บัวขาว บัญชาเมฆ เดินทางกลับถึงเมืองไทยแล้วหลังจากที่เดินทางออกไปทำศึกท็อปคิงส์ เวิลด์ ซีรีส์ 2015 ณ เวทีมวยสตาร์ฮอลล์ เมืองเกาลูน เกาะฮ่องกง ในนัดชิงชนะเลิศ แพ้ คาห์ยาน ซาเยฟ นักชกจากรัสเซีย ไปอย่างบอบช้ำบาดเจ็บถึง 4 แผล เย็บถึง 19 เข็ม โดยมีนักศึกษาและอาจารย์จาก ม.รัตนบัณฑิต สถาบันที่กำลังศึกษาอยู่พร้อมทั้งกลุ่มแฟนคลับให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เจ้าตัวเผยการชกครั้งนี้ถือว่าร่างกายเจ็บและบอบช้ำที่สุดในชีวิตการชกมวย พร้อมทั้งยืนยันยังไม่คิดที่จะแขวนนวม สภาพร่างกายยังไหว พร้อมที่จะสู้ต่อ

ความเคลื่อนไหว "ดำดอทคอม" บัวขาว บัญชาเมฆ นักชกขวัญใจชาวไทยหลังจากที่เดินทางไปทำศึกท็อปคิงส์ เวิลด์ ซีรีส์ 2015 ณ เวทีมวยสตาร์ฮอลล์ เมืองเกาลูน เกาะฮ่องกง เมื่อวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 นัดชิงชนะเลิลศ แล้วพลิกล็อกพ่าย คาห์ยาน ซาเยฟ นักชกจากรัสเซีย ไปอย่างบอบช้ำแบบเลือดท่วมทั้งคู่ โดยเฉพาะบัวขาวบาดเจ็บเละเทะถึง 4 แผล จนทีมงานต้องเร่งนำส่งโรงพยายาบาลหลังจากที่ชกเสร็จ ขณะที่คู่ชก คาร์ยาน ซาเยฟ ก็ไม่สามารถที่จะชกต่อในรอบชิงชนะเลิศได้เนื่องจากบอกช้ำจนต้องขอยอมแพ้ทำให้แชมป์ต้องตกเป็นของ รีส แม็คคัลลิสเตอร์ นักมวยจากแดนผู้ดี อังกฤษ ไปโดยปริยาย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 58 ที่ผ่านมา เวลา 17.00 น. บัวขาว บัญชาเมฆ ได้เดินทางมาถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG629 พร้อมกับบาดแผลและร่องรอยการต่อสู้ทั้งหมด 4 แผล ที่เย็บมาถึง 19 เข็ม ซึ่งเจ้าตัวก็มีใบหน้ายิ้มแย้ม โดยมีนักศึกษาและอาจารย์จาก ม.รัตนบัณฑิต ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่บัวขาวกำลังศึกษาอยู่มาให้การต้อนรับและบูมเพื่อเป็นการให้กำลังใจ พร้อมมีแฟนคลับรวมถึงญาติสนิทเดินทางมาต้อนรับ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง ก่อนที่บัวขาวจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวความพ่ายแพ้ในศึกท็อปคิงส์ เวิลด์ ซีรีส์ 2015 ที่ฮ่องกง ว่า

"อย่างที่เราได้รู้และได้เห็นว่ามวยไทยทุกวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่คนไทยที่เก่งเสมอไป ทุกวันนี้นักชกต่างชาติก็เริ่มที่จะพัฒนาและสู้กับเราได้อย่างไม่เป็นรอง การต่อสู้แน่นอนว่าย่อมมีฝ่ายแพ้ชนะ ผมแพ้ครั้งนี้ทำให้ทุกคนได้เห็นว่าทุกวันนี้มวยไทยไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป ไม่ใช่เพียงแค่คนไทยที่เก่งเสมอไป แต่คู่ต่อสู้ที่จะชกกับเราล้วนแล้วแต่มีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ถ้าเราซ้อมหรือไม่ฟิตก็ทำให้แพ้ได้ สำหรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ตนก็ทำเต็มที่และสู้สุดความสามารถแล้ว ต้องยอมรับว่าคู่ชกแข็งแกร่งจริงๆ การชกครั้งนี้ถือว่าเจ็บและบอบช้ำมากที่สุดในชีวิตการชกมวยมา ส่วนเรื่องของอนาคตไม่มีปัญหายังแรงเหมือนเดิม ยืนยันร่างกายตัวเองยังไหวยังไม่คิดที่จะแขวนนวมอย่างแน่นอน ยังพร้อมที่จะสู้ต่อและทำหน้าที่ชกมวยต่อไป จากนี้คงต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูสภาพร่างกายอีกสักระยะ รับรองอีกไม่นานได้โชว์ฝีมือให้กับแฟนหมัดแฟนมวยได้ดูและได้ชมกันอีกอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องของฟอร์มการชก 2-3 ไฟต์หลังที่ดูดร็อปลงไปอาจเนื่องมาจากการร้างเวทีไปนาน และฟิตซ้อมไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าที่ควร แต่หลังจากนี้จะปรับปรุงตัวให้ดีกว่านี้เพื่อการชกในไฟต์ต่อๆ ไป"

นอกจากนั้นบัวขาวยังกล่าวถึงรายการชกในไฟต์ต่อไปและงานของตัวเองว่า "ในช่วงของการฟื้นฟูสภาพร่างกายคงต้องดูธุรกิจค่ายมวยบัญชาเมฆควบคู่กันไปกับการเตรียมตัวกลับมาฟิตซ้อมเพื่อให้ร่างการสมบูรณ์ ตอนนี้ได้เซ็นสัญญากับคุนหลุน โปรโมชั่น ของจีนแล้ว เพื่อชกในช่วงปลายปีนี้ที่จีน ตอนนี้คงต้องดูทางโปรโมเตอร์และสภาพร่างกายของตัวเองว่าจะกลับมาพร้อมชกตอนไหน และแน่นอนยังต้องการที่จะล้างตากับ คาห์ยาน ซาเยฟ อีกหากมีโอกาส ส่วนเรื่องของงานอื่นๆ นอกจากการชกมวยและเปิดโรงเรียนสอนศิลปะมวยไทยที่ค่ายมวยบัญชาเมฆแล้ว ยังมีงานถ่ายภาพยนตร์นายทองดีฟันขาว (THONGDEE THE WARRIOR) ซึ่งจะเปิดกล้องถ่ายทำช่วงเดือนตุลาคมนี้ด้วย" บัวขาว กล่าว