และต่อไปนี้คือสุดยอดแห่งการลงทุนซื้อนักเตะที่ผิดพลาดประจำ ครึ่งฤดูกาลแรกของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ควรจดจำไว้ว่าของแพงใช่จะต้องดีจริงกันทุกคน และบางรายก็อาจเด่นดังกับแค่บางทีมเท่านั้น

         มาริโอ บาโลเตลลี่ (ลิเวอร์พูล) 16 ล้านปอนด์ จาก เอซี มิลาน
         ผู้เล่นที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าเป็นการเสริมทัพที่ผิดพลาดจริงๆ เพราะการกลับสู่แผ่นดินอังกฤษคราวนี้เขายังไม่เคยโชว์ฟอร์มดีสมกับเคยเป็น "ซูเปอร์มาริโอ" เลยสักครั้ง ย่ำแย่ถึงขนาดยังทำประตูในพรีเมียร์ลีกไม่ได้ จากการเตะ 758 นาที เรื่องดีอย่างเดียวก็คือลดความเกรียนลงไปเยอะ

         ลิเวอร์พูล เชื่อว่าเขาน่าจะมาช่วยแก้ปัญหาการทำประตูแทน หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโวชาวอุรุกวัย ที่ย้ายไปอยู่ บาร์เซโลน่า ได้บ้าง โดยเฉพาะเมื่อ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกอีกคน เกิดบาดเจ็บออดๆแอดๆ แต่เขากลับเป็นคนที่ฝากความหวังไว้ไม่ได้ จนกระทั่งต้องนั่งดูเพื่อนเล่นแทน

         เอเลียควิม ม็องกาล่า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 35 ล้านปอนด์ จาก ปอร์โต้
         เจ้าของสถิติการซื้อนักเตะช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาแพงสุดอันดับ 5 ของเมืองผู้ดี แถมเป็นถึงเซนเตอร์แบ๊กทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งผ่านการซิวแชมป์ทั้งลีกเบลเยียม และโปรตุเกส มาแล้ว แต่พอมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลับปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ไม่ได้

         น่าเศร้าที่ดาวรุ่งผู้ถูกมองว่าเป็นอนาคตของวงการลูกหนังเมือง น้ำหอม ไม่สามารถทำผลงานให้ดีกว่า มาร์ติน เดมิเคลิส ซึ่งอายุมากกว่า 11 ปี แถมครั้งหนึ่งถูกมองว่าหมดน้ำยาไปแล้ว แม้แต่ตัวเขาก็ยอมรับว่าลีกอังกฤษยากกว่าที่คิด และตอนนี้คนที่ต้องนั่งข้างสนามคือ ม็องกาล่า

         บราวน์ อิเดเย่ (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน) 10 ล้านปอนด์ จาก ดินาโม เคียฟ
         เวสต์บรอมวิช ขึ้นชื่อว่าค่อนข้างระมัดระวังในการใช้จ่ายเพื่อเสริมทัพ เมื่อพวกเขาลงทุนซื้อหัวหอกทีมชาติไนจีเรีย ซึ่งมีค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์สโมสร 10 ล้านปอนด์ แฟนบอลก็คาดหวังว่าจะได้คนเก่งมาช่วยทำประตู แต่กลายเป็นว่า อิเดเย่ เพิ่งยิงได้เพียงลูกเดียวจาก 10 นัด

         มิหนำซ้ำ อลัน เออร์ไวน์ กุนซือคนก่อนของ เวสต์บรอมวิช ยังยอมรับด้วยว่าเขาไม่เคยตามดูฟอร์มการเล่นของดาวเตะวัย 26 ปี ก่อนเซ็นสัญญาคว้าตัวมาจาก ดินาโม เคียฟ ผลคือพอ อิเดเย่ ช่วยทีมให้มีผลงานดีตามอัตภาพไม่ได้ เออร์ไวน์ ก็ต้องชดใช้ด้วยการโดนปลดจากตำแหน่ง

         ฟากุนโด้ เฟร์เรย์ร่า (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด) ยืมตัวจาก ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค
         อดีตกองหน้าดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ ที่เคยช่วย เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ครองแชมป์ ซูเปอร์ไฟนอล ปี 2013 ก่อนช่วยให้ ชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค คว้าแชมป์ลีกยูเครน ฤดูกาล 2013-14 หลังยิง 6 ประตู จาก 13 เกม นิวคาสเซิ่ล สนใจดึงมาใช้งานดูบ้าง แต่จนถึงนาทีนี้ก็ยังไม่ได้ลงโชว์ฝีเท้าสักครั้ง

         แม้ทีม "สาลิกาดง" จะเปลี่ยนกุนซือไปแล้ว คาดว่าสถานการณ์ของกองหน้าวัย 23 ปี คงไม่ต่างจากเดิม ขนาดทีมสำรองก็ยังไม่มีที่ว่างสำหรับเขา แถมกลายเป็น อโยเซ่ เปเรซ ซึ่งย้ายแบบไม่มีใครคาดหวังจาก เซกุนด้า ดิบิซิโอน ของสเปน ที่สามารถชนะใจกองเชียร์ชาวจอร์ดี้ได้สำเร็จ

         ริโอ เฟอร์ดินานด์ (ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส) ฟรี จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
         แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือ ควีนส์ปาร์ค ต้องการนักเตะประสบการณ์สูงมาช่วยดูแลแผงรับ สำหรับการขึ้นมาอยู่ในลีกสูงสุดอีกครั้ง และเห็นว่าอดีตเซนเตอร์แบ๊กกัปตันทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย แถมได้ครองถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว คือคำตอบที่ถูกต้อง

         แต่กลายเป็นว่าอดีตกองหลัง "ปีศาจแดง" กลับต้องมานั่งสำรอง ริชาร์ด ดันน์ ซึ่งอายุไล่เลี่ยกัน แต่ไม่เคยได้แชมป์รายการใหญ่ตลอดชีวิต กับ สตีเว่น คอลเกอร์ เด็กหนุ่มที่อายุห่างกัน 13 ปี แฟนบอลมักเห็นเขานั่งวิเคราะห์เกมทางโทรทัศน์มากกว่าเล่นอยู่ในสนาม ลอฟตัส โร้ด เสียอีก

         ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (ฮัลล์ ซิตี้) ยืมตัวจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
         ไม่น่าเชื่อว่าอดีตปีกทีมชาติฝรั่งเศส ผู้เคยได้ชื่อว่าใช้ความสามารถสร้างปัญหาให้คู่แข่งในสนาม พอๆกับที่กุนซือหลายคนต้องปวดหัวกับพฤติกรรมของเขา แถมเคยซิวแชมป์ลีก เอิง 5 สมัยกับ โอลิมปิก ลียง และ โอลิมปิก มาร์กเซย รวมกัน จะมีโอกาสเป็นตัวจริงของ ฮัลล์ 5 ใน 8 เกม

         ล่าสุด เบน อาร์กฟา ถูก สตีฟ บรูซ นายใหญ่ ฮัลล์ สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีม ฮัลล์ ยกเลิกสัญญายืมตัวกลางคัน เนื่องจากไม่ประทับใจฟอร์มการเล่นตลอดช่วงเวลาที่ได้ร่วมงานกัน แถม นิวคาสเซิ่ล ก็ไม่อยากได้กลับมาใช้งานด้วย จึงโดนปล่อยไปอยู่กับสโมสรเล็กๆอย่าง นีซ แบบไร้ค่าตัว

         มิเชล ฟอร์ม (ท็อตต์แน่ม ฮ็อตสเปอร์) 3.5 ล้านปอนด์ บวก กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ในสัญญาแลกตัวกับ เบน เดวิส จาก สวอนซี ซิตี้
         จากผู้รักษาประตูซึ่งเคยมีลุ้นเป็นมือหนึ่งทีมชาติฮอลแลนด์ กลายมาเป็นมือสองถาวรในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อฤดูกาลนี้ตัดสินใจย้ายจาก สวอนซี ซึ่งเขาทำหน้าที่ตัวจริง 2 ปีซ้อน มาอยู่สโมสรที่ใหญ่ขึ้น แต่ได้ลงเล่นแค่ศึกฟุตบอลถ้วย อย่าง ยูโรปา ลีก, ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ เท่านั้น

         ฤดูกาลก่อน อูโก้ โยริส นายทวารทีมชาติฝรั่งเศส อาจเคยกังวลที่ต้องมี แบร็ด ฟรีเดล มาคอยแย่งตำแหน่งมือหนึ่ง แต่สถานการณ์ของเขาตอนนี้ปลอดภัยขึ้นเยอะเมื่อมี ฟอร์ม มาเป็นคู่แข่ง น่าเสียดายอนาคตต้องดับวูบ เพียงเพราะต้องการแค่ได้มีโอกาสอยู่สโมสรใหญ่สักครั้งในชีวิต

         เอ็มมานูเอล ริวิแยร์ (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด) 6 ล้านปอนด์ จาก อาแอส โมนาโก
         อดีตหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี เชื้อสายมาร์ตินิก เคยกล่าวว่า "ปลื้มมากที่ได้มาอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล และเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก นี่คือสโมสรใหญ่ ซึ่งมีทั้งแฟนบอลอันยอดเยี่ยม และสนามที่ดี" แต่ตอนนี้กองเชียร์คงไม่ปลื้มเขาเท่าไหร่ เพราะยังไม่ได้หลังเตะ 11 นัด

         อลัน พาร์ดิว กุนซือคนก่อนของ "สาลิกาดง" ส่ง ริวิแยร์ ลงตัวจริงในศึกพรีเมียร์ลีกทั้ง 6 เกมแรกของฤดูกาล แต่หลังจากไม่เกิดผลตอบแทนที่น่าพอใจ เขาก็เลยดร็อปไปนั่งสำรองเพื่อให้มีโอกาสได้รู้จักสนาม และแฟนๆมากขึ้น จนกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งเมื่อ จอห์น คาร์เวอร์ มาคุมทัพ

         จอร์จอส ซามาราส (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน) ฟรี จาก กลาสโกว์ เซลติก
         ครั้งหนึ่งหัวหอกวัย 29 ปี เคยยิงประตูให้ทีมชาติกรีซไม่ได้เลยนานถึง 2 ปี ทั้งได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นจึงไม่ค่อยน่าประหลาดใจเท่าไหร่ที่เขายังคงทำสกอร์ให้ เวสต์บรอมวิช ไม่ได้ หลังจากเพิ่งมีโอกาสลงสนามเพียงแค่ 5 เกม รวมกัน 72 นาทีเท่านั้นในศึกพรีเมียร์ลึกฤดูกาลนี้

         แต่พอไปรวมการลงสนามในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยอีก 3 นัด ซามาราส ยังพังตาข่ายไม่เป็น ตอนนี้สาวก "เดอะ แบ๊กกี้ส์" อาจเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงต้องยอมปล่อยกองหน้าคนนี้ออกจากรัง หลังยิงรวมทุกรายการไปได้ 12 ประตู จากการลงสนามทั้งสิ้น 63 แมตช์

         เมาโร ซาราเต้ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) ไม่เปิดเผยค่าตัว จาก เบเลซ ซาร์สฟิลด์
         กองหน้าเลือดอาร์เจนไตน์วัย 27 ปี คือจอมพเนจรรายหนึ่งของวงการ โด่งดังตอนจาก ลาซิโอ มาอยู่ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว เมื่อปี 2011 ก่อนถูกส่งกลับประเทศบ้านเกิด กระทั่ง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ดึงกลับอังกฤษรอบสอง โดย เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เคยใช้งานมาแล้วในปี 2008

         แต่ดูเหมือน เวสต์แฮม จะลืมไปว่าเขาเคยยิงให้ เบอร์มิงแฮม แค่ 4 ประตูใน 14 นัด เพราะเขาก็ซัดให้เพียง 2 ประตู จากการลงสนามเป็นตัวจริง 5 ใน 8 แมตช์ทุกรายการ ก่อนไม่ได้ลงเตะอีกเลยตั้งแต่ 2 ธันวาคม และตอนนี้ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส จะมารับช่วงยืมตัวไปเรียบร้อยแล้ว