียง 9 ประตู คิดเป็น 5.7% ซึ่งถือเป็นสถิติที่แย่ที่สุดในพรีเมียร์ลีกเวลานี้