ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัด 11

วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2558

เชลซี - ลิเวอร์พูล

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ถ่ายทอดสด : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 4, PPTV HD (เวลา 19.45 น.)

          เชลซี ของ โชเซ่ มูรินโญ่ บุกไปโดน เวสต์ แฮม อัด 1-2 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ทีมหล่นมาอยู่อันดับ 15 ของตาราง แล้วก็ไม่แน่ว่าถ้าเกมนี้แพ้อีก มูรินโญ่ อาจจะโดนไล่ออกได้ทันที

          กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมสิงโตน้ำเงินครามยังบู่ไม่เลิกขนาดใช้ทีมชุดแกร่งลงเล่นยังออกไปแพ้ สโต๊ค ช่วงยิงจุดโทษ ตกรอบ แคปิตอล วัน คัพ ไปแล้ว

          ความพร้อมเกมนี้ทีมต้องรอเช็กอาการ ดิเอโก้ คอสต้า ที่เจ็บซี่โครงโดนเปลี่ยนตัวออกในเกมบอลถ้วย ถ้าไม่ไหว โลอิค เรมี่ จะยืนกองหน้าแทน

          ด้าน เปโดร โรดริเกซ เองก็ต้องรอเช็กความฟิตอีกราย ฟาก บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และ ติโบ กูร์กตัวส์ เองก็ยังมีอาการเจ็บค้างอยู่วืดแน่นอน

          แต่อย่างน้อยพวกเขาจะได้ เนมันย่า มาติช พ้นโทษแบนกลับมา รวมไปถึงเรียกเอาแข้งหลักที่พักไว้ในเกมบอลถ้วยกลับมาคืนตัวจริงทั้ง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ เชส ฟาเบรกาส

          ขณะที่ดาราเด่นในทีมรายอื่นๆ อย่าง จอห์น เทอร์รี่ , แกรี่ เคฮิลล์ , รามิเรส , วิลเลี่ยน และ เอเดน อาซาร์ ยังอยู่กันครบ

          เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล นำทีมเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 ในบ้าน เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ทีมเสมอ 3 เกมซ้อนในพรีเมียร์ ลีก

          ทีมหงส์แดงขนสำรองลงเล่นแทบจะยกชุดแล้วก็เฉือน บอร์นมัธ 1-0 ในเกม แคปิตอล วัน คัพ กลางสัปดาห์ ทำให้ คลอปป์ ชนะเกมแรกในการคุมทีมจนได้

          สภาพทีมนั้นจะได้ คริสติยอง เบนเตเก้ หายเจ็บเข่ากลับมาคืนตัวจริงได้ หลังได้พักมาในเกมกลางสัปดาห์ โดยจะประสานงานแนวรุกกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ฟอร์มเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

          รายของ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เองก็ยังเจ็บเข่าอยู่เหมือนเดิม ยังไม่ได้ลงเล่นเลยตั้งแต่ คลอปป์ เข้ามาคุมทีม

          ล่าสุดทีมเสีย โคโล่ ตูเร่ ที่เดี้ยงไปอีกรายจากเกมกับ บอร์นมัธ แต่ก็คงจะไม่ได้ลงเล่นอยู่แล้วในเกมนี้ รวมไปถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมก็ยังเจ็บเท้าต้องพักอีกเป็นเดือน

          ทีมหงส์แดงยังได้ เจมส์ มิลเนอร์ พ้นโทษแบนกลับมาคุมแดนกลาง พร้อมทั้งจะเรียกเอาแข้งหลักที่พักไว้ในเกมบอลถ้วยกลับมาคืนตัวจริงกันยก แก๊งไล่จาก ซิมง มิโยเล่ต์ , อัลเบร์โต้ โมเรโน่ , มามาดู ซาโก้ , มาร์ติน สเกอร์เทล , เอมเร่ ชาน และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
          เชลซี : แอสเมียร์ เบโกวิช - เคิร์ต ซูม่า , แกรี่ เคฮิลล์ , จอห์น เทอร์รี่ , เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - เนมันย่า มาติช , รามิเรส - วิลเลี่ยน , เชส ฟาเบรกาส , เอเดน อาซาร์ - ดิเอโก้ คอสต้า

          ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโยเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์ , มาร์ติน สเกอร์เทล , มามาดู ซาโก้ , อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - ลูคัส เลว่า , เจมส์ มิลเนอร์ , เอมเร่ ชาน , โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ , ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - คริสติยอง เบนเตเก้

ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคลทเท่นเบิร์ก

เกร็ดน่ารู้

          - เชลซี ไม่แพ้เลยตลอด 8 นัดหลังสุดทั้งในลีก และบอลถ้วยที่พบ ลิเวอร์พูล
          - หงส์แดงคว้าชัยเหนือ เชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ 3 นัดติดต่อกันในรอบปี 2011 แต่พวกเขาก็ไม่เคยเอาชนะได้เลยนับแต่นั้น
          - เชลซี คว้าชัยได้เพียงเกมเดียวจาก 7 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ
          - สิงห์บลูส์เสียไป 19 ประตูในพรีเมียร์ลีกปีนี้ โดยมีเพียง นอริช (21), บอร์นมัธ และ นิวคาสเซิ่ล (22) ที่มีสถิติแย่กว่า
          - เชลซี เก็บไป 11 แต้ม จาก 10 เกมในพรีเมียร์ลีก ซึ่งถือเป็นการออกสตาร์ทฤดูกาลแย่ที่สุดของพวกเขาในพรีเมียร์ลีก และยังเป็นแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกที่ผลงานแย่ที่สุดเท่ากับ แบล็คเบิร์น ในปี 1995-96
          - เชส ฟาเบรกาส มีสถิติหนึ่งแอสซิสต์ จาก 10 นัดที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ทั้งที่เขาทำได้ถึง 9 ครั้ง จาก 10 เกมแรกของซีซั่นที่แล้ว
          - โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีมแพ้ถึง 6 จาก 12 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก หลังจากที่แพ้เพียง 6 จาก 64 เกมก่อนหน้านั้น
          - ลิเวอร์พูล เสมอมาตลอด 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขามีสถิติเสมอ 4 นัดติดเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2007 ถึง มกราคม 2008
          - หงส์แดงเอาชนะได้เพียงเกมเดียวจาก 10 นัดเยือนหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 5 แพ้ 4) ซึ่งนั่นเป็นชัยชนะเหนือ สโต๊ค ในเกมเปิดฤดูกาลนี้
          - คริสติย็อง เบนเตเก้ โหม่งไป 14 ประตูในพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่สิงหาคม 2012 ซึ่งเป็นสถิติมากที่สุดในลีก (เท่ากับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์)