เคราร์ด ปีเก้ ปราการหลัง บาร์เซโลน่า ชี้ต้นสังกัดต้องการพิสูจน์ตัวเองว่ายังเป็นสุดยอดทีมของโลก ด้วยการบุกชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันอังคารนี้ หลัง "เจ้าบุญทุ่ม" ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ยอมรับไม่อาจประมาท "เรือใบสีฟ้า" ได้ เนื่องจากเต็มไปด้วยแนวรุกที่สุดอันตราย

เคราร์ด ปีเก้ กองหลัง "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ออกมากล่าวเมื่อวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า ต้นสังกัดต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเองว่ายังคงเป็นสุดยอดทีมของโลกด้วยการบุกไปเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม คืนวันอังคารนี้
 
บาร์ซ่า คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ครั้งในรอบ 3 ปีภายใต้การคุมทีมของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า จนได้รับการยกย่องว่าเป็นสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก
 
อย่างไรก็ตาม "เจ้าบุญทุ่ม" ต้องแพ้ในรอบรองชนะเลิศตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุด และมีคนตั้งข้อสงสัยถึงศักยภาพของทีมภายใต้การกุมบังเหียนของ เคราร์โด้ มาร์ติโน่ และล่าสุด ปีเก้ ก็ออกมายืนยันว่า นักเตะ "เลือดหมู-น้ำเงิน" ทุกคนต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเองด้วยการคว้าถ้วยใบใหญ่ของยุโรปมาครองให้ได้
 
"เรารู้ว่าในสโมสรในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา มันเกิดเรื่องราวต่างๆ ที่นักเตะไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งหมดที่เราสามารถทำได้คือการแสดงให้โลกเห็นว่าเรายังคงสุดยอดด้วยการพยายามเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บางทีทีมอื่นๆ อาจไม่กลัวเราอีกแล้ว แต่ผมคิดว่าพวกเขายังคงเคารพเรา เรายังมีนักเตะหลายคนที่คว้าแชมป์โลกและแชมเปี้ยนส์ ลีก เกมนี้เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับการลงสนามและแสดงให้เห็นว่าเราคือนักเตะชั้นยอดและเราสามารถคว้าชัยชนะได้ที่นี่" ปีเก้ กล่าว
 
กองหลังทีมชาติสเปน ยอมรับว่า แมนฯ ซิตี้ เป็นแนวรุกที่อันตรายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ อัลบาโร่ เนเกรโด้ กองหน้าเพื่อนร่วมชาติ ซึ่งปราการหลัง บาร์ซ่า ต้องระวังเอาไว้ให้ดี
 
"เนเกรโด้ เป็นนักเตะที่พิเศษ เขามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม แต่มันไม่ได้มีเพียงแค่เขา ยาย่า ตูเร่, ซามีร์ นาสรี่, เอดิน เซโก้ พวกเขาต่างสามารถยิงประตูได้ ฉะนั้น เราต้องระวังลูกตั้งเตะและป้องกันให้ดี เราต้องระวังไม่เสียฟาวล์มากเกินไปนัก พวกเขาแพ้ต่อ เชลซี (ในพรีเมียร์ลีก) แต่ชนะพวกเขาในเอฟเอ คัพ (ในวันเสาร์) เห็นได้ชัดว่าเราอยู่ในระดับเดียวกันแล้ว" ปีเก้ กล่าว