ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 10 มกราคม 2558

เชลซี - นิวคาสเซิ่ล

ถ่ายทอดสด ช่อง : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 4, เวลา : 22.00 น.    

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

        เชลซี ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ปลุกตัวเองจากความพ่ายแพ้นัดที่ 2 ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ หลังปราชัยต่อ สเปอร์ส 3-5 ด้วยการเปิดบ้านถลุง วัตฟอร์ด ทีมจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ 3-0 ใน เอฟเอ คัพ รอบสาม

        ความพร้อมล่าสุด มูรินโญ่ ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บให้ปวดหัว แถมไม่มีนักเตะติดโทษแบนอีกต่างหาก

        ติโบต์ กูร์กตัวส์ กลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง จอห์น เทอร์รี่ กลับมาดูแลเกมรับกับ แกรี่ เคฮิลล์ แดนกลางเรียก เนมันย่า มาติช กับ เชส ฟาเบรกาส กลับมาบัญชาเกมร่วมกัน แผงรุกนำโดย เอแด็น อาซาร์ ปั้นเกมข้างหลัง ดีเอโก้ คอสต้า

        นิวคาสเซิ่ล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือรักษาการ จอห์น คาร์เวอร์ ไม่ชนะมา 2 เกมติดแล้ว ล่าสุดออกไปพ่าย เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 ตกรอบสาม เอฟเอ คัพ ส่วนในลีก "สาลิกาดง" โดน เบิร์นลี่ย์ ตีเจ๊า 3-3

        สภาพทีมล่าสุด ปาปิสส์ ซิสเซ่ ชดใช้โทษแบนเป็นนัดสุดท้าย แต่ถึงจะไม่โดนกักแข้ง ก็หมดสิทธิ์ลงสนามอยู่ดีเนื่องจากเดินทางไปร่วมทีมชาติเซเนกัลเพื่อทำศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ เช่นเดียวกับ ชีค ติโอเต้ (ไอวอรี่โคสต์)

        ส่วน เมห์ดี้ อาเบด ถอนตัวจากทีมชาติแอลจีเรียในรายการเดียวกัน เนื่องจากยังบาดเจ็บเท้าในเวลานี้

        ด้าน สตีเว่น เทย์เลอร์ (เอ็นร้อยหวาย) ต้องพักฟื้นตลอดช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้หลังเข้ารับการผ่าตัดไปแล้วเมื่อ วันพุธที่ผ่านมา เลยชวดเล่นเช่นเดียวกับ อบ เอลเลียต (ต้นขา), โรลันโด้ อารอนส์ (เอ็นหลังหัวเข่า), กาเบรียล โอแบร์กต็อง (ต้นขา), ไรอัน เทย์เลอร์ (เข่า), เซียม เดอ ยอง (ต้นขา) และ แซมมี่ อเมโอบี้ (เข่า)

        อย่างไรก็ดี ทิม ครูล (ข้อเท้า) พักยาวมาตั้งแต่เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เตรียมกลับมาเฝ้าประตูอีกครั้งหลังลงเรียกความฟิตในเกมปิดสนามกับ เซลติก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

        ขณะที่ ดาริล ยันมาต (ขาหนีบ), มุสซ่า ซิสโซโก้ (เอ็นหลังหัวเข่า), ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่ (เส้นประสาทบริเวณก้น) และ แจ็ค โคลแบ็ค (เอ็นหลังหัวเข่า) ที่ไม่มีส่วนร่วมในเกมที่แล้ว พร้อมคืนสนามในสุดสัปดาห์นี้

        ทิม ครูล น่าจะพร้อมเฝ้าประตูอีกครั้ง แนวรับเลือกใช้ ไมค์ วิลเลียมสัน กับ ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่ แดนกลางถอย มุสซ่า ซิสโซโก้ กลับมาประจำการคู่กับ แจ็ค โคลแบ็ค แผงรุกนำโดย อโยเซ่ เปเรซ ส่วนหน้าเป็น เอ็มมานูเอล ริวิแยร์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เชลซี (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า - เนมันย่า มาติช, เชส ฟาเบรกาส - วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - ดีเอโก้ คอสต้า

        นิวคาสเซิ่ล (4-2-3-1) : ทิม ครูล - ดาริล ยันมาต, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, พอล ดัมเม็ตต์ - แจ็ค โคลแบ็ค, มุสซ่า ซิสโซโก้ - อโยเซ่ เปเรซ, เรมี่ กาแบลล่า, โยอัน กุฟฟร็อง - เอ็มมานูแอล ริวิแยร์

        ผู้ตัดสิน : โรเจอร์ อีสต์

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- จอห์น เทอร์รี่ ยิงได้ 3 จาก 4 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- นิวคาสเซิ่ลได้ประตูในครึ่งหลัง คิดเป็นเปอร์เซนต์สูงสุดในพรีเมียร์ลีก (76%)
- เชลซีเสียประตูในเกมล่าสุด (5) เท่ากับที่เสีย 10 เกมลีกก่อนหน้านั้น
- ปาปิสส์ ซิสเซ่ ซึ่งไปเล่นให้ทีมชาติในแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ทำ 4 ประตูในลีกที่พบเชลซี เป็นคู่แข่งที่เขายิงได้มากที่สุด
- ซิสเซ่ทำ 5 ประตูจาก 6 เกมลีกหลังสุด
- เชส ฟาเบรกาส ทำแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (14) มากกว่าผู้แอสซิสต์สูงสุดในซีซั่นก่อน (สตีเว่น เจอร์ราร์ด 13)
- เอแด็น อาซาร์ ทำ 4 ประตูและ 3 แอสซิสต์จาก 7 เกมหลังสุดในลีก
- แม็กพายส์ทำได้ 2 ประตูจากการยิงเข้ากรอบแค่ 3 ครั้ง ในเกมที่ชนะเชลซี 2-1 ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค ต้นเดือนธันวาคม และกลายเป็นทีมแรกที่ชนะเชลซีในฤดูกาลนี้
- เชลซีได้ประตู 18% จากการยิงทั้งหมด และยิงเข้ากรอบ 50% สูงสุดในลีกทั้งสองลักษณะ
- นิวคาสเซิ่ลได้ประตูจากการเปลี่ยนตัวมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก (8 ลูก)

เอฟเวอร์ตัน - แมนฯ ซิตี้
ถ่ายทอดสด ช่อง : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 5, เวลา : 22.00 น.

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

        เอฟเวอร์ตัน ของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ หยุดสถิติแพ้ติดต่อกันไว้ที่ 4 นัด แต่ก็ยังไม่ชนะใครอยู่ดีเมื่อทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอ เวสต์แฮม 1-1 ใน เอฟเอ คัพ รอบสาม ส่วนในลีก "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ออกไปแพ้ ฮัลล์ ซิตี้ 0-2

        ความพร้อมล่าสุด อันโตลิน อัลการาซ พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง

        ส่วน เลห์ตัน เบนส์ ที่เจ็บจนไม่มีชื่อในเกมล่าสุด น่าจะกลับมาฟิตทันคืนสนามในสุดสัปดาห์นี้จากการเปิดเผยของ มาร์ติเนซ

        ขณะที่ ซิลแว็ง ดิสแต็ง เจ็บขาหนีบจากเกมกับ เวสต์แฮม ชวดเล่นเกมนี้แน่นอน เช่นเดียวกับ เจมส์ แม็คคาร์ธี่ (เอ็นหลังหัวเข่า) ที่ยังต้องพักฟื้นต่อไปแต่ก็เข้าใกล้การคัมแบ็กเต็มที

        นอกจากนี้ ทิม ฮาวเวิร์ด (น่อง), ลีออน ออสแมน (เท้า), โทนี่ ฮิบเบิร์ต, ดาร์รอน กิ๊บสัน (เข่า) และ สตีเว่น พีนาร์ (ความฟิต) ยังไม่พร้อมคืนสนาม

        โฆเอล โรเบลส รับหน้าที่ผู้รักษาประตู แนวรับเป็น ฟิล เจกีลก้า เข้าคู่กับ จอห์น สโตนส์ ขณะที่ แกเร็ธ แบร์รี่ คุมแดนกลางกับ มูฮาเหม็ด เบซิช โดย รอสส์ บาร์คลี่ย์ ทำเกมรุกข้างหลัง โรเมลู ลูกากู

        แมนฯ ซิตี้ ของ มานูเอล เปเยกรินี่ ฟาดชัย 11 จาก 12 เกมที่ผ่านมา ล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านเฉือนชนะ เชฟฯ เว้นส์เดย์ ทีมระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ 2-1 ใน เอฟเอ คัพ รอบสาม ส่วนในลีก "เรือใบสีฟ้า" เชือด ซันเดอร์แลนด์ 3-2

        สภาพทีมล่าสุด เปเยกรินี่ จะไม่มี ยาย่า ตูเร่ ที่ต้องเดินทางไปร่วมทีมชาติไอวอรี่โคสต์เพื่อทำศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ

        ส่วน แว็งซ็องต์ ก็องปานี (เอ็นหลังหัวเข่า) รวมถึง 2 กองหน้าอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ (เข่า) และ เอดิน เชโก้ (น่อง) ที่กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบแล้ว กลับมามีชื่อสำหรับเกมนี้แน่นอนจากการยืนยันของ เปเยกรินี่

        โจ ฮาร์ท เตรียมกลับมาเฝ้าประตูเป็นตัวจริงหลังเป็นสำรองใน 2 เกมที่ผ่านมา แนวรับให้ เอเลียควิม ม็องกาล่า ประสานงานกับ มาร์ติน เดมิเคลิส แดนกลางเป็น แฟร์นันโด ผนึกกำลังกับ แฟร์นันดินโญ่ แผงรุกนำโดย ดาบิด ซิลบา หน้าเป้าน่าจะส่ง สเตวาน โยเวติช ประจำการไปก่อน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1) : โฆเอล โรเบลส - เชมัส โคลแมน, ฟิล เจกีลก้า, จอห์น สโตนส์, เลห์ตัน เบนส์ - แกเร็ธ แบร์รี่, มูฮาเหม็ด เบซิช - เควิน มิรัลลาส, รอสส์ บาร์คลี่ย์, สตีเว่น เนสมิธ - โรเมลู ลูกากู

        แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, มาร์ติน เดมิเคลิส, เอเลียควิม ม็องกาล่า, กาแอล กลิชี่ - แฟร์นันโด, แฟร์นันดินโญ่ - เฆซุส นาบาส, ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่ - สเตวาน โยเวติช

        ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- เอฟเวอร์ตันได้แต้มน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก จากสถานการณ์ที่ตามหลังคู่แข่งในฤดูกาลนี้ (2)
- แมนฯ ซิตี้ ไม่แพ้ 11 เกมหลังสุดในลีก (ชนะ 9 เสมอ 2)
- ทอฟฟี่แพ้ 6 จาก 8 เกมหลังสุดในลีก (ชนะ 1 เสมอ 1)
- ทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ยิงไม่ได้ 4 จาก 6 เกมหลังสุดในลีก
- ยาย่า ตูเร่ ยิงได้ 6 จาก 8 เกมหลังสุดในลีก รวมถึงประตูชัย 1-0 เหนือเอฟเวอร์ตันในเกมที่คู่นี้เจอกันต้นเดือนธันวาคม
- ดาบิด ซิลบา ยิง 5 ประตูจาก 6 เกมลีกหลังสุด
- โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ คุมทีมเจอแมนฯ ซิตี้ 11 ครั้งในพรีเมียร์ลีก และไม่เคยชนะ (เสมอ 1 แพ้ 10)
- เอฟเวอร์ตันเสีย 33 ประตูในฤดูกาลนี้ หลังจากเสียแค่ 39 ลูกตลอดฤดูกาลที่แล้ว
- เอฟเวอร์ตัน เล่นพลาดเองจนทีมเสียประตูถึง 11 ลูกในลีกฤดูกาลนี้ มากที่สุดในลีก
- เอฟเวอร์ตัน เป็นทีมที่ทำฟาวล์น้อยที่สุดในลีก (193) แต่โดนฟาวล์มากที่สุด (260)

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
00:30 น.   คริสตัล พาเลซ Vs สเปอร์ส   รับชม : CTH สเตเดี้ยม 4
19:45 น.   ซันเดอร์แลนด์ Vs ลิเวอร์พูล   รับชม : CTH สเตเดี้ยม 2
22:00 น.   สวอนซี Vs เวสต์แฮม   รับชม : ช่อง3,CTH สเตเดี้ยม 1
22:00 น.   เชลซี Vs นิวคาสเซิ่ล   รับชม : CTH สเตเดี้ยม 4
22:00 น.   เลสเตอร์ Vs แอสตัน วิลล่า   รับชม : CTH สเตเดี้ยม 3
22:00 น.   เบิร์นลี่ย์ Vs ควีนส์ปาร์ค   รับชม : CTH สเตเดี้ยม 2
22:00 น.   เอฟเวอร์ตัน Vs แมนฯ ซิตี้    รับชม : CTH สเตเดี้ยม 5
22:00 น.   เวสต์บรอมวิช Vs ฮัลล์ ซิตี้    รับชม : CTH สเตเดี้ยม เอ็กซ์