ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » โยเวติชเบิ้ล!เรือใบดุจริงเปิดรังรัวหงส์ดับ3-1

โยเวติชเบิ้ล!เรือใบดุจริงเปิดรังรัวหงส์ดับ3-1

Posted 26/08/2014 by siamsport

สเตฟาน โยเวติช ฟอร์มเข้าฝัก เมื่อยิงสองประตู ช่วยให้ "แชมป์เก่า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้าน เอาชนะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ไปแบบไม่ยากเย็น 3-1 คว้าสามแต้ม 2 นัดมีหกคะแนน ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่สอง เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา

   

   ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

       วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2557

       แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ลิเวอร์พูล

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

  
         "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก สภาพทีมสมบูรณ์ขึ้น เมื่อได้ ปาโบล ซาบาเลต้า ฟิตกลับมายืนแบ็กขวา ส่วนเซร์คิโอ อเกวโร่ ยังคงนั่งข้างสนามไปก่อน แนวรุกจัด ซามีร์ นาสรี่, ดาบิด ซิลบา, สเตฟาน โยเวติช โดยมี เอดิน เชโก้ ยืนเป็นหน้าเป้า

         ฝั่ง "หงส์แดง" เกมนี้ให้ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ แบ็กซ้ายตัวใหม่ ลงเล่นเป็น 11 คนแรกทันที และลาซาร์ มาร์โควิช ปีกตัวใหม่ก็มีรายชื่ออยู่ในม้านั่งสำรอง ส่วนแนวรุกยังคงเป็น ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, ราฮีม สเตอร์ลิง และแดเนียล สเตอร์ริดจ์ เช่นเดิม

     เปิดฉากครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ เป็นฝ่ายเขี่ยเริ่มเล่นก่อน และครองเกมได้มากกว่า นาทีที่ 7 เอดิน เชโก้ ได้สับไกลหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลเรียดหลุดเสาออกหลังไป

     จากนั้น 2 นาทีให้หลัง ลิเวอร์พูล มีลุ้นบ้าง เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด วางบอลยาวจากกลางสนาม ให้ราฮีม สเตอร์ลิง พักอกในเขตโทษ ก่อนจะหมุนตัวยิงด้วยขวา ไม่ตรงกรอบ

     เกมเริ่มเปิดมากขึ้น นาทีที่ 13 ทัพเรือใบ ขึ้นเกมมาทางซ้าย กาแอล กลิชี่ เปิดจากสุดเส้นหลัง มาเสาสอง ปาโบล ซาบาเลต้า เติมขึ้นมายิงแบบไม่จับด้วยขวา ลูกเหินข้ามคานออกไป

     อึดใจต่อมา นาที 15 ยาย่า ตูเร่ ได้ซัดบริเวณหัวกระโหลก แต่ ซิมง มิโญเล่ต์ ยังพุ่งเซฟเอาไว้ได้

     ผ่านไป 29 นาที เจ้าถิ่นมาโดนใบเหลืองแรก เมื่อ ยาย่า ตูเร่ ไปตัดเกมใส่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

     นาทีที่ 33 หงส์แดง มาได้เสียวบ้าง เมื่อ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ได้จังหวะอัดด้วยซ้ายเต็มๆ ที่เสาแรก แต่โจ ฮาร์ท ยังปิดมุมได้ดี ทุบออกไปได้

     จนถึงนาทีที่ 41 กองเชียร์เจ้าถิ่นก็ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ พยายามจะเตะสกัดบอลทิ้งในเขตโทษ แต่ไม่ได้มองข้างหลัง และเป็น สเตฟาน โยเวติช ที่โฉบมาแย่งบอลได้ ก่อนกดด้วยขวาเต็มๆ บอลลอดขา ซิมง มิโญเล่ต์ ตุงตาข่าย แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0

     ช่วงเวลาที่เหลือ แม้ลิเวอร์พูล จะพยายามทวงประตูคืน แต่ก็ทำอะไรได้ไม่ถนัด จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ออกนำไปก่อน 1-0

        กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้ 4 นาที กองเชียร์หงส์แดงได้เฮเก้อ เมื่อ เกล็น จอห์นสัน ตักบอลจากหน้าเขตโทษด้านขวา ข้ามแนวรับ เรือใบ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ วิ่งมาจับบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดด้วยขวาเข้าไป แต่ไลน์แมน ยกธงล้ำหน้าชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย

        นาทีที่ 53 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เล่นลูกสูตรจากจังหวะฟรีคิก ระยะ 25 หลา ชิพข้ามแผงหลัง เจ้าบ้าน ให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่เจ้าตัวจับบอลไม่ดี จังหวะยิง ปาโบล ซาบาเลต้า เลยตามมาสไลด์บล็อกได้ทัน

        ทีมเยือนที่บุกหวังทวงประตูคืน แต่กลับกลายเป็น แมนฯซิตี้ ที่ขึ้นนำ 2-0 จากจังหวะสวนกลับ ซามีร์ นาสรี่ ทะลุเข้าไปในเขตโทษด้านขวา ก่อนตบเข้ากลาง ให้ สเตฟาน โยเวติช วิ่งมาแปด้วยซ้ายคนเดียวโล่งๆ ตุงตาข่าย ในนาทีที่ 55 พร้อมกับเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้

        ถัดมาอีก 5 นาที แบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ เดอะค็อป แก้เกมด้วยการส่ง ลาซาร์ มาร์โควิช ลงมาล่าสกอร์ แทน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่โชว์ฟอร์มในเกมนี้ไม่ออก

        นาทีที่ 64 หงส์แดง ได้ลุ้นอีกครั้ง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ โชว์เหนือชั้น แตะหลบกองหลัง เรือใบ ในเขตโทษ ก่อนสับด้วยขวาทันที แต่ โจ ฮาร์ท นายทวาร เจ้าถิ่น ซูเปอร์เซฟ ใช้ท่อนแขนขวา ปัดบอลออกข้างไปได้

        คล้อยหลังสองนาที "เรือใบสีฟ้า" ปรับแท็กติกบ้าง ถอด ดาบิด ซิลบา ออกมาพัก แล้วส่ง เฆซุส นาบาส ลงมาเล่นแทน

        นาทีที่ 68 มานูเอล เปเยกรินี่ นายใหญ่ แมนฯซิตี้ เปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ยังไม่ฟิตเต็มร้อย ลงมาเล่นหน้าแทน เอดิน เชโก้

        ถัดมา 1 นาที แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด หนีห่างเป็น 3-0 เมื่อ เฆซุส นาบาส แทงบอลจากริมเส้นกลางสนาม  ให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ตัวสำรองที่เพิ่งถูกส่งลงสนาม วิ่งแซงแผงหลังทีมเยือน ก่อนซัดด้วยขวาในเขตโทษ เสียบเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบขาด

        นาทีที่ 74 แบรนแดน ร็อดเจอร์ส แก้เกมอีกครั้ง ด้วยการส่ง เอ็มเร่ ชาน ลงมาแทน โจ อัลเลน


        ขยับอีกสามนาที เอ็มเร่ ชาน ตัวสำรองของ ลิเวอร์พูล ซึ่งถูกส่งลงมาได้ไม่นาน ไปเข้าปะทะกับ สเตฟาน โยเวติช แล้วออกลูกไม่พอใจ เลยโดน ผู้ตัดสิน แจกใบเหลืองเป็นของสมนาคุณ

        หนึ่งนาทีให้หลัง หงส์ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ส่ง ริคกี้ แลมเบิร์ต ลงมาทวงประตูตีไข่แตก แทน ราฮีม สเตอร์ลิง ที่นัดนี้ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าควร

        จากนั้น 1 นาที เจ้าถิ่น เปลี่ยนบ้าง เอา แฟร์นานดินโญ่ ลงมาแทน สเตฟาน โยเวติช ที่นัดนี้ซัดคนเดียวสองประตู

        นาทีที่ 83 ความพยายามของ หงส์แดง ก็ประสบความสำเร็จ เมื่อ ริคกี้ แลมเบิร์ต อดีตหัวหอก นักบุญ ได้สับในเขตโทษจ่อๆ ไปติดเซฟ โจ ฮาร์ท แต่ ปาโบล ซาบาเลต้า ที่ปรี่เข้ามาจะสกัด บอลกลับไปโดนเข่า กระเด้งเข้าประตูไป ลิเวอร์พูลไล่มาเป็น 1-3

        เขยิบมาอีกสามนาที เกล็น จอห์นสัน แข้ง อาคันตุกะ มีอาการบาดเจ็บ เล่นต่อไม่ไหว ทำให้ "หงส์" จำต้องเล่น 10 คน เพราะเปลี่ยนตัวครบ 3 คนแล้ว

        ห้วงเวลาที่เหลือ ยังเป็น เจ้าบ้าน ที่ครองเกมได้มากกว่า แถมมีโอกาสได้เพิ่ม แต่ก็บวกสกอร์ไม่ได้ จบเกม แมนฯซิตี้ เปิดบ้าน รัว ลิเวอร์พูล ไปแบบหายห่วง 3-1 สองนัดเก็บหกแต้มเต็ม


         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท : ปาโบล ซาบาเลต้า, มาร์ติน เดมิเคลิส, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, กาแอล กลิชี่ : แฟร์นานโด, ยาย่า ตูเร่ : ซามีร์ นาสรี่, ดาบิด ซิลบา, สเตฟาน โยเวติช : เอดิน เชโก้ 
         สำรอง : วิลลี่ กาบาเยโร่, บาการี่ ซาญ่า, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, แฟร์นานดินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์, เฆซุส นาบาส, เซร์คิโอ อเกวโร่

         ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์, เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ : สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน :  ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, ราฮีม สเตอร์ลิง, แดเนียล สเตอร์ริดจ์
         สำรอง : แบรด โจนส์, ฆาเบียร์ มานกีโย่, มามาดู ซาโก้, โคโล ตูเร่, เอ็มเร่ ชาน, ลาซาร์ มาร์โควิช, ริคกี้ แลมเบิร์ต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • มาร์โควิชกระสันพิสูจน์ฝีเท้าในอังกฤษ
    ลาซาร์ มาร์โควิช ปีก ลิเวอร์พูล เผยแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้พิสูจน์ฝีเท้าในอังกฤษ หลังเพิ่งย้ายมาร่วมถิ่นแอนฟิลด์ในซัมเมอร์นี้ บอกต้องการได้รับการจดจำในฐานะยอดแข้งของพรีเมียร์ลีก ขณะที่จ่อประเดิมสนามให้ "หงส์แดง" ในเกมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คืนวันจันทร์นี้
  • เจิดมั่นใจราฮีมจะโชว์ฟอร์มเก่งกับสิงโต
    สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม ลิเวอร์พูล มั่นใจ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกดาวรุ่ง จะโชว์ฟอร์มเก่งกับทีมชาติอังกฤษ และมีสิทธิ์ติดธงถึงหลัก 100 นัด หลังสตาร์วัย 19 ปีทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกับ "หงส์แดง" มาตลอด
  • ร็อดเจอร์สเชื่อ บาโลเตลลีจะยิ่งทำให้สเตอร์ริดจ์แข็งแกร่งกว่าเก่า
    กุนซือหงส์แดงมั่นใจว่า กองหน้าตัวเก่งของเขาจะอ้าแขนรับเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ผู้มาพร้อมกับการต่อสู้แย่งตำแหน่งในแดนหน้าที่เข้มข้นกว่าเดิม
  • หงส์ยังสนคว้าฟัลเกาแม้จ่อซิวบาโล
    ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวยังสนคว้า ราดาเมล ฟัลเกา ดาวยิง อาแอส โมนาโก เสริมทัพ แม้จ่อซิว มาริโอ บาโลเตลลี่ แล้วก็ตาม หลังการเซ็นสัญญากับ ซามูเอล เอโต้ หัวหอกตัวเก๋า ส่อแววล้มเหลว เนื่องจากนักเตะเรียกค่าเหนื่อยสูงเกินไป

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »