แข้งวัยกระเตาะ เซอร์เบียสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกศึกลูกหนังรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ไปครองได้สำเร็จ หลังเชือดบราซิล 2-1 ในช่วงต่อเวลา

        ฟุตบอลเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ชิงแชมป์โลก 2015
        รอบชิงชนะเลิศ
        บราซิล 1-1 เซอร์เบีย
        (ต่อเวลาพิเศษ เซอร์เบียชนะ2-1)

        สนาม : นอร์ธ ฮาร์เบอร์ สเตเดี้ยม, นิวซีแลนด์
 
        บราซิล ลงทำศึกฟุตบอลเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ชิงแชมป์โลก ประจำปี 2015 รอบชิงชนะเลิศ กับ เซอร์เบีย ที่เมืองโอ็คแลนด์ โดยทีม "แซมบ้า" ยังไม่แพ้ใครตลอดทัวร์นาเมนต์ และยังไม่เสียประตูเลยในรอบน็อกเอาต์ พวกเขาต้องการชนะนัดนี้เพื่อทำสถิติคว้าแชมป์มากสุด 6 สมัยเท่ากับ อาร์เจนตินา ส่วน เซอร์เบีย เข้าชิงฯครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ไม่นับสมัยยังเป็นส่วนหนึ่งของ ยูโกสลาเวีย และที่ผ่านมาก็ต้องเตะต่อเวลามาตลอดในรอบน็อกเอาต์ทั้ง 3 นัด
 
        ครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างสูสี บราซิล มีลุ้นประตูก่อนในนาทีที่ 10 จากการยิงฟรีคิกของ เฮอัน คาร์ลอส กองหน้าตัวเก่ง แต่ เปแดร็ก ไรจ์โควิช ผู้รักษาประตูกัปตันทีม เซอร์เบีย เซฟได้สวย
 
        พลพรรค "แซมบ้า" มีโอกาสลุ้นอีกในนาทีที่ 21 จาก 6 หลาในกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ ไรจ์โควิช
 
        เซอร์เบีย มีโอกาสลุ้นครั้งแรกในนาทีที่ 34 จากการยิงระยะไกลของ อันดริย่า ซิฟโควิช ปีกตัวกลั่น แต่ เจอัน นายด่านบราซิเลียน สามารถเซฟได้อย่างเยี่ยมยอด จบครึ่งแรกทั้งสองทีมจึงยังเสมอกันอยู่เสมอ 0-0
 
        ครึ่งหลังรูปเกมก็ยังเป็นของ บราซิล ที่ครองบอลได้มากกว่าเหมือนเดิม นาทีที่ 48 จาจ้า มีโอกาสซัดให้ ไรจ์โควิช ออกแรงปัด ดานิโล่ ตามเข้าซ้ำ บอลข้ามคานไปเพียงนิดเดียว
 
        เซอร์เบีย มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 70 จากการโยนทางกราบขวาของ เนมานย่า มักซิโมวิช และ สตานิซ่า มานดิช หัวหอกตัวเก่ง รอเข้าฮอสด้วยการกวาดบอลระยะเผาขนเข้าไป
 
        แต่ เซอร์เบีย ดีใจได้ไม่นานก็โดนทีเด็ดของ อันเดรียส เปไรร่า มิดฟิลด์ตัวสำรองที่ลงสนามมาเพียง 8 นาที ลากบอลหลบคู่แข่ง 4 คน เข้ามายิงเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ให้ บราซิล ได้สำเร็จในนาทีที่ 73
 
        ช่วงต่อเวลา เปไรร่า เกือบเป็นฮีโร่ เมื่อจัดการซัดฟรีคิกทะลุกำแพงไปแล้ว แต่ ไรจ์โควิช ยังตามปัดออกได้ทัน จบ 90 นาทีทั้งสองฝ่ายจึงเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาออกไปอีก 30 นาที
 
        นาทีที่ 110 เซอร์เบีย เกือบทำให้ บราซิล น้ำตาตก เมื่อ มักซิโมวิช ซัดไกล 20 หลาเฉียดสามเหลี่ยมออกหลัง ถัดมา 3 นาที มาร์กอส กิลแยร์เม่ ซัดไกล 30 เมตร แต่ไม่ผ่านมือ ไรจ์โควิช เช่นกัน
 
        เซอร์เบีย มาได้ประตูสำคัญในนาทีที่ 118 เมื่อ อันดริย่า ซิฟโควิช ผ่านบอลให้ มักซิโมวิช หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงสวนทาง เจอัน นายทวารคู่แข่ง อย่างใจเย็น จบเกม เซอร์เบีย จึงเฉือนชนะ บราซิล ไปแบบหวุดหวิด 2-1 พร้อมกับคว้าแชมป์ได้ตั้งแต่การเข้าชิงครั้งแรกอย่างยอดเยี่ยม

        รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
        บราซิล : เจอัน - โจอัว เปโดร, ลูเซา (กัปตันทีม), มาร์ลอน, จอร์เก้ - ดานิโล่, จาจ้า - กาเบรียล เฮซุส, กาเบรียล บอสชิเลีย, มาร์กอส กิลแยร์เม่ - เฮอัน คาร์ลอส
        เทรนเนอร์ : โรเกริโอ มิคาเล่

        เซอร์เบีย : เปแดร็ก ไรจ์โควิช (กัปตันทีม) - มิลาน กายิช, มิลอส เวลจ์โควิช, เซิร์ดยัน บาบิช, เนมานย่า อันโตนอฟ - ซาซ่า ซเดล่าร์, เนมานย่า มักซิโมวิช - อันดริย่า ซิฟโควิช, เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช, อิวาน ซาปอนยิช - สตานิซ่า มานดิช
        เทรนเนอร์ : เวลจ์โก้ เพาโนวิช

        ผู้ตัดสิน : ฟาฮัด อัล-เมียร์ดาซี่ (ซาอุดี อาระเบีย)