คาร์ล-ไฮน์ซ รุมเมนิกเก้ ซีอีโอ บาเยิร์น มิวนิค รับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถูกแช่แข็งไปนานแล้วตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน สืบเนื่องจากประเด็นที่พวกเขาให้ทัพ "เสือเหลือง" ยืมเงิน 2 ล้านยูโร แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเรียกดอกเบี้ยสุดโหด จนทำให้เกิดเป็นสงครามน้ำลายนับแต่นั้นมา

คาร์ล-ไฮน์ซ รุมเมนิกเก้ ประธานบริหาร บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่ศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ออกมาเปิดเผยว่า สายสัมพันธ์ระหว่างสโมสรของเขากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมคู่ปรับร่วมลีก หยุดชะงักลงไปตั้งแต่ปี 2004 หลังเกิดการโต้เถียงกันเกี่ยวกับประเด็นที่ยอดทีมแคว้นบาวาเรีย ให้ทีมจากแคว้นรูห์ ยืมเงินไปกว่า 2 ล้านยูโร (ราว 90 ล้านบาท)

บาเยิร์น ให้ ดอร์ทมุนด์ ซึ่งกำลังขัดสนเรื่องเงินทอง ยืมเงินไปเมื่อ 10 ปีก่อน แต่จากนั้นก็มีการทำสงครามน้ำลายกันพักใหญ่ เมื่อทัพ "เสือเหลือง" ระบุว่าข้อตกลงที่ทำกันนั้นห่างไกลเกินกว่าจะเรียกว่าเป็นความเมตตากรุณาได้ แต่ล่าสุด รุมเมนิกเก้ กล่าวกับ บิลด์ นิตยสารกีฬาเมืองเบียร์ว่า "คาร์ล ฮอพฟ์เนอร์ (ประธาน บาเยิร์น) เสนอข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง หลังจาก ดอร์ทมุนด์ อ้างบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง"
 
ฮอพฟ์เนอร์ เคยระบุว่า ฮานส์-โยอัคคิม วัตซ์เค่ ซีอีโอ ดอร์ทมุนด์ ไม่ได้พูดความจริงตอนที่อ้างว่า บาเยิร์น เรียกร้องดอกเบี้ยสูงเกินกว่าจะยอมรับได้ในการให้ยืมเงินครั้งนั้น
 
รุมเมนิกเก้ กล่าวอีกว่า "มันเป็นอย่างที่เป็นในตอนนั้น เราจึงมียุคน้ำแข็งในความสัมพันธ์ของเรา มีทั้งช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่แย่ระหว่าง 2 สโมสร นั่นเป็นกรณีในอดีตกับ โคโลญจน์ ภายใต้การคุมทีมของ คริสตอฟ ดอม (กุนซือในตอนนั้น) และนั่นยังเป็นกรณีกับ แวร์เดอร์ เบรเมน เราไม่ควรแค่กอดกัน"
 
"บาเยิร์น ไม่จำเป็นต้องจัดประชุมเพื่อหาข้อยุติ และไม่จำเป็นต้องหารือใดๆ (กับ ดอร์ทมุนด์) ในที่นี้ผมหมายความว่า ในอนาคตจะไม่มีการทานข้าวร่วมกันก่อนเกมบุนเดสลีกา บางทีนั่นอาจเป็นพฤติกรรมที่จริงใจมากกว่าการนัดพบเพื่อให้เกียรติกันทั้งที่มันไม่มีอยู่" ซีอีโอ บาเยิร์น กล่าวสรุป