ณ จุดนี้ เรากำลังสนุกศึกฟุตบอลโลก ซึ่งวัดจากหลายๆ อย่าง ถือว่า เวิลด์ คัพ 2014 ที่เมืองกาแฟ เป็นอะไรที่รื่นรมย์ทีเดียว ด้วยความรื่นเริงเป็นทุนเดิมของชาวแซมบ้าที่เสกให้งานนี้หนุกหนานเหมือนคาร์นิวัล ขณะที่ซูเปอร์สตาร์ก็แน่นเอี้ยด

 นี่คือ 8 เหตุผลว่าทำไม เวิลด์ คัพ หนนี้จะยอดเยี่ยมสมกับการรอคอย

1 ซุปตาร์อื้อซ่า

 เมื่อบอลโลกเดินทางมาถึง มักมีแข้งซุปตาร์ที่มวลมหาประชาชนเฝ้ารอยลเสมอ และหนนี้มีเพียบแปล้ แถมน่าสนใจไปโม้ด ทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่จะนำ โปรตุเกส หักด่านเจ้าภาพ บราซิล ได้หรือไม่? ลิโอเนล เมสซี่ จะก็อปปี้ ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่ฉายเดี่ยวพา อาร์เจนติน่า พุ่งชนฟามสำเร็จเหมือนปี 1986 ได้อ๊ะเปล่า?

 ไหนจะมี หลุยส์ ซัวเรซ แห่ง อุรุกวัย, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จาก ฮอลแลนด์ รวมถึง เนย์มาร์ ขวัญใจเจ้าถิ่นเองก็ด้วย

2 หาดทราย, บิกินี่ และสาวงาม

 เชื่อเหอะว่า บรรดาช่างภาพกีฬาที่เดินทางไป บราซิล ช่วง เวิลด์ คัพ คงไม่ได้ปักหลักลั่นชัตเตอร์แค่ในสนามฟุตบอลแน่นอน เพราะยังมีชายหาดแหล่มๆ ที่เต็มไปด้วยสาวหน้าตาแหล่มๆ อวดหุ่นแหล่มๆ ในชุดบิกินี่แหล่มๆ รอให้บันทึกแล้วแชร์กับชาวโลกด้วย... ซี้ดดดดดด

3 ต้นตำรับเกมอันสวยงาม

 เนิ่นนานมาแล้วที่ลูกหนังแซมบ้า ได้ชื่อว่าเป็นเกมการเล่นที่สวยงาม & พลิ้วไหวดั่งสายน้ำ และนี่คือโอกาสที่ บราซิล จะร่ายมนต์ให้โลกตะลึงอีกครั้งบนแผ่นดินตัวเอง ซึ่งทีมที่มาร่วมสังฆกรรมก็คงอยากผลิตเกมอันสวยงามเช่นกันเพื่อไม่ให้น้อยหน้าเจ้าภาพ รับรองประตูไหลมาเทมาแน่เทียว

4 ใครเป็นแชมป์ก็ดร้ายยยยยยย

 นี่อาจเป็นศึกฟุตบอลโลกที่เปิดกว้างสุดๆ ชนิดที่เรียกได้ว่าโอเพ่นสุดๆ เพราะดูเหมือนไม่ว่าจะเป็นทีมใด ก็มีสิทธิ์คว้าแชมป์ด้วยกันทั้งนั้นเยย

 จริงอยู่ บราซิล คือเต็งจ๋าโทษฐานที่เป็นเจ้าบ้าน และผลงานที่ผงาดครองแชมป์ คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ปีก่อนก็ยังติดตาแควนๆ แต่เรายังมีด่านอรหันต์ทั้ง สเปน ที่กำลังไล่ล่าแชมป์เมเจอร์สมัยที่สี่ติดต่อกัน, เยอรมนี ที่ส่งสัญญาณว่าพร้อมก้าวขึ้นมาทวงบัลลังก์โลก, อาร์เจนติน่า ที่มี ลิโอเนล เมสซี่, โปรตุเกส ที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และทีมขี้โม้อย่าง อังกฤษ 
 

5 ดินฟ้าอากาศ

 สภาพดินฟ้าอากาศ และบรรยากาศเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แฟนๆ มักจดจำได้ดีจาก เวิลด์ คัพ อย่างความร้อนระอุเมื่อครั้ง ยูเอสเอ 94 เป็นต้น และที่ บราซิล หนนี้ ว่ากันว่าจะมีสี่ฤดูในรอบสี่สัปดาห์เลยทีเดีย เพราะดินแดนแซมบ้า ถือเป็นถิ่นที่มีอากาศแปรปรวนอยู่แล้ว ซึ่งก็อาจเป็นดัชนีวัดความอึดชั้นดีของผู้ร่วมแข่งขัน

6 ปีทองของม้ามืด

 อย่างที่ว่าไว้ ใครก็ดร้ายต่างมีสิทธิ์ถึงแชมป์โลก รวมถึงบรรดาม้ามืดที่พร้อมแปลงร่างเป็นม้าศึกทุกเมื่อ อาทิ เบลเยี่ยม ที่กำลังเข้าสู้ยุคทองด้วยขุนพลอย่าง เอแด็น อาซาร์, คริสติย็อง เบนเตเก้ รวมถึง มารูอาน เฟลไลนี่

 ยังมี ชิลี ที่กล้าๆ บุกไปสอนบอลให้อิงลิชชนถึงสนาม เวมบลีย์ 2-0 เมื่อปีก่อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีมชาติอุรุกวัยที่มีทั้งตัวแสบ หลุยส์ ซัวเรซ, กองหน้าค่าตัวฉูด เอดินสัน กาวานี่ และจอมเก๋า ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ด้วย

7 เรือเล็กได้ออกจากฝั่ง

 ฟุตบอลโลกทุกครั้ง มักมีดาวดวงใหม่ฉายแสงขึ้นแตะขอบฟ้า และโลกก็กำลังเฝ้ารอการถือกำเนิดของพวกเขาเหล่านี้ในปีหน้า

 รอส บาร์คลี่ย์ กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น่าได้รับโอกาสให้แจ้งเกิดในสีเสื้อทีมชาติอังกฤษ ขณะที่ อั๊ดนาน ยานาไซ เจ้าหนูมหัศจรรย์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เลือกไปปรากฏตัวบนเวทีใหญ่ในนามนักเตะทีมชาติเบลเยี่ยมแล้ว นอกจากนี้ มาร์โก แวร์รัตติ แห่ง ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ก็กำลังพยายามก้าวขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทนของ อันเดรีย ปิร์โล่ ในทีมชาติอิตาลี 

8 สนุกให้สุดเหวี่ยงก่อนถึง รัสเซีย และ กาต้าร์

 ในขณะที่ เวิลด์ คัพ หนนี้ เตรียมได้เป็นศึกฟุตบอลโลกที่แจ๋วที่สุด ได้โปรดเชื่อเถิดว่า มันจะเป็นเช่นนั้นอย่างน้อยอีกแปดปีชัวร์ๆ เพราะหนถัดไปที่ รัสเซีย ดินแดนแห่งผู้คนหน้าบึ้งตึง และเหยียดผิวคงไม่มันส์เท่านี้ หรือถัดไปอีกที่ กาต้าร์ ซึ่งด้วยเงื่อนไขเรื่องสภาพอากาศที่ร้อนตับแล่บ และความไม่ได้อารมณ์ ก็ไม่รู้จะออกมาแนวไหน