อดีตประธานฟีฟ่าที่เพิ่งถูกสั่งแบน 8 ปี จะยื่นเรื่องไปที่ศาลกีฬาโลก รวมถึงศาลสวิส เพื่อล้างมลทินให้ตัวเองให้ได้

เซปป์ แบล็ตเตอร์ อดีตประธานฟีฟ่า ยืนยันว่าตนไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกตัดสินจากคณะกรรมการจริยธรรมฯ ตัดสินลงโทษแบนและปรับเงินแต่อย่างใด

หลังดำเนินการสืบสวนมาระยะเวลาหนึ่ง องค์คณะตัดสินข้อพิพาท แห่งคณะกรรมการอิสระด้านจริยธรรมของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ก็ได้ตัดสินแบน เซปป์ แบล็ตเตอร์ และ มิเชล พลาตินี จากกิจกรรมทางฟุตบอลเป็นเวลา 8 ปี จากกรณีทุจริตทางการเงิน

โดยแถลงการณ์ของคณะกรรมการฯ ระบุว่า ความผิดของทั้งคู่ มาจากการที่ฟีฟ่าจ่ายเงิน 2,000,000 ฟรังก์สวิส ในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ให้กับพลาตินีโดยไม่สามารถชี้แจงตามระเบียบได้ว่าเป็นเงินค่าอะไร และคำให้การของทั้งสองต่อองค์คณะสืบสวนก็ถือว่าฟังไม่ขึ้น โดยนอกจากโทษแบน แบล็ตเตอร์ยังถูกสั่งปรับเป็นเงิน 50,000 ฟรังก์สวิส ส่วนพลาตินี ถูกสั่งปรับเป็นเงิน 80,000 ฟรังก์สวิส และจะทำให้พลาตินีหมดสิทธิ์ลงรับเลือกตั้งประธานฟีฟ่าในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ทันที

ซึ่งหลังคำตัดสินออกมาไม่นาน แบล็ตเตอร์ก็จัดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที

"ผมถูกแบนแปดปี เรื่องอะไรล่ะ?" แบล็ตเตอร์กล่าว

"เรามีสัญญาปากเปล่าหรือเรียกอีกอย่างว่าสัญญาสุภาพบุรุษ สัญญานี้ทำกันไว้ในปี 1998 ที่ฝรั่งเศส หลังจบฟุตบอลโลกไม่นาน ตอนนั้นคุณพลาตินีบอกผมว่าอยากทำงานให้กับฟีฟ่า ผมตอบว่าเยี่ยมเลย เขาบอกว่าเขาต้องการ 1 ล้านฟรังก์สวิส ผมบอก โอเค เขาจ่ายคุณตอนนี้ส่วนหนึ่ง แล้วอีกส่วนไว้ทีหลังนะ

"เรื่องที่คณะกรรมการจริยธรรมฟีฟ่าทำให้ผมตะลึงไปเลยคือพวกเขาไม่ยอมรับ พำวกเขาไม่ยอมรับว่ามีข้อตกลงนี้อยู่

"มีการยืนยันโดยทางอ้อมในการประชุมคณะกรรมการบริหารยูฟาสองครั้ง ครั้งหนึ่งในสวีเดน อีกครั้งในซูริค ปี 1998

"เรามีหลักฐานเลยว่าข้อตกลงนี้ไม่ได้มีแต่ผมกับพลาตินีรู้กันสองคน"

นอกจากนี้ แบล็ตเตอร์ยังเปิดเผยว่าจะขอสู้โดยยื่นฟ้องต่อศาลกีฬาโลก รวมไปถึงศาลสวิตเซอร์แลนด์

"ผมและทนายจะขอเดินหน้าในกระบวนการยุติธรรมกีฬา เราจะร้องเรียนคณะกรรมการต่อศาลกีฬาโลก และเราจะไปที่ศาลสวิสด้วย

"ภายใต้กฎหมายสวิส การจะถูกแบนแปดปี คุณต้องทำความผิดที่สำคัญมาก ๆ

"พวกเขาก็คงจะบอกว่า 'ถ้าข้อตกลงนี้มีอยู่จริง คุณก็ควรบันทึกเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษร' ตรงนั้นผมเห็นด้วย แต่นี่คือเรื่องการจัดการและดำเนินการทางการเงิน มันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับจริยธรรม

"คำตัดสินสร้างความเสียหายมากมาย ไม่ใช่แค่เพียงในฟีฟ่า ครอบครัวผมถูกเย้ยหยัน ลูกสาวผมและเพื่อน ๆ ของพวกเขาก็ถูกล้อ หมู่บ้านผมอยู่ในภาวะวิกฤต

"คนอย่างผมยึดมั่นในหลักการ ผมขอย้ำ ผมไม่เคยเอาเงินที่ไม่ใช่ของตัวเองไปใช้หนี้ แล้วนี่มากล่าวหาว่าผมซื้อเสียงเลือกตั้งประธานฟีฟ่าปี 2011 ผ่านพลาตินี ไม่ใช่เลย"

"คุณประณามใครโดยไม่มีเหตุผลชัดเจนไม่ได้ ตอนนี้ผมถุูกแบน คุณพลาตินีก็ด้วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจบลงแล้ว"