ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » "ช้างศึก"กรุยทางไปอลป.ที่บราซิล....รอบแรก 5 แต้ม จะเพียงพอหรือไม่?

"ช้างศึก"กรุยทางไปอลป.ที่บราซิล....รอบแรก 5 แต้ม จะเพียงพอหรือไม่?

Posted 02/01/2016 by siamsport

 

นับถอยหลังกระทั่งถึงปัจจุบันปี 2015 เป็นระยะเวลากว่า 47 ปี ที่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยห่างหายจากการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิก กีฬาที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ ซึ่งกีฬาฟุตบอลถือว่าเป็นรองเพียงน้องๆ ฟุตบอลโลกเท่านั้น

การแข่งขันหรือเข้าร่วมของทีมฟุตบอลจากแดนสยาม ที่ผ่านมาเคยได้เข้าไปสัมผัสรายการระดับโลกเพียงสองหนเท่านั้นเมื่อนานมาแล้วอย่างที่เอ่ยเอาไว้ข้างต้น

ครั้งแรกของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย กับการแข่งขันรายการฟุตบอลโอลิมปิก เกิดขึ้นในการแข่งขันครั้งที่ 16 ปี ค.ศ. 1956 หรือ พ.ศ. 2499 ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ส่วนครั้งที่สองสำหรับฟุตบอลโอลิมปิกของไทย เป็นการแข่งขันในครั้งที่ 19 ค.ศ. 1968 หรือ พ.ศ. 2511 ณ เม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก

โดยที่ทั้งสองครั้งหากนับกันว่าเป็นการแข่งขันรอบสุดท้าย ก็ต้องบอกว่าทีมชาติไทยไม่สามารถผ่านเขาไปเล่นในรอบต่อไปได้เลย และยังไม่สามารถที่จะเอาชนะทีมใดได้ด้วย การผ่านไปเล่นมหกรรมกีฬาโอลิมปิกไทยทั้งสองหน ยิงได้เพียงแค่ประตูเดียว และเสียประตูรวมทั้งสิ้น 28 ประตู

มาถึงยุคปัจจุบันที่ทีมชาติไทยกำลังเดินหน้าด้วยพลังศรัทธา ขวัญกำลังใจจากแฟนบอลที่ดีเยี่ยม และความสำเร็จที่ตามมาให้แฟนบอลชาวไทยได้ชื่นชม ซึ่งทีมชาติไทยกวาดมาทุกชุดในระดับอาเซียน ไม่ว่าจะเยาวชนชุด 16 และ 19 ปี ชุดซีเกมส์ หรือแม้กระทั่งชุดใหญ่ซูซูกิ คัพ หรือจะระดับเอเชียอย่างเอเชียนเกมส์ ที่อายุไม่เกิน 23 ปี เราก็ซิวอันดับ 4 แล้ว จนทำให้ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ก้าวกลับมายึดเบอร์ 1 ในย่านอาเซียนอีกครั้งได้อย่างสง่างาม

จากนี้ไปคือบทพิสูจน์ของทัพช้างศึกของไทยในสเต็ปต่อไปคือระดับเอเชียกันแล้วในทุกระดับอายุชุดแข่งขัน ไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตาม และรายการที่จ่อรอใกล้เข้ามามากที่สุดคือการแข่งขัน รายการศึก ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศกาตาร์ ในระหว่างวันที่ 12-30 ม.ค. 2559

รายการนี้จะหา 3 ทีม เข้าไปเล่นในฟุตบอลโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล ซึ่งทัพ "ช้างศึก" อยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับซาอุดีอาระเบีย, ญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือ โดยมีคิวลงสนามรอบแรก 13 ม.ค. 59 พบซาอุดีอาระเบีย, 16 ม.ค. 59 พบ ญี่ปุ่น และ 19 ม.ค. 59  พบ เกาหลีเหนือ ทั้งหมดแข่งขันที่สนามแกรนด์ ฮาหมัด สเตเดี้ยม กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์

นี่คืออีกบทหนึ่งของเส้นทางที่จะพิสูจน์ความสามารถของทัพแข้งไทยอย่างแท้จริง เนื่องจากผู้เล่นชุดนี้ก็คืออนาคตของทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต ดังนั้นหากว่าแข้งช้างศึกชุดนี้สามารถต่อกรกับทีมที่ถูกยกว่าชั้นนำทั้งสามทีมร่วมสายได้อย่างไม่เป็นรอง และผ่านเข้ารอบต่อไป หรือกระทั่งเป็นตัวแทนไปเล่นฟุตบอลโอลิมปิกได้...นั่นคือเราได้ก้าวผ่านอาเซียนอย่างแท้จริง!!!

ทว่าเส้นทางคงไม่ง่ายโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่แท้ เพราะคู่แข่งขันทุกทีมก็หมายมั่นปั้นมือไม่ต่างจากทีมชาติไทยเช่นกัน ที่จะผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายให้ได้ ดังนั้นทุกนัดทุกเกมจึงเป็นงานที่หินและยากมาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว

ภายใต้การทำงนหนักของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชที่พยายามทุ่มเทอย่างเต็มที่ ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ นานา รวมถึงนักเตะที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเป้าหมายที่ทุกคนหวัง แม้จะยากสักแค่ไหนก็ตาม

การมองทีละสเต็ปไม่ประมาททีมคู่แข่ง ที่พวกเขายกให้ว่าเหนือทีมชาติไทย คือกำลังเสริมให้ทุกคนมีความกระหายและฮึกเหิม ซึ่ง "ซิโก้" เคยเอ่ยเอาไว้ว่า "ใครจะมองว่าเราเป็รทีมรองบ่อนหรือม้ามืดนั่นคือเรื่องดี เพราะเราจะไม่กดดัน และเป็นงานที่ท้าทาย งานแบบนี้พี่โก้ชอบ"

การผ่านรอบแรกหักด้านคู่แข่งอย่างซาอุดีอาระเบีย, ญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือ ไม่ใช่งานที่ง่าย แต่ทุกคนต้องมีความหวังและความฝันเพื่อทำงานหนักไต่ขึ้นไปให้ถึงเป้า โดยที่ทั้งซิโก้ และ "กัปตันเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต่างมองไปในทิศทางเดียวกันคือการผ่านรอบแรกให้ได้ด้วยการมี 5 แต้ม


    
5 แต้ม ที่ทัพช้างศึกทีมชาติไทยจะได้นั้น...มาจากไหน ?

จากความคาดหวังของทางซิโก้ กุนซือทัพช้างศึก เคยเอ่ยให้สัมภาษณ์เอาไว้ หากจะต้องเก็บ 5 แต้ม นั่นคือการน็อกซาอุดีอาระเบียลงให้ได้ และตามด้วยการเสมอกับญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือ ซึ่งจะทำให้ทีมชาติไทยมี 5 คะแนน ตามเป้าหมาย โดยที่ลึกๆ ว่ากับซาอุฯ สามารถที่จะน็อกหรือสู้ได้แน่ ส่วนญี่ปุ่นหรือเกาหลีเหนือ ที่เคยเจอกันมาบ้างแล้วก็มีวิธีการรับมือ เพียงทว่านักเตะขอให้ทุ่มเทซ้อมและเล่นตามแท็กติกที่วางเอาไว้ ก็ไม่ต้องกลัวทีมไหนเช่นกัน

ฝั่ง "กัปตันเจ" ก็มีความเห็นที่ไม่ต่างกันออกไป การจะเข้ารอบต่อไปเพื่อกรุยทางสู่โอลิมปิกรอบสุดท้าย ชนาธิป สรงกระสินธ์ มองเอาไว้ที่ 5 แต้ม เช่นกัน และเห็นไม่ต่างกับซิโก้ คือการประเดิมเอากฤษ์เอาชัยกับการเก็บสามแต้จากซาอุดีอาระเบีย แต่อีกมุมที่เห็นต่างทางคือ ลึกๆ แล้วกับทีมไหนก็ได้ขอให้ชนะเท่านั้น และหากเป็นไปได้ก็อยากที่จะชนะทั้งสามทีมด้วยซ้ำ เพื่อจะได้เป็นการประกาศให้รู้ว่าทีมชาติไทยก็ไม่ได้เป็นรองทีมใดเช่นกัน แต่ก็รู้ว่าเป็นเรื่องที่ยาก ทว่าทุกคนก็พร้อมสู้จนสิ้นเสียงนกหวีดแน่นอน

หลากหลายมุมมองถึงโอกาสของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยที่จะลุ้นไปเล่นโอลิมปิกแดนกาแฟให้ได้ แน่นอนว่าพวกเขาวางเอาไว้ที่ 5 แต้ม ซึ่งยังไม่สามารถจะการันตีว่าจะทำได้หรือไม่ และเพียงพอต่อการเข้ารอบต่อไปหรือไม่...แต่เชื่อว่าจะกี่แต้มก็ตามเมื่อทีมชาติไทยลงสนาม แฟนบอลชาวไทย คนไทยทั้งประเทศก็พร้อมส่กำลังใจและเชียร์ทีมชาติไทยอย่างแน่นอน...ช้างศึกสู้ๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »