ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » แลมพ์สยิงทีมเก่า!เรือ10ตัวเจ๊าสิงห์ดราม่า1-1

แลมพ์สยิงทีมเก่า!เรือ10ตัวเจ๊าสิงห์ดราม่า1-1

Posted 22/09/2014 by siamsport

 

ยังกับบทในละคร! เมื่อ แฟรงค์ แลมพาร์ด ยิงประตูต้นสังกัดเก่า ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเสมอ เชลซี แบบระทึก 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน โดย "สิงห์บลูส์" ยังคงรั้งจ่าฝูงต่อไป 5 นัดมี 13 คะแนน ส่วน "เรือใบสีฟ้า" เก็บเพิ่มเป็น 8 แต้ม ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2014 วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา

 

 

 

 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2014

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2557

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 เชลซี

 

        สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

 

        เรือใบสีฟ้า จัด ดาบิด ซิลบา, เอดิน เชโก้ และเซร์คิโอ อเกวโร่ ลงป่วนในแดนหน้า เพื่อหวังหยุดสถิติไร้พ่าย ของ "สิงห์บลูส์" ที่นำทัพโดย เชส ฟาเบรกาส, เอแด็น อาซาร์ และดีเอโก้ คอสต้า

 

      นาที 12 แฟร์นันดินโญ่ มิดฟิลด์แมนฯ ซิตี้ ได้รับใบเหลืองแรกของเกม จากการตัดฟาวล์ ดีเอโก้ คอสต้า หัวหอกตัวเก่งของเชลซี

     เกมผ่าน 20 นาที เป็นเจ้าถิ่น "เรือใบ" ที่ได้เปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือน "สิงห์บลูส์" มากกว่า แต่จังหวะจบสุดท้ายยังมีไม่มากนัก

     จากนั้นนาที 30 แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสลุ้นทำประตู จากจังหวะสกัดไม่ขาดของแนวรับเชลซี บอลไปเข้าทางปืน เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้วอลเล่ย์เต็มข้อ ในเขตโทษด้านซ้าย แต่ลูกยิงยังไม่เข้ากรอบ

      นาที 31 ปาโบล ซาบาเลต้า แนวรับเรือใบ ได้รับใบเหลือง

      นาที 34 รามิเรส กองกลางเชิงรับของเชลซี โดนใบเหลือง

      นาที 39 เนมานย่า มาติช แดนกลางสิงห์ ได้รับใบเหลือง

      ดาบิด ซิลบา แนวรุกตัวจี๊ดเรือใบ ได้รับใบเหลือง

      นาที 43 ยาย่า ตูเร่ กองกลางตัวเก่งแมนฯ ซิตี้ ได้รับใบเหลืองที่ 6 ของเกม จากจังหวะทำฟาวล์ใส่ วิลเลี่ยน

     ช่วงเวลาที่เหลือ แม้เจ้าถิ่น "แมนฯ ซิตี้" จะพยายามเดินเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของ "เชลซี" ได้ ทำให้จบครึ่งแรก เรือใบ เปิดบ้านเสมอ สิงห์บลูส์ 0-0

        กลับมาเล่นได้ 12 นาที เรือใบ ได้เสียวสุดๆ จากจังหวะที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ เลื้อยหลบแนวรับ เชลซี ก่อนยิงหักข้อด้วยซ้ายในเขตโทษ หวังเสียบเสาแรก แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ โชว์ซูเปอร์เซฟ ล้มตัวปัดไว้ได้ ยังไม่พ้นอันตราย เมื่อ เอดิน เชโก้ ปรี่มาซ้ำจ่อๆ แต่ รามิเรส ไวกว่า เคลียร์ทิ้งไปได้ก่อน

        นาทีที่ 63 โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ สิงห์บลูส์ แก้เกม ด้วยการเปลี่ยนตัวสองคนรวด ส่ง อันเดร เชือร์เล่ กับ จอห์น โอบี มิเคล ลงมาเล่นแทน รามิเรส กับ วิลเลี่ยน

         สถานการณ์กำลังได้เปรียบ เจ้าถิ่น กลับต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน ในนาทีที่ 67 เมื่อ ปาโบล ซาบาเลต้า ไปเตะจากด้านหลังใส่ ดีเอโก้ คอสต้า แล้วกองหน้า ทีมเยือน ไม่พอใจ ลุกขึ้นมาเอาเรื่อง ก่อนจะกระทบกระทั่งพอสมควร ผู้ตัดสินไมค์ ดีน เลยควักใบเหลืองแดง ให้ ซาบาเลต้า พร้อมกับแจกใบเหลือง คอสต้า ด้วย

        คล้อยหลังสามนาที มานูเอล เปเยกรินี่ ปรับแท็กติก เนื่องจากตัวผู้เล่นน้อยกว่า ด้วยการถอด เอดิน เชโก้ ออก แล้วส่ง บาการี่ ซาญ่า ลงมาขันแนวรับให้แน่น

        นาทีที่ 71 เชลซี ที่ได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่น ก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้ เมื่อ ผู้เล่นเจ้าบ้าน พลาดเสียบอล กลางสนาม บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จ่ายบอลให้ ดีเอโก้ คอสต้า ก่อนเจ้าตัวทะแทงออกขวาให้ เอแด็น อาซาร์ เปิดจากริมเส้นด้านขวา ก่อนเป็น อันเดร เชือร์เล่ วิ่งมาเข้าฮอสจ่อๆ เข้าไปง่ายๆ

        ขยับมาอีกสองนาที แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนอีก ส่ง เฆซุส นาบาส ลงมาแทน แฟร์นันดินโญ่

        นาทีที่ 76 บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลัง เชลซี โดน ไมค์ ดีน ควักใบเหลือง เป็นของสมนาคุณอีกคน เนื่องจาก ดึงเสื้อ ยาย่า ตูเร่ ในจังหวะเข้าแย่งบอลกันแบบน่าเกลียด

        เขยิบมาอีก 2 นาที มานูเอล เปเยกรินี่ เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ถอด อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ออกมาพัก แล้วส่ง แฟรงค์ แลมพาร์ด ลงมาเล่นแทน ท่ามกลางเสียงปรบมือจากกองเชียร์ เชลซี

        นาทีที่ 81 สิงห์บลูส์ เกือบได้ประตูที่สอง เมื่อ ดีเอโก้ คอสต้า ได้ซัดดด้วยซ้ายในเขตโทษ โจ ฮาร์ท นายทวาร เรือใบ ได้แต่ยืนมอง แต่บอลพุ่งชนเสาเต็มๆ ชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย

        แมนฯ ซิตี้ ที่ตัวผู้เล่นน้อยกว่า กลับตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 85 เมื่อ ดาบิด ซิลบา ตักบอลจากกลางสนามให้ เจมส์ มิลเนอร์ ในเขตโทษ ก่อนเจ้าตัวจะตบเข้ากลางให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ตัวสำรอง วิ่งมาแปด้วยขวาตุงตาข่าย โดย แลมพ์ส ไม่แสดงอาการดีใจที่ทำประตูได้ เพราะเป็นทีมเก่าของตนเอง

        ถัดมา 1 นาที โชเซ่ มูรินโญ่ แก้เกม อีกครั้ง ส่ง ดิดิเยร์ ดร็อกบา ลงมาแทน ดีเอโก้ คอสต้า

        ห้วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกรับ หวังเป็นฝ่ายคว้าชัย แต่ก้ไม่มีทีมใดบวกสกอร์ได้ จบเกม เชลซี บุกเจ๊า แมนฯ ซิตี้ สุดมันส์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม โดย สิงห์บลูส์ ยังรั้งจ่าฝูงต่อไป 5 นัดมี 13 คะแนน ส่วน เรือใบ เก็บเพิ่มเป็น 8 แต้ม

 

        ผู้เล่นที่ลงสนาม

 

        แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, เอเลียควิม มานกาล่า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ยาย่า ตูเร่, แฟร์นันดินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา, เอดิน เชโก้, เซร์คิโอ อเกวโร่

        สำรอง : วิลลี่ กาบาเยโร่, มาร์ติน เดมิเคลิส, กาแอล กลิชี่, บาการี่ ซาญ่า, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ซามีร์ นาสรี่, เฆซุส นาบาส

        ผู้จัดการทีม : มานูเอล เปเยกรินี่

 

        เชลซี : ติโบต์ กูร์กตัวส์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เนมานย่า มาติช, รามิเรส, เชส ฟาเบรกาส, วิลเลี่ยน, เอแด็น อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า

        สำรอง : ปีเตอร์ เช็ก, ฟิลิเป้ หลุยส์, จอห์น โอบี มิเคล, อันเดร เชือร์เล่, ออสการ์, โลอิก เรมี่, ดิดิเยร์ ดร็อกบา

        ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่

 

        ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ซันระบุเชสก์ไม่ได้คุยเวนเกอร์ตั้งแต่เข้าถ้ำสิงห์
    สื่อจอมขุดคุ้ยเบอร์หนึ่งของอังกฤษรายงานว่า มิดฟิลด์ชาวสแปนิชยังไม่ได้พูดคุยกับอดีตเจ้านายสุดที่รักเลยนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับสิงห์บลู
  • ฮาร์ทเผยไม่แน่ใจอนาคตค้าแข้งกับเรือใบ
    โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เผยไม่แน่ใจเรื่องอนาคตค้าแข้งตัวเองกับต้นสังกัด หลังยังไม่ได้รับสัญญาฉบับใหม่ พร้อมยันไม่มีปัญหาเรื่องการแย่งตัวจริงกับ วิลลี่ กาบายาโร่ เนื่องจากในทีมจำเป็นต้องมีนักเตะอย่างน้อย 2 คนในทุกตำแหน่ง
  • เฮียมูเชื่อแลมพ์สก้าวเป็นกุนซือสิงห์บลูส์แน่
    โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ "เดอะ แฮปปี้วัน" เชลซี เชื่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางสัญญาเช่า แมนฯ ซิตี้ จะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนายใหญ่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ในอนาคต แถมแย้ม "เสี่ยหมี" รอเวลาเปิดไฟเขียวสว่างโร่หนุน "แลมพ์ส" เอาไว้แล้ว
  • สิงห์ขอเฮรวด!คอสต้าพร้อมลง,เรือเน้น!กุนอันตราย
    "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี จ่าฝูงเตรียมส่ง ดีเอโก้ คอสต้า ที่ฟิตสมบูรณ์ลงล่าตาข่ายหวังเก็บชัยติดต่อกันทุกนัดในลีก เกมบุกเยือนถิ่น "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีทีเด็ดคือ เซร์คิโอ อเกวโร่ ศูนย์หน้าตัวอันตราย ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ย. ศกนี้

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »