หากเอ่ยถึงชื่อของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ คงไม่มีใครไม่รู้จักกองหน้าชาวอังกฤษของ ลิเวอร์พูล รายนี้อย่างแน่นอน

        สเตอร์ริดจ์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ย้ายจาก เชลซี มาเป็นสมบัติในถิ่นแอนฟิลด์ ในช่วงตลาดหน้าหนาวปี 2013 และช่วยต้นสังกัดมีลุ้นแชมป์ลีกเมื่อซีซั่นก่อน
 
        เนื่องในโอกาสที่ตลาดนักเตะหน้าหนาวประจำฤดูกาล 2014/15 ได้เปิดทำการกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น บรรดาทีมน้อยใหญ่ก็ได้เริ่มต้นโครงการเสริมความแข็งแกร่งกองกำลังของตนไป บ้างแล้ว
 
        การซื้อขายนักเตะในตลาดรอบ 2 นี้ อาจจะไม่คึกคักอย่างในช่วงซัมเมอร์ เนื่องจากมีระยะเวลาให้เลือกสรรซื้อสินค้าที่ตนเองต้องการน้อยกว่า อย่างไรก็ตามหลายปีที่ผ่านมามีนักเตะที่ย้ายทีมช่วงหน้าหนาวนี้และสามารถ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น จนเป็นที่จดจำกับต้นสังกัดใหม่ บรรดาสุดยอดสินค้าหน้าหนาวดเหล่านั้นจะเป็นใครกันบ้าง ไปติดตามกันเลย...

        "ตุ้ย พันเข็ม"

        ''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''

        20 : หลุยส์ กุสตาโว่
        ฮอฟเฟ่นไฮม์ ไป บาเยิร์น มิวนิค
        ค่าตัว : 15 ล้านยูโร (2011)
        มิดฟิลด์ตัวรับชาวบราซิเลียนใช้ชีวิตร่วมกับทีม ''เสือใต้'' ร่วม 30 เดือนด้วยกัน ช่วยพาทีมทวงความยิ่งใหญ่กลับมาจาก ดอร์ทมุนด์ ได้ด้วยการคว้าทริปเปิลแชมป์ประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังเมืองเบียร์เมื่อ ฤดูกาล 2012/13 ทว่ากลับกลายเป็นนักเตะที่ไม่ตรงสเปก โจเซป กวาร์ดิโอล่า และโดนโละไปให้กับ โวล์ฟสบวร์ก ในเวลาต่อมา

        19 : คลาส-แยน ฮุนเตลาร์
        ฮีเรนวีน ไป อาแจ็กซ์
        ค่าตัว : 9 ล้านยูโร (2006)
        หลังจากโชว์ฟอร์มโดดเด่นกับ ฮีเรนวีน คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ ก็ได้รับโอกาสย้ายไปร่วมทัพ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมที่เขาสนับสนุนมาตั้งแต่วัยเด็ก ในเวลาต่อมา ฮุนเตลาร์ ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในเวทียุโรปมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะได้ย้ายทีมอีกครั้งไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด ทว่าที่นั่นเขาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

        18 : มาเตโอ โควาซิช
        ดินาโม ซาเกร็บ ไป อินเตอร์ มิลาน
        ค่าตัว : 15 ล้านยูโร (2014)
        โควาซิช โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมทุกครั้งที่ได้รับโอกาสลงสนาม จนตอนนี้กลายเป็นมิดฟิลด์ที่ทีม "งูใหญ่" จะขาดเสียมิได้ไปเสียแล้ว ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมากองกลางรายนี้มีข่าวกับ เรอัล มาดริด ด้วย แต่คงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่การย้ายทีมครั้งนี้จะเกิดขึ้น เพราะ อินเตอร์ ต้องรั้งฟันเฟืองสำคัญของพวกเขาสุดตัวแน่นอน

        17 : เวสลี่ย์ สไนเดอร์
        อินเตอร์ มิลาน ไป กาลาตาซาราย
        ค่าตัว : 7 ล้านยูโร (2013)
        การย้ายทีมของ สไนเดอร์ แสดงให้เห็นว่า ลีกฟุตบอลแดนไก่งวงมีประสิทธิภาพมากพอที่จะดึงดูดนักเตะระดับโลกเข้ามาค้า แข้ง เพลย์เมกเกอร์ชาวดัตช์ย้ายไปร่วมทีม กาลาตาซาราย หลังจากหมดสัญญากับ อินเตอร์ มิลาน และแม้ว่าวัยจะล่วงเลยเข้าหลัก 3 แล้วสไนเดอร์ก็กำลังได้รับความสนใจจากยูเวนตุส จากการที่กำลังจะหมดสัญญากับ กาลาตาซาราย ทว่านายหน้าของเขาก็ยังยืนยันว่า สไนเดอร์มีความสุขดีที่อิสตันบูล

        16 : เนมานย่า มาติช
        เบนฟิก้า ไป เชลซี
        ค่าตัว : 25 ล้านยูโร (2014)
        มาติชใช้เวลาเพียง 12 เดือนในการทำให้คนอื่นขนานนามให้เป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ดีที่สุดในอังกฤษ และทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็คงจะขาดห้องเครื่องเลือดเซิร์บรายนี้ไม่ได้แล้ว หลังจากที่เชลซี พ่ายไปเพียงเกมเดียวที่มีมาติชลงสนาม

        15 : เอ็ดการ์ ดาวิดส์
        ยูเวนตุส ไป บาร์เซโลน่า
        ค่าตัว : ยืมตัว (2004)
        ตำนานนักเตะเลือดดัตช์อาจจะได้ลงเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า เพียงแค่ครึ่งฤดูกาลเท่านั้น ทว่าเขาก็ช่วยทำให้ บาร์เซโลน่า ของ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด จากที่เคยไร้วรยุทธ์ให้กลับมาผงาดในเวทีลีกา และยุโรป ในฤดูกาลถัดมา

        14 : เมซุต โอซิล
        ชาลเก้ ไป เบรเมน
        ค่าตัว : 5 ล้านยูโร (2008)
        นับเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงที่ ชาลเก้ ปล่อยโอซิลไปให้กับ เบรเมน เพราะเพียงปีเดียวหลังจากนั้นเขาเป็นคนยิงประตูชัยในนัดชิง เดเอฟเบ โพคาล กับ เลเวอร์คูเซ่น เวลาผ่านไปไม่นาน มิดฟิลด์เชื้อสายเติร์กค้นพบการผจญภัยครั้งใหม่อีกครั้ง ด้วยการย้ายไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด หลังฟุตบอลโลกปี 2010

        13 : ติอาโก้ ซิลวา
        ฟลูมิเนนเซ่ ไป เอซี มิลาน
        ค่าตัว : 10 ล้านยูโร (2009)

        ติอาโก้ ซิลวา พัฒนาตัวเองจากปราการหลังดาวรุ่งคนหนึ่งกลายมาเป็นยอดแนวรับระดับเวิลด์คลา สในระยะเวลา 3 ปีครึ่งที่ เอซี มิลาน และสร้างกำไรให้ต้นสังกัดราว 30 ล้านยูโรในการย้ายไปร่วมทัพ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อปี 2012

        12 : กอนซาโล่ อิกวาอิน
        ริเวอร์ เพลท ไป เรอัล มาดริด
        ค่าตัว : 12 ล้านยูโร (2007)
        อิกวาอินอาจไม่ได้โชว์ฟอร์มเปรี้ยงปร้างอะไรนักหลังจากย้ายไปเล่น ให้ เรอัล มาดริด ทว่าเขาก็ยังมีชื่อเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ใช้ชีวิตใน เบร์นาเบว กว่า 3 ปีครึ่ง ดาวยิงอาร์เจนไตน์ก็ได้โยกไปเล่นกับ นาโปลี ด้วยเม็ดเงินกว่า 3 เท่าตัวที่ เรอัล มาดริด ซื้อเขามา

        11 : อิวาน ราคิติช
        ชาลเก้ ไป เซบีย่า
        ค่าตัว : 2.5 ล้านยูโร (2011)
        มิดฟิลด์ชาวโครเอเชียสวมบทเป็นวาทยากรคนสำคัญที่ช่วยให้ เซบีย่า ประสบความสำเร็จในรูปแบบของแชมป์ยูโรปา ลีก เมื่อซีซั่นก่อน และนั่นก็ทำให้เขาได้พบก้าวย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า

        10 : แกรี่ เคฮิลล์
        โบลตัน ไป เชลซี
        ค่าตัว : 8.9 ล้านยูโร (2012)
        กองหลังเลือดผู้ดีอาจไม่ได้มีกิตติศัพท์ฝีเท้าในระดับเดียวกันกับ พวก จอห์น เทอร์รี่ หรืออะไรเทือกนั้น ทว่าเขาก็เป็นหนึ่งในกองหลังที่เชลซี ไว้วางใจได้มากที่สุด เคฮิลล์ไม่เคยเป็นแชมป์ลีกกับสิงห์บลูส์ก็จริง แต่เขาก็หยิบมาหมดแล้วทั้ง แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูโรปา ลีก และเอฟเอ คัพ ในช่วง 3 ปีที่ย้ายมาเล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

        9 : ฆวน ฟราน
        โอซาซูน่า ไป แอต.มาดริด
        ค่าตัว : 4 ล้านยูโร (2011)
        ฆวน ฟราน เติบโตมาจากทีมเยาวชนของ เรอัล มาดริด เขาเป็นที่ชื่นชม เนื่องจากเป็นหนึ่งในกองหลังที่รักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นได้ยอดเยี่ยมที่สุด แบ็กขวาเลือดกระทิงช่วยทีมตราหมีคว้าแชมป์ลา ลีกา สเปน ได้อย่างเหลือเชื่อเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา แม้ว่าจะต้องผิดหวังในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตามที

        8 : มาร์เชโล่
        ฟลูมิเนนเซ่ ไป เรอัล มาดริด
        ค่าตัว : 6.5 ล้านยูโร (2007)
        มาร์เชโล่ ไม่ใช่นักเตะที่ได้รับความไว้วางใจและมีตำแหน่งในทีมในช่วงแรกที่ย้ายมาเล่น กับ เรอัล มาดริด เนื่องจากโดนโรคเดี้ยงรบกวนเสียเป็นส่วนใหญ่ ทว่าเมื่อปัญหานั้นหมดไปเขาก็กลายเป็นตัวหลักของทีมนับแต่นั้นเป็นต้นมา และอาจจะเรียกได้ว่า เป็นสุดยอดการเซ็นสัญญาช่วงหน้าหนาวของ เรอัล มาดริด เลยก็ว่าได้

        7 : อีบัน กอร์โดบา
        ซาน ลอเรนโซ่ ไป อินเตอร์ มิลาน
        ค่าตัว : 16 ล้านยูโร (2000)
        ในบรรดา 20 แข้งที่คัดสรรมาวันนี้ อีบัน กอร์โดบา เป็นนักเตะที่อายุมากที่สุด ทว่าก็รับใช้สังกัดนานที่สุดหลังย้ายทีมเช่นกัน (นับถึงปี 2015) โดยที่กองหลังชาวโคลอมเบีย เล่นในถิ่น ซาน ลอเรนโซ่ ทั้งหมด 12 ปี ที่นั่นเขามอบหลายสิ่งอย่างให้กับอินเตอร์ ในรูปแบบที่เรียกว่าเกินจะประเมินค่าได้

        6 : อันเดรีย บาซายี่
        โวล์ฟสบวร์ก ไป ยูเวนตุส
        ค่าตัว : 6 แสนยูโร (2011)
        บาซายี่ประสบปัญหาในการปรับตัวตลอด 6 เดือนแรกกับทีมม้าลาย แต่เขาก็เริ่มปรับตัวได้ในเวลาเดียวกันกับที่ อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามาคุมทัพ ทั้งคู่ช่วยกันพายูเวนตุสเป็นแชมป์สคูเดตโต้ตลอด 3 ซีซั่นหลังสุด

        5 : ปาทริซ เอวร่า
        โมนาโก ไป แมนฯ ยูไนเต็ด
        ค่าตัว : 7 ล้านยูโร (2006)
        กว่าที่ เอวร่า จะจูนเครื่องกับฟุตบอลอังกฤษก็ต้องรอจนถึงฤดูกาลที่ 2 กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทว่าเมื่อได้โอกาสลงสนามต่อเนื่องกองหลังชาวฝรั่งเศส ก็ได้กลายมาเป็นแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในอังกฤษ ในเวลาต่อมา กวาดแชมป์มาครองได้ 15 โทรฟี่ ตลอด 8 ปีครึ่งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

        4 : หลุยส์ ซัวเรซ
        อาแจ็กซ์ ไป ลิเวอร์พูล
        ค่าตัว : 29 ล้านยูโร (2011)
        ซัวเรซ เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล กลับมามีลุ้นแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 24 ปีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ความสามารถในการทำประตูของกองหน้าชาวอุรุกวัย เข้าขั้นระดับโลกของจริง และนั่นก็ทำให้เขาคู่ควรต่อการเข้ามาติดท็อป 5 ในลิสต์ของเราในวันนี้

        3 : มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์
        บาเยิร์น มิวนิค ไป ดอร์ทมุนด์
        ค่าตัว : ยืมตัวก่อนซื้อขาด 4 ล้านยูโร (2008)
        การที่ ดอร์ทมุนด์ คว้าตัว ฮุมเมิ่ลส์ จาก บาเยิร์น มิวนิค ไปร่วมทีมนั้น อาจเป็นจุดเริ่มต้นคำสาปที่ทำให้พวกเขาต้องเห็นนักเตะที่ดีที่สุดของตัวเอง ย้ายไปภักดีกับทีม "เสือใต้" ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กองหลังชาวเยอรมัน รายนี้ช่วย "เสือเหลือง" ซิวแชมป์ลีกในช่วงปี 2010-2012 และยังช่วยทีมเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อ 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาด้วย

        2 : เดยัน สแตนโกวิช
        ลาซิโอ ไป อินเตอร์ มิลาน
        ค่าตัว : 4 ล้านยูโร (2004)
        สแตนโกวิช โชว์ฟอร์มเทพในช่วงเวลากับ ลาซิโอ ก่อนที่จะต้องจำใจย้ายไปเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน เนื่องจากทีมมีปัญหาการเงิน อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลา 9 ปีครึ่งในถิ่นซาน ซิโร่ สแตนโกวิช ได้สัมผัสโทรฟี่แชมป์ถึง 15 ครั้งด้วยกัน

        1 : เนมานย่า วิดิช
        สปาร์ตัก มอสโก ไป แมนฯ ยูไนเต็ด
        ค่าตัว : 8.9 ล้านยูโร (2006)
        วิดิชแทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวในชีวิตที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เลย อีกทั้งการพัฒนาของกองหลังเลือดเซิร์บก็ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง และเปี่ยมพร้อมด้วยความจงรักภักดีกับสโมสร วิดิชช่วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า 15 โทรฟี่ ก่อนโดนผ่องถ่ายออกจากทีมเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา