เคราร์โด้ มาร์ติโน่ นายใหญ่ทีมชาติอาร์เจนตินา มั่นใจ ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอกซูเปอร์สตาร์ จะทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ "ฟ้า-ขาว" ที่ปัจจุบันเป็นของ กาเบรียล บาติสตูต้า ได้แน่นอน พร้อมเผย สาเหตุที่ไม่ส่ง เมสซี่ ลงเป็นตัวจริงในเกมอุ่นเกือกนัดไล่ต้อน โบลิเวีย 7-0 เป็นเพราะไม่อยากให้แข้งวัย 28 ปี กรำศึกหนักเกินไป หลังที่ผ่านมาลงเล่นไปแล้วหลายนัด

เคราร์โด้ มาร์ติโน่ เทรนเนอร์ทีมชาติอาร์เจนตินา แสดงความเชื่อมั่นว่า ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าคนเก่ง จะกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีม โดยที่ทำลายสถิติเดิมที่เป็นของ กาเบรียล บาติสตูต้า ตำนานดาวยิงเท้าหนัก ได้อย่างแน่นอน หลังจากที่ล่าสุด เมสซี่ ทำไป 2 ประตู ในเกมอุ่นเครื่องนัดที่ทัพ "ฟ้า-ขาว" ไล่ถล่ม โบลิเวีย 7-0 เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา (เช้าวันเสาร์ที่ 5 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย)

การทำได้ 2 ลูกในนัดล่าสุดทั้งที่เป็นตัวสำรอง ส่งผลให้ เมสซี่ เพิ่มสถิติการทำประตูให้บ้านเกิดเป็น 48 ลูก ตามหลังสถิติของ บาติสตูต่า อยู่เพียง 8 ประตูเท่านั้น และดาวยิงจากค่าย บาร์เซโลน่า ยังเล่นได้อีกนานด้วย จากการที่ตอนนี้มีอายุ 28 ปี

มาร์ติโน่ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "ผมมั่นใจว่า เลโอ จะไล่ตามสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมที่เป็นของ บาติสตูต้า ในฐานะดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมได้ เขาเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว"

กุนซือวัย 52 ปี เสริมว่าสาเหตุที่ไม่ส่ง เมสซี่ ลงเป็นตัวจริงในเกมกับ โบลิเวีย นั้น เป็นเพราะไม่ต้องการทำให้ซูเปอร์สตาร์ของทีมล้าจนเกินไป "การที่ผู้คนซึ่งซื้อตั๋วเข้ามาชมเกม และฝ่ายจัดการแข่งขันอยากเห็น เมสซี่ ลงเล่น (เป็นตัวจริง) ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่เราต้องคิดด้วยความระมัดระวัง เพราะที่ผ่านมาเขาลงเล่นหลายนัด โชคดีที่เขาโชว์ฟอร์มได้คุ้มค่าตั๋วในระยะเวลาสั้นๆ"