หนึ่งในข่าวใหญ่ของวงการลูกหนังเมื่อวันอังคารที่ 16 ธ.ค. 57 ที่ผ่านมาคือ เธียร์รี่ อองรี ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการบนวัย 37 ปี เตรียมผันตัวไปทำงานทีวีให้สถานีสกายสปอร์ตส์

ตลอดชีวิตนักเตะ อองรี ถล่มตาข่ายอย่างเมามัน

  โมนาโก 28 ประตู, ยูเวนตุส 3 ประตู, อาร์เซน่อล 228 ประตู, บาร์เซโลน่า 49 ประตู และ นิวยอร์ก เร้ด บูลล์ส ต้นสังกัดล่าสุด 52 ประตู

 ผลงานที่สุดยอดที่สุด เกิดขึ้นตอนดาวเตะชาวฝรั่งเศสเล่นให้ อาร์เซน่อล จนทำให้ อองรี ได้รับการเชิดชูว่า เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในยุคพรีเมียร์ลีก

 เขายิงถึง 228 ประตูจาก 377 เกม จนกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร

 อองรี ยังพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสองครั้ง คือฤดูกาล 2001/02 และ 2003/04

 อาร์เซน่อล ภายใต้การนำของเขา คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้สามสมัย และ คอมมิวนิตี้ ชีลด์ อีกสองครั้ง

ส่วนตัวของ อองรี ได้รับเลือกให้เป็นดาวซัลโวรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกสี่ครั้ง

แน่นอนว่า พรีเมียร์ลีกไม่มีวันลืมเขา กับผลงานที่ฝากไว้ 258 เกม, ชนะ 157 นัด, ยิงประตู 175 ลูก, แอสซิสต์ 74 และเปอร์เซนต์ชนะของทีมยามที่มี อองรี สูงถึง 61%

ขณะที่ผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ของเขา ลงเล่น 112 , ชนะ 54, ยิง 50, แอสซิสต์ 15 และเปอร์เซนต์ชนะ 48%
 กับทีมชาติ ถือเป็นความสำเร็จสุดยอด เมื่อเขาคว้าทั้งแชมป์โลกปี 1998 และ ยูโร 2000 โดยสถิติรวมลง 123 นัด ยิงได้ 51 ประตู

นี่คือหนึ่งในยอดนักเตะแห่งโลกลูกหนังยุคโมเดิร์นตัวจริง