แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์จอมเก๋า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลังซัดประตูตีเสมอให้ "เรือใบสีฟ้า" ในเกมเสมอ เชลซี 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รับตนเป็นนักเตะอาชีพ และต้องทำตัวให้เป็นมืออาชีพที่สุด พร้อมระบุในใจว้าวุ่นอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องยิงประตูสโมสรอันเป็นที่รัก

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางประสบการณ์สูงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าพูดไม่ออกหลังซัดประตูแรกให้กับตัวเองในฐานะผู้เล่น "เรือใบสีฟ้า" เกมเสมอ เชลซี 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา

หลังจากที่ค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เกือบ 13 ปี "แลมพ์ส" ตัดสินใจโบกมือลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ และได้ตกลงย้ายไปเล่นกับ นิวยอร์ค ซิตี้ เอฟซี ทีมในเอ็มแอลเอส สหรัฐฯ แต่ถูกส่งมาเล่นแบบยืมตัวกับ แมนฯ ซิตี้ จนถึงเดือนมกราคมนี้

ในแมตช์ล่าสุด แลมพาร์ด ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองช่วงท้ายเกม และยิงประตูให้ แมนฯ ซิตี้ ตีเสมอ "สิงห์บลูส์" ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย ส่งผลให้จบเกมทั้งสองทีมแบ่งแต้มกันไปอย่างสุดมัน โดย ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ" เผยว่า "มันเป็นเรื่องที่ยากลำบากจริงๆ ผมคงไม่เป็นมืออาชีพถ้าผมไม่ยอมลงเล่น และทำงานของผม"

"ผมพยายามที่จะเข้าไปในกรอบเขตโทษ มันเป็นการส่งบอลที่ยอดเยี่ยมจาก มิลลี่ (เจมส์ มิลเนอร์) ผมมี 13 ปีที่น่าเหลือเชื่อกับแฟนบอล เชลซี ดังนั้นผมรู้สึกสับสนอลหม่านอยู่ในใจกับเรื่องนี้ แน่นอนว่าผมดีใจจริงๆ กับทีมที่ผมได้ลงเล่นและยิงประตูตีเสมอ ดังนั้นมันเป็นเรื่องยากที่จะตอบได้"

"ผมพูดอะไรไม่ออกเลย ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ลงเล่น และยิงประตูแบบนี้ ผมลงสนาม และแฟนบอลเชลซีก็ร้องเพลง นั่นมันทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้ง ผมไม่รู้ว่าผมอยากทำอะไรในวันนี้ มันเป็นเรื่องยากลำบากจริงๆ ผมคงมีความสุขพอประมาณ แน่นอนฤดูกาลยังอีกยาวไกล มีมากกว่า 2 ทีมที่พยายามสู้เพื่อลุ้นแชมป์ มันทำให้พรีเมียร์ลีก น่าสนใจจริงๆ" แลมพาร์ด ระบุ