แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลุดจากการเป็น 3 ทีมแรกที่รวยสุดในโลก เป็นครั้งแรก จากการจัดอันดับครั้งล่าสุด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ภายหลังเสียตำแหน่งให้ บาเยิร์น มิวนิค ขณะที่ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ยังคงครองอันดับ 1 และ 2 ต่อไปเหมือนเดิม ส่วน ลิเวอร์พูล ที่แม้จะหลุดจาก 10 อันดับเป็นครั้งแรก แต่ก็ยังคงเป็นทีมที่ทำรายได้สูงสุด จากทุกทีมที่ไม่ลงโม่แข้งในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลุดจาก 3 อันดับแรกจากการจัดอันดับสโมสรฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก ภายหลังถูก บาเยิร์น มิวนิค ทีมชั้นนำจากบุนเดสลีกา เยอรมัน เบียดแซงขึ้นไป โดยอันดับ 1 และ 2 ยังคงตกเป็นของ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า 2 ยักษ์ใหญ่จากลา ลีกา สเปน ตามลำดับเหมือนเดิม จากการประกาศ "ดีลอยต์ ฟุตบอล มันนี่ ลีก 2013" โดย "ดีลอยต์" บริษัทตรวจสอบบัญชีชั้นนำของโลก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา
 
จากการจัดอันดับครั้งนี้ทีมจากลีกสูงสุดแดนผู้ดี ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเป็นมหาอำนาจในวงการลูกหนังโลกได้ต่อไปกับการมีอยู่ถึง 6 สโมสรที่เข้ามาติดอยู่ใน 20 อันดับแรก ซึ่งประกอบไปด้วย แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล, เชลซี, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ ลิเวอร์พูล ขณะที่ เยอรมัน และ อิตาลี ติดเข้ามาชาติละ 4 ทีม ส่วน สเปน มี 3 ทีม และอีก 1 ทีมจากฝรั่งเศส
 
"ราชันชุดขาว" มีรายได้ 444.7 ล้านปอนด์ (ราว 22,235 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ แต่พวกเขาก็ยังคงมีรายได้ร่วม 31.1 ล้านปอนด์ (ราว 1,555 ล้านบาท) มากกว่า "เจ้าบุญทุ่ม" ที่มีรายได้ไม่ต่างจากเดิมที่ 413.6 ล้านปอนด์ (ราว 20,680 ล้านบาท)
 
สาเหตุที่ทำให้ เรอัล มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่มากนัก ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากการทุ่มเม็ดเงินมหาศาลซื้อ แกเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ เข้ามาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ผนวกกับจำนวนผู้ชมในแต่ละนัดที่ลดลงไปกว่าแต่ก่อนด้วย อย่างไรก็ดี ในส่วนของรายได้จากค่าโฆษณาและถ่ายทอดสด นับตั้งแต่ช่วงปรี-ซีซั่นเป็นต้นมา ที่เพิ่มขึ้น ถือว่ามีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ช่วยให้พวกเขามีรายได้สูงสุดเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน 
 
ด้าน "ปีศาจแดง" ที่แม้จะอันดับร่วงหล่นลงมา แต่รายได้ของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นไปถึง 13 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 363.2 ล้านปอนด์ (ราว 18,160 ล้านบาท) ซึ่งส่วนสำคัญก็น่าจะมาจากการผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้เมื่อฤดูกาลก่อนนั่นเอง ขณะที่ "เสือใต้" ก็ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ทันที ภายหลังการสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์มาครองได้ 3 รายการ ที่รายได้ 369.6 ล้านปอนด์ (ราว 18,480 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์
 
ส่วนสโมสรจากเกาะอังกฤษอีกทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ ก็ขยับขึ้นมา 1 อันดับมาอยู่ที่อันดับ 6 กับรายได้อยู่ที่ร่วม 271 ล้านปอนด์ (ราว 13,550 ล้านบาท) ทั้งที่ไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดได้เลย ซึ่งถือเป็นการขยับข้ามหัวคู่ปรับร่วมลีกอย่าง "สิงห์บลูส์" และ "เดอะ กันเนอร์ส" ที่รั้งอยู่ในอันดับ 7 และ 8 ตามลำดับ
 
ขณะที่ "เครื่องจักรสีแดง"  ยอดทีมจากแถบเมอร์ซี่ย์ไซด์ ที่แม้จะอันดับหลุดจาก 10 อันดับแรกเป็นครั้งแรก แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นสโมสรลูกหนังที่มีอันดับสูงสุด โดยปราศจากการได้โควต้าลุยถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่ง "เร้ด แมชีน" มีรายได้เพิ่มขึ้น 17.5 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 206.2 ล้านปอนด์ (ราว 10,310 ล้านบาท)
 
พร้อมกันนั้นก็มีทีมจากลีกเอิง ฝรั่งเศสอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่มีการขยับอันดับขึ้นมามากอย่างไม่น่าเชื่อ กับการเข้ามาอยู่ใน 5 อันดับแรก เป็นครั้งแรก กับรายได้ที่ได้มากเป็นสถิติอยู่ที่ 341.8 ล้านปอนด์ (ราว 17,090 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นถึง 81 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว
 สรุปการจัดอันดับทีมฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลก "ดีลอยต์ ฟุตบอล มันนี่ ลีก 2013" จากการประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา

1.(1) เรอัล มาดริด (สเปน)   518.9 ล้านยูโร (ราว 20,756 ล้านบาท)
2.(2) บาร์เซโลน่า (สเปน)   482.6 ล้านยูโร (ราว 19,304 ล้านบาท)
3.(4) บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)   431.2 ล้านยูโร (ราว 17,248 ล้านบาท)
4.(3) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)  423.8 ล้านยูโร (ราว 16,952 ล้านบาท)
5.(10) ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)  398.8 ล้านยูโร (ราว 15,952 ล้านบาท)
6.(7) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)   316.2 ล้านยูโร (ราว 12,648 ล้านบาท)
7.(5) เชลซี (อังกฤษ)    303.4 ล้านยูโร (ราว 12,136 ล้านบาท)
8.(6) อาร์เซน่อล (อังกฤษ)    284.3 ล้านยูโร (ราว 11,372 ล้านบาท)
9.(13) ยูเวนตุส (อิตาลี)   272.4 ล้านยูโร (ราว 10,896 ล้านบาท)
10.(8) เอซี มิลาน (อิตาลี)   263.5 ล้านยูโร (ราว 10,540 ล้านบาท)

***12.(9) ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)   240.6 ล้านยูโร (ราว 9,624 ล้านบาท)