ขุนพลช้างศึกเดินหน้าสร้างประวัติศาตร์หน้าไม่ต่อไปหลังไล่อัดเอาชนะจอร์แดน อย่างยอดเยี่ยม 2-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เป็นผลสำเร็จชนิดที่ยังไม่เสียประตูให้ทีมไหนโดยรอ พบเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น พร้อมรับอัดฉีดไปแล้ว 12,900,000 บาท

การแข่งขันฟุตบอลชายเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 "อินชอน เกมส์" ที่ประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 28 กันยายนเป็นการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมชาติไทย ลงสนามพบ จอร์แดน ที่สนาม อินชอน ฟุตบอล สเตเดี้ยม

 สถิติที่พบกันของทั้ง 2 ทีมนี้ เจอกันมา 6 ครั้ง เริ่มจาก วันที่ 8 ก.ค. 2004 ไทย เสมอ จอร์แดน 0-0 (อุ่นเครื่อง), วันที่ 8 ต.ค. 2004 ไทย แพ้ จอร์แดน 3-2 (อุ่นเครื่อง), วันที่ 1 ก.พ. 2006 ไทย เสมอ จอร์แดน 0-0 (อุ่นเครื่อง), วันที่ 14 ม.ค. 2009 จอร์แดน เสมอ ไทย 0-0 (เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก)

วันที่ 6 ม.ค. 2010 ไทย เสมอ จอร์แดน 0-0 (เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก) และล่าสุดเกือบ 3 ปีที่แล้ว วันที่ 6 ต.ค. 2011 ไทย เสมอ จอร์แดน 0-0 (อุ่นเครื่อง) ทำให้บทสรุปผลงานที่พบกันมา ทั้งหมด 6 ครั้ง ไทย เสมอ 5 แพ้ 1 ได้ 2 และเสีย 3 ลูกด้วยกัน

 ขณะที่ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ทั้งหมด 16 ครั้ง ทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ยังไม่เคยพบกับจอร์แดนแม้แต่ครั้งเดียว รวมทั้งยังเป็นครั้งแรกในระดับผู้เล่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ทั้ง 2 ทีมจะพบกันอีกด้วย

 สำหรับผู้เล่น 11 คนแรกของไทย(ใส่ชุดสีน้ำเงินที่ถือว่าทำผลงานได้ดีใน 4 เกมที่ผ่านมา) คงใช้ระบบ 4-3-3 มี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา แบ็กซ้ายเป็น พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ฝั่งขวาใช้ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เซนเตอร์ฮาล์ฟเป็นการจับคู่กันของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ อดิศร พรหมรักษ์

 แผงกองกลางใช้ สารัช อยู่เย็น ทำเกมร่วมกับ ชาริล ชัปปุยส์ มี "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นมิดฟิลด์ตัวรุก ส่วนแดนหน้าให้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ อยู่ทางซ้าย นูรูล ศรียานเก็ม อยู่ฝั่งขวาอดิศักดิ์ ไกรษร ที่ยิงไปแล้ว 5 ประตูในอินชอนเกมส์ เป็นหัวหอกตัวเป้า

 ครึ่งแรกเริ่มเกมโอมานได้เขี่ยเริ่มเกมและบุกโจมตีทางแบ๊กขวาไทย ยูเฟซได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบโทษแล้วซัดยัดเสาแรกแต่กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ พุ่งออกมาบล็อกออกหลังได้ทัน

จากจังหวะเตะมุมซูไลมาน ราย่าได้โหม่งที่เสาไกลแต่กวินทร์ยังผวาไปทุบออกหลังได้ทัน

นาทีที่ 3 ไทยตอบโต้บ้างชาริล ชัปปุยส์ ได้จังหวัซัดด้วยขวาราว 25 หลาแต่บอลพุ่งข้ามคานออกหลังไป

นาที 16 ไทยขึ้นเกมไปทางฝั่งขวา นูรูล ศรียานเก็ม พาบอลไปจนถึงกรอบโทษแล้วซัดยัดไปเสาแรกผู้รักษาประตูจอร์แดนล้มตัวปัดบอลไป ชนเสากระดอนออกมา

 นาที 20 ไทยได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เปิดบอลเข้าไปในกรอบบอลเลยไปถึง อดิศักดิ์ ไกรษร ได้โหม่งโล่งๆแต่กลับเช็ดบางบอลเลยหลุดกรอบออกหลังอย่างน่าเสียดาย

 นาที 33 ไทยได้ลุ้นอีกจากการขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายชนาธิป สรงกระสินธ์ แทงบอลทะลุช่องให้ เกริกฤทธิ์ หลุดเข้าไปซัดในกรอบโทษแต่ประตูจอร์แดนปิดมุมดัเลยรับเข้าซอง หนึบ

   นาที 37 ไทยออกนำ 1-0 จากจังหวะต่อบอลจังหวะเดียวอย่างสวยงามชาริล ชัปปุยส์ ได้บอลทางขวาไหลเข้ากลางให้เกริกฤทธิ์แตะต่อเข้ากรอบโทษให้อดิศักดิ์ ไกรษร ป้ายออกซ้ายให้ ชนาธิป แต่งหาจังหวะซัดตรงกรอบโทษฝั่งซ้ายบอลย้อนเสียบเสาไกลตุงตาข่ายอย่างเฉียบ ขาด

 จากนั้นจอร์แดนโหมบุกมาขึ้นทำให้ทีมไทยหันไปเน้นรับรัดกุมแล้วรอ จังหวะสวนกลับแต่ต่างทำเกมรุกได้ไม่ต่อเนื่องไปเสียบอลหน้าประตูคู่แข่งหมด ทำให้หมดครึ่งแรกไทยนำอยู่ 1-0

 ครึ่งหลังจอร์แดนลงมาเปิดเกมบุกใส่อย่างต่อเนื่องโดยทีมไทยลงไปรับ ลึกแล้วรอโต้กลับเร็วแต่ยังไม่จังหวะเข้าทำประตูที่ชัดเจนมากนัก

  นาที 55 ไทยเปลี่ยนเอา ปกเกล้า อนันต์ลงมาแทนชาริล ชัปปุยส์

  นาที 57 ไทยเปลี่ยนเอา ภิญโญ อินพินิจ ลงแทนนูรูล

 นาที 61 ไทยมาได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกราว 25 ซัดไปติดกำแพงแล้วบอลไปเข้าทางภิญโญ อินพินิจ ได้ซัดในกรอบแต่โดนกองหลังจอร์แดนบีบเร็วเลยรีบยิงซัดใต้บอลโด่งข้ามคานไป อย่างน่าเสียดาย

  นาที 71 หลังโดนบุกอยู่นานแข้งช้างศึกกลับเป็นฝ่ายขยับหนี 2-0 จากจังหวะที่เกริกฤทธิ์ หลุดเข้าไปซัดในกรอบฝั่งซ้ายบอลติดบล็อคกระดอนออกมา ชนาธิป เก็บตกแล้วหาจังหวะซัดเน้นๆก็ยังติดกองหลังจอร์แดนไปเข้าทางเกริกฤทธิ์ ซัด ด้วยขวาอีกครั้งก็ยังไปติดกองหลังจอร์แดนมาเข้าทางเกริกฤทธิ์ ซ้ำด้วยซ้าย เน้นๆแบบไม่ต้องจับบอลพุ่งเสียบเสาไกลอย่างเฉียบขาด

 จากนั้นเป็นจอร์แดนที่พยายามโหมเปิดเกมบุกเข้าใส่แต่ทำอะไรทีม ไทยไม่ได้ไปเสียบอลที่หน้าประตูไทยหมดแถมโค้ชจอร์แดนโวยวายเกินเหตุเลยโดน เชิญขึ้นไปบนอัฒจรรย์จนจบเกมไทยเอาชนะจอร์แดน 2-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จชนิดที่ยังไม่เสียประตูให้ทีมไหนโดยรอพบ เกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น

 นอกจากนี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีม ยังทำสถิติในการเป็นนักเตะและโค้ช ที่พาทีมฟุตบอลชาย ทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศมากที่สุดถึง 3 จาก 4 ครั้งในประวัติศาสตร์

 ทั้งนี้ทีมฟุตบอลชายไทยรับเงินอัดฉีดจาก "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จากการชนะและยิง 2 ประตู รับไป 1,600,000 บาท เมื่อรวมกับยอดเงินรอบแรกและรอบ 1 ทีมสุดท้ายที่ทำไว้ 1,300,000 บาท รวมถึงสมาคมฟุตบอลยังมอบพิเศษในการผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศอีก 5,000,000 บาท รวมเป็นเงิน 7,900,000 บาท

รวมทั้งยังรับเงินอัดฉีดก้อนแรกจาก คุณวิลักษณ์ โหลทอง ประธานบ.โหลทอง โฮลดิ้ง จำกัด ในการอัดฉีดเบื้องต้น 5 ล้านบาท หลังจากเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ และรวมกับของ "บังยี" ทำให้ทีมฟุตบอลชาย ทีมชาติไทย รับเงินโบนัสไปแล้วถึง 12,900,000 บาท

และจากผลสกอร์ 2-0 ในเกมนี้ ทำให้ทีมฟุตบอลชาย ทีมชาติไทยสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาทุบประวัติศาสตร์ลูกหนังไทยอีกครั้ง ด้วยการไม่เสียประตูให้กับทีมใด และชนะติดต่อกันถึง 5 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่มากที่สุดของการมาเล่น เอเชียนเกมส์ ตลอด 52 ปี ที่เดินทางมาแข่งขันในรายการนี้ ตั้งแต่ปี 1962 ที่ประเทศอินโดนีเซีย

รวมทั้งยังสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการกระทุ้งไป 15 ประตู ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งถือเป็นประตูได้ที่เยอะที่สุดในการเดินทางมาเล่นใน เอเชียนเกมส์ ตลอด 52 ปี ด้วย