''ยิม'' วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เป็นปลื้มกระทบไหล่ดาวดังระดับโลกแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง ชินจิ คางาวะ ที่ปัจจุบันเล่นให้กับ ''เสือเหลือง'' ดอร์ทมุนด์ ในเยอรมนี พร้อมได้ประลองฝีเท้าแบบตัวต่อตัว ''ยิม'' เผยสุดคุ้มกับการมาทดสอบฝีเท้าครั้งนี้ ได้เทคนิคกลับไปปรับใช้อีกเพียบ ขณะที่ ชินจิ คางาวะ แนะนำให้หาเอกลักษณ์เฉพาะตัวหากอยากก้าวไปเป็นยอดนักเตะในอนาคต

สืบเนื่องจากการมาทดสอบฝีเท้าของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ กองกลางดาวรุ่งจากค่ายชลบุรี เอฟซี ที่สโมสรเอฟซี โตเกียว ทีมอันดับที่ 4 ของเจลีกปีล่าสุด โดยเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนถึงกำหนดเดินทางกลับไทยนั้น ทางตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นได้พากัปตันทีมทีชาติไทยชุดยู-19 ไปพบกับนักเตะซูเปอร์สตาร์ระดับโลกของทีมชาติญี่ปุ่นอย่าง ชินจิ คางาวะ ที่อดีตเคยค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมขวัญใจมหาชนจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และปัจจุบันค้าแข้งกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมรองจ่าฝูงของบุนเดสลีกา ลีกสูงสุดของเยอรมัน โดยที่ทางทีมงานได้เปิดโอกาสให้กับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ได้พูดคุยไต่ถามและประลองฝีเท้ากับ ชินจิ คางาวะ อีกด้วย

ด้าน "ยิม-วรชิต" ได้แนะนำตัวเองพร้อมกับบอกว่ามาจากสโมสรฟุตบอลชลบุรี เอฟซี ในไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งคางาวะเองตอบกลับมาว่าเขาเองก็เคยได้ยินชื่อและก็รู้จักกับจ.ชลบุรี และพัทยาของไทย

หลังจากนั้นกัปตันทีมยู-19 ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าการมาญี่ปุ่นครั้งนี้เพื่อทำการทดสอบฝีเท้ากับเอฟซี โตเกียว และถามอดีตซูเปอร์สตาร์ของผีแดงว่า เขาคิดว่าเจลีกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งชินจิก็ตอบกลับมาว่าตัวเขาเองก็เกิดขึ้นมาได้จากเจลีก และก็พัฒนาและไต่เต้าไปจนกลายเป็นนักเตะที่ไปค้าแข้งระดับโลกได้ และก็ถามวรชิตกลับมาว่ามั่นใจมั้ยว่าจะสามารถเล่นในเจลีกได้ ซึ่งวรชิตก็เผยว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะพิสูจน์ตัวเอง จากนั้นทั้งคู่จึงได้ลองดวลฝีเท้ากันแบบตัวต่อตัว ก่อนที่ ชินจิ คางาวะ จะเซ็นเสื้อทีมชาติญี่ปุ่นที่เป็นชื่อตัวเขาเอง และก็มอบเป็นที่ระลึกให้กับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ

นอกจากนี้แล้วดาวเตะซูเปอร์สตาร์ของญี่ปุ่น ชินจิ คางาวะ ได้กล่าวแนะนำเจ้ายิมเพิ่มเติมว่า หากอยากเป็นนักเตะที่ดีและเก่งต้องพยายามหาจุดเด่นของตัวเองเพื่อที่จะได้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการค้าแข้งต่อไปในอนาคต

ทางด้าน "เจ้ายิม" วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ได้กล่าวถึงการมีโอกาสได้พบกับ ชินจิ คางาวะว่า "รู้สึกตื่นเต้นมากครับ คางาวะเป็นคนที่เก่ง เก่งจริงๆ ก็สมแล้วที่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์ของญี่ปุ่น และก็ได้ไปเล่นระดับโลก เขาเป็นคนสุดยอดมากครับ พอได้พูดคุย เขาก็ไม่หยิ่ง และดูเฟรนด์ลี่เป็นกันเองมากครับ"

นอกจากนี้ยิมยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการมาที่ญี่ปุ่นครั้งนี้ถือว่าคุ้มมาก สำหรับตนเองนอกจากจะได้ทดสอบฝีเท้ากับทีมชุดใหญ่ของเอฟซี โตเกียว ได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างเพิ่มมากมาย และยังมีโอกาสได้เจอกับนักเตะระดับโลกอย่าง ชินจิ คางาวะ ได้ประลองฝีเท้ากันอีกด้วย ก็จะนำทักษะและเทคนิคการฝึกที่เอฟซี โตเกียว และการแนะนำของ ชินจิ คางาวะ ไปปรับใช้เพิ่มเติมหลังจากที่กลับไปที่ประเทศไทย

ซึ่งหลังจากที่เดินทางกลับไปที่ประเทศไทยในวันที่ 24  ธ.ค.นี้ ก็จะเดินทางไปร่วมสมทบกับทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่กำลังเก็บตัวที่กิเลน วัลเล่ย์ เขาใหญ่ เพื่อเตรียมแข่งขันในรายการชิงแชมป์เอเชียเพื่อคัดเลือกไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิลอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ชินจิ คางาวะ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อสยามกีฬาเพิ่มเติมถึงผลงานของตัวเองว่า "สำหรับการเล่นในดอร์ทมุนด์ ที่พึ่งมีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่ บทบาทการเล่นก็เปลี่ยนไป มาเล่นในตำแหน่งที่ถนัดมากขึ้น เหมือนกับสมัยที่เล่นให้กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งในฤดูกาลนี้ต้องตั้งใจมากขึ้น และในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังก็อยากที่จะช่วยทีมเก็บชัยชนะให้ได้ทุกแมตช์ โดยเฉพาะกับการเจอกับบาเยิร์น มิวนิค"

"ส่วนในระดับทีมชาติ ฟุตบอลโลกที่บราซิลทุกคนรู้สึกผิดหวังมาก ทำให้เวิลด์ คัพ ที่รัสเซียต้องจริงจังมากขึ้น เพื่อให้ทีมชาติญี่ปุ่นมีความแข็งแกร่งและทำผลงานได้ดี และสำหรับอนาคตของตนเองก็อยากที่จะเล่นฟุตบอลในระดับที่สูงต่อไปเรื่อยๆ ในทีมที่ใหญ่ขึ้น และมีโอกาสคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้คนทั่วโลกนั้นจดจำได้"

สำหรับกำหนดการเดินทางกลับของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ จะออกเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นในช่วงเช้าของวันที่ 23 ธ.ค. โดยสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ JL 031 และเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย