อูลี่ เฮอเนส หัวเรือใหญ่ บาเยิร์น เสี่ยงต่อการเข้าไปนอนในคุกนาน 5-10 ปีเลยทีเดียว หลังยอมรับแอบใช้บัญชีลับมานานปี ในระหว่างการพิจารณาคดีหนีภาษี หวังคำให้การสารภาพจะช่วยลดหย่อนผ่อนโทษ พร้อมโอดครวญถึงขั้นถูกขู่ฆ่า ทั้งๆที่ทำบุญสร้างกุศลตั้งมากมาย ไม่ได้เป็นกาฝากสังคมสักหน่อย

อูลี่ เฮอเนส ประธานสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่บุนเดสลีกา เยอรมัน กล่าวคำขอโทษและร้องขอการลดหย่อนผ่อนโทษในระหว่างการเริ่มต้นพิจารณาคดีในชั้นศาลเมืองเบียร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังยอมรับว่าตนได้หลีกเลี่ยงภาษีราว 18.5 ล้านยูโร (ประมาณ 832.5 ล้านบาท) โดยใช้บัญชีลับธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขจำนวนเงินมากกว่าคำฟ้องของอัยการถึง 5 เท่าเลยทีเดียว

อัคคิม โฟน เอนเกล อัยการของรัฐ อ่านคำฟ้องจากการที่ เฮอเนส ถูกกล่าวหาว่าหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี 3.5 ล้านยูโร (ประมาณ 157.5 ล้านบาท) จากรายได้ที่ไม่มีการเปิดเผย 33.5 ล้านยูโร (ประมาณ 1,507.5 ล้านบาท) ระหว่างปี 2003-2009 ทั้งนี้บิ๊กบอส "เสือใต้" อาจถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกระหว่าง 5-10 ปีเลยทีเดียว ถ้าถูกตัดสินว่ามีการหลบเลี่ยงภาษีจำนวนมากกว่าหนึ่งล้านยูโร (ประมาณ 45 ล้านบาท) จริง

เฮอเนส วัย 62 ปี ที่มาในชุดสูทสีเข้มและยิ้มแบบเจื่อนๆกล่าวกับศาลท่ามกลางผู้สื่อข่าวและผู้ที่เข้ามาร่วมรับฟังการพิจารณาจนแน่นศาลกว่า 100 คน ว่า "ผมดีใจที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมดแล้วในเวลานี้ ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการกระทำผิดของผม ผมจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมสามารถทำได้เพื่อทิ้งเรื่องราวเลวร้ายเหล่านี้เอาไว้ข้างหลังผม"

พร้อมกันนี้ อดีตนักเตะทีมชาติเยอรมันตะวันตก ชุดคว้าแชมป์โลก 1974 ยังได้บอกกับศาลอีกว่าแอบใช้บัญชีลับสำหรับการซื้อขายเก็งกำไรในตลาดทุน อาทิ เงินตราต่างประเทศและตราสารอนุพันธ์มาตั้งแต่ปี 2001-2010 และขาดทุนไป 1 ล้านยูโร ระหว่างปี 2003-2009 พร้อมระบุว่า "มันชัดเจนสำหรับผมเสมอว่าบัญชีนั้นใช้เป็นหลักสำหรับการเล่นพนัน มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นโดยแท้จริง ผมไม่ได้คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ ทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมดในท้ายที่สุด"

นอกจากนี้ เฮอเนส ที่ได้บริจาคเงินเพื่อการกุศลมากกว่า 5 ล้านยูโร (ประมาณ 225 ล้านบาท) ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และจ่ายภาษีไปแล้วมากกว่า 50 ล้านยูโร (ประมาณ 2,250 ล้านบาท) ในเยอรมันนั้น ยังได้แสดงความรู้สึกผิดหวังที่อัยการบุกเข้าไปในบ้าน จนกระทั่งถูกจับก่อนที่จะมีการตั้งข้อกล่าวหา และเคยถูกขู่ฆ่าเมื่อสาธารณชนรับรู้เรื่องราวคดีดังกล่าวเมื่อปี 2013 โดยระบุว่า "ผลที่ตามมาของเรื่องราวทั้งหมดนี้สำหรับผมและครอบครัวของผมคือหายนะดีๆนี่เอง ผมไม่ได้เป็นกาฝากสังคมแต่อย่างใด"