"ทัพช้างศึก" ทีมชาติไทย พร้อมจัดทัพใหญ่เน้นรับรัดกุมวาง 3 ประสานขับเคลื่อนเกมรุกแดนกลางทั้ง สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์ และ ''เมสซี่เจ'' ชนาธิป สรงกระสินธ์ แดนหน้ามี เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, มงคล ทศไกร และ อดิศักดิ์ ไกรษร เป็นตัวทีเด็ดในการจบสกอร์ ด้าน ดอลลาห์ ซาเลห์ กุนซือใหญ่ทีมชาติมาเลเซีย กระตุ้นลูกทีมสู้ 200 เปอร์เซ็นต์ ที่จะหยุดทีมชาติไทยให้ได้ มั่นใจเสียงเชียร์อุลตร้ามลายาแสนคนจะสยบทัพ ''ช้างศึก'' ได้แน่

        ศึกลูกหนัง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 เดินหน้าถึงรอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทัพ ''ช้างศึก'' ทีมชาติ ไทย ต้องเดินทางบุกแดน ''เสือเหลือง'' มาเลเซีย อีกคำรบ หลังจากนัดแรกไทยเอาชนะมาก่อน 2-0 โดยเกมนัดสองจะแข่งขันวันที่ 20 ธ.ค. นี้ ที่สนามบูกิต จาลิล ประเทศมาเลเซีย  

          วันเสาร์ที่ 20 ธ.ค. 57 เวลา 19.00 น.
 
          สนาม : บูกิต จาลิล

            ถ่ายทอดสดทาง : ช่อง 7 สี, True Sport HD, มาเลเซีย TV1, TV3, TV9, Astro Arena

            สถิติเจอกัน 7 ครั้งหลังสุดของทั้งสองทีม

            10/12/2008      ซูซูกิ คัพ  ไทย ชนะ มาเลเซีย 3:0
            04/12/2010      ซูซูกิ คัพ ไทย เสมอ มาเลเซีย 0:0 
            07/11/2012      อุ่นเครื่อง ไทย ชนะ มาเลเซีย 2:0
            09/12/2012      ซูซูกิ คัพ มาเลเซีย เสมอ ไทย 1:1 (รอบรองฯ นัด 1)
            13/12/2012      ซูซูกิ คัพ ไทย ชนะ  มาเลเซีย 2:0 (รอบรองฯ นัด 2) 
            26/11/2014      ซูซูกิ คัพ ไทย ชนะ มาเลเซีย 3-2 (รอบแรก)
            17/12/2014      ซูซูกิ คัพ ไทย ชนะ มาเลเซีย 2-0 (รอบชิงชนะเลิศ 1)

            สถิติการเจอกันในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน

            1996 รอบแรก                    ไทย เสมอ  มาเลเซีย  1-1   สิงคโปร์
            1996 รอบชิงฯ                     ไทย ชนะ มาเลเซีย   1-0   สิงคโปร์
            2000 รอบรองฯ                    ไทย ชนะ  มาเลเซีย  2-0    กรุงเทพฯ
            2002 รอบแรก                     มาเลเซีย ชนะ  ไทย  3-1    สิงคโปร์
            2004 รอบแรก                     มาเลเซีย  ชนะ ไทย  2-1    กัวลาลัมเปอร์
            2007 รอบแรก                     ไทย  ชนะ  มาเลเซีย 1-0     กรุงเทพฯ
            2008 รอบแรก                     ไทย  ชนะ มาเลเซีย  3-0     ภูเก็ต
            2010 รอบแรก                     ไทย  เสมอ  มาเลเซีย  0-0   จาการ์ตา
            2012 รอบรองฯ นัดแรก         มาเลเซีย เสมอ ไทย 1-1       กัวลาลัมเปอร์
            2012 รอบรองฯ นัดสอง         ไทย  ชนะ  มาเลเซีย  2-0    กรุงเทพฯ
            2014 รอบแรก                 ไทย ชนะ มาเลเซีย 3-2 สิงคโปร์
            2014 รอบชิงฯ1                ไทย ชนะ มาเลเซีย 2-0  กรุงเทพฯ

            สรุปพบกันในอาเซียน คัพ 12 ครั้ง ไทย ชนะ 7, แพ้ 2, เสมอ 3 ครั้ง ยิงได้ 17 เสีย 9 ประตู

            ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

            มาเลเซีย                                 -                          ไทย
            นัด 1 แพ้ ไทย 0-2 (ซูซูกิ คัพ)                   นัด 1  ชนะ มาเลเซีย 2-0 (ซูซูกิ คัพ)

            นัด 2 ชนะ เวียดนาม 4-2 (ซูซูกิ คัพ)           นัด 2 ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 (ซูซูกิ คัพ)

            นัด 3 แพ้ เวียดนาม 1-2 (ซูซูกิ คัพ)            นัด 3 เสมอ ฟิลิปปินส์ 0-0 (ซูซูกิ คัพ)

            นัด 4 ชนะ สิงคโปร์ 3-1 (ซูซูกิ คัพ)            นัด 4 ชนะ เมียนมาร์ 2-0 (ซูซูกิ คัพ)

            นัด 5 แพ้ ไทย 2-3 (ซูซูกิ คัพ)                       นัด 5 ชนะ มาเลเซีย 3-2 (ซูซูกิ คัพ)

 
            ทรรศนะ : เกมนี้คาดว่าไทยจะมีการสับเปลี่ยน นักเตะบางตำแหน่งเท่านั้น นายทวารยังวางใจให้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา ส่วนฝั่งแบ็กซ้ายใช้ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ส่วนเซนเตอร์ฮาล์ฟยังมี ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ยืนปราการหลังตัวสุดท้ายกับ สุทธินันท์ พุกหอม ฝั่งแบ็กขวา นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ยึดตำแหน่งถนัดอีกครั้ง ขณะที่กองกลาง 3 ประสานอย่าง ชาริล ชัปปุยส์, สารัช อยู่เย็น และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ขับเคลื่อนเกมรุก โดยมี เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ทำเกมทางฝั่งซ้าย ส่วนด้านขวาให้ มงคล ทศไกร เติมเกมรุก ขณะที่หน้าเป้า อดิศักดิ์ ไกรษร จะได้ลงเล่นเป็นเกมแรก 

            ด้าน ''เสือเหลือง'' มาเลเซีย มาฟูลทีมเช่นเดิม ไม่มีนักเตะติดโทษแบน แนวรับ แกรี่ สตีเว่น ร็อบบาท แบ็กขวาดาวรุ่งเป็นกำลังสำคัญในแนวรับ อีกทั้งยังมี มาฮารี่ จูฮารี่ ยืนคู่กับ อฟิฟ มามารุดดิน ส่วนแดนกลาง ซาฟิค ราฮิม ดาวซัลโวรายการนี้ยิงไปแล้ว 4 ประตูขับเคลื่อนเกมรุกร่วมกับ อัมรี ยาห์ย่าห์ ขณะที่แนวรุกวางจอมเก๋า ฮิดลาน ตาลาฮา กับ ซาฟี่ ลาฟี เป็นทีเด็ดในการจบสกอร์แน่นอน

            ทีมชาติไทยตุนสกอร์ในนัดแรกไปแล้ว 2-0 ค่อนข้างจะอุ่นใจ ในการเล่นนัดสองไม่เครียดเท่าใดนัก ขอแค่เสมอด้วยสกอร์ใดก็ได้ทั้งนั้นจะเป็นแชมป์ทันที ความกดดันทั้งหมดจะไหลบ่าไปที่มาเลเซีย เนื่องจากต้องยิงประตูแรกให้ไวอย่างน้อยจบ 90 นาทีต้องมี 2-0 เพื่อลุ้นต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ ขณะเดียวกันถ้าพลาดเสียประตูในบ้านจะเสียเปรียบทันทีด้วยกฎอะเวย์โกล  

            เกมนี้ มาเลเซีย จะไม่เป็นฝ่ายมารับแน่ โดยจะมาบุกใส่เพื่อเอาประตูแรกให้ไวที่สุด ซึ่งนั่นเท่ากับว่าจะเข้าทางทีมชาติไทยทันที คาดว่าจะให้ลูกทีมมารับแน่นแล้วหาโอกาสสวนไวเล่นงาน โดยใช้ความเร็วของ ''เมสซี่เจ'' เป็นตัวทะลุทะลวง รวมถึงการจ่ายบอลแบบ ''คิลเลอร์พาส'' ของ ประกิต ดีพร้อม เป็นตัวทำลายแนวรับของเจ้าถิ่น อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพของไทยที่ข่มมาเลเซียอยู่ชัดเจน เคยเอาชนะมาทั้ง 2 นัดในรอบแรกและนัดชิงที่บ้านเรา โอกาสเก็บชัยชนะอีกครั้งมีสูง อยู่ที่เกมจะเปิดแลกกันหรือไม่ ถ้าแลกหมัดคาดว่าสกอร์น่าจะสูง

            ฟันธง : จิ้มไทยใสปิ๊ง

            11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

            มาเลเซีย ระบบ 4-4-2 โค้ช ดอลลาห์ ซาเลห์ / ตาลาฮา ,มานาฟ,อินดรา,ราฟิค ,อัมรี ,ฮาฟิส,อัซมี่, อฟิฟ, เฟดลี่,มาฮาลี่,ฟาริซาล
 
            ทีมชาติไทย ระบบ 4-3-3 โค้ช เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง/ อดิศักดิ์/เกริกฤทธิ์/มงคล/ชนาธิป/สารัช/ชาริล/พีระพัฒน์/ธนบูรณ์/ สุทธินันท์ /นฤบดินทร์/กวินทร์