ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

      วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2559

      เซาธ์แฮมป์ตัน - เชลซี

ถ่ายทอดสด : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 4

  
         "นักบุญแดนใต้" เซาธ์แฮมป์ตัน ผลงานบรรเจิดเสียนี่กระไร ไม่แพ้ติดต่อกันมา 6 นัดหลัง (ชนะ 5 เสมอ 1) และสำคัญไปกว่านั้นคือไม่เสียประตูหรือคลีนชีตได้ทั้งหมดทุกเกมนับตั้งแต่ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ นายทวารมือหนึ่ง หายจากอาการเจ็บยาวกลับมาลงเฝ้าเสาได้

          สถานการณ์บนตารางคะแนนพุ่งพรวดขึ้นมาอยู่ที่ 6 หลังจากเพิ่งต้นปีที่ร่วงไปถึงอันดับ 13 โดยตอนนี้ นักบุญตามที่ห้าอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด แค่คะแนนเดียว และห่างพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่ 7 แต้ม ถือว่ายังไล่ทัน

         วิคเตอร์ วานยาม่า มิดฟิลด์ขาโหด ยังชดใช้โทษแบนจากการถูกไล่ออกหนที่สามของฤดูกาลในเกมชนะ เวสต์แฮม 1-0 แต่ โรนัลด์ คูมัน กุนซือชาวดัตช์ ก็คงไม่เสียดายอยู่แล้ว เพราะแดนกลางตอนนี้แน่นปึ้ก มีทั้ง โอริโอล โรเมอู, จอร์ดี้ คลาซี่ รวมถึง เจมส์ วอร์ด เพราส์ พร้อมเล่นแทน

         ช่วงหลัง คูมัน ยึดระบบหลังสามเป็นแผนแรก นำโดย โชเซ่ ฟอนเต้, เวอร์กิล ฟาน ไดค์ และ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ส่วน แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ กับ สตีเว่น เดวิส โดนจับเล่นวิงแบ็ก ขณะที่ยัดมิดฟิลด์ตรงกลางไว้ถึงสามคน

         เชน ลอง ปักหลักเป็นหน้าต่ำ ทิ้ง กราเซียโน่ เปลเล่ ยืนศูนย์หน้าเป้า แม้ว่ายังคลำเป้าไม่เจอตั้งแต่ยิงบอร์นมัธ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน รวมๆ แล้วก็สิบนัดในทุกรายการ
  
 
         ทางฝั่งของ "สิงห์บูลส์" เชลซี แม้ว่าเพลี่ยงพล้ำเป็นครั้งแรกแล้วในยุคของ กุส ฮิดดิ้งค์ ด้วยน้ำมือเปแอสเช ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ความพ่ายแพ้ 1-2 ที่ปารีส ก็ถูกแซนด์วิชด้วยผลงานชนะสกอร์ 5-1 เหนือนิวคาสเซิ่ล และล่าสุดถล่มเด็กแมนฯ ซิตี้ ในบอลถ้วยเอฟเอ คัพ

         อันดับในลีกแม้กระเตื้องค่อนข้างช้า แต่จบสุดสัปดาห์นี้ก็มีลุ้นขึ้นสู่ครึ่งบนของตารางถ้าผลการแข่งขันออกมาเป็นใจ

         สภาพทีมไม่มีปัญหาเจ็บเพิ่ม จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมวัยดึก มีโอกาสเล็กๆ ที่จะหายเจ็บกลับมา แต่คาดว่าฮิดดิ้งค์ ไม่น่าเสี่ยง รอให้สมบูรณ์เต็มร้อย เพราะยังมีเกมใหญ่อย่างการแก้มือปารีส แถมศึกเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองฯ กับ เอฟเวอร์ตัน

         แกรี่ เคฮิลล์ จะยังจับคู่กับ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ส่วนแดนกลาง เนมานย่า มาติช ยังส่อนั่งดูต่อ ปล่อยให้ จอห์น โอบี มิเคล ลงลุยกับ เชส ฟาเบรกาส

         แนวรุก เอแด็น อาซาร์ โชว์ฟอร์มเป็นพระเอกในนัดถล่มทีมเด็กของ แมนฯ ซิตี้ ด้วยการยิง 1 จ่าย 2 และเกมนี้จะนำทัพเป็นตัวริมเส้นด้านซ้าย ประสานงานกับ วิลเลี่ยน และ เปโดร โดยมี ดีเอโก้ คอสต้า ลุ้นกะซวกประตูที่ 11 ในลีก

        รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

         เซาธ์แฮมป์ตัน (3-5-1-1) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์, เวอร์กิล ฟาน ไดค์, โชเซ่ ฟอนเต้, ไรอัน เบอร์ทรานด์, สตีเว่น เดวิส, เจมส์ วอร์ด เพราส์, จอร์ดี้ คลาซี่, โอริโอล โรเมอู, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์, เชน ลอง, กราเซียโน่ เปลเล่
         ผู้จัดการทีม : โรนัลด์ คูมัน

         เชลซี (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, บาบา ราห์มัน, เชส ฟาเบรกาส, จอห์น โอบี มิเคล, เปโดร โรดริเกซ, วิลเลี่ยน, เอแด็น อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า
         ผู้จัดการทีม : กุส ฮิดดิ้งค์

         เกร็ดข้อมูลน่ารู้

         - เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่มีคลีนชีตเลยตลอด 11 นัดหลังสุดที่พบ เชลซี ในพรีเมียร์ลีก

         - เชลซี คว้าชัยได้ 4 และแพ้เพียงเกมเดียวจาก 7 นัดหลังสุดที่มาเยือนเซนต์ แมรี่ส์

         - ตลอด 3 นัดหลังสุดที่ทั้งสองทีมพบกันในพรีเมียร์ลีก มีการพังประตูกันในช่วง 20 นาทีแรก

         - เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นทีมที่ได้ประตูจากลูกโหม่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (11)

         - ดีเอโก้ คอสต้า ซัดไป 7 ประตูจาก 8 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก

         - นักบุญไม่เสียประตูในพรีเมียร์ลีกมา 9 ชั่วโมง 14 นาทีแล้ว

         - สิงห์บลูส์ไม่แพ้เลยตลอด 10 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 4 เสมอ 6)

         - โรนัลด์ คูมัน มีเปอร์เซ็นต์คุมทีมชนะมากที่สุดในบรรดากุนซือ เซาธ์แฮมป์ตัน ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก (45.3%)

         - กุส ฮิดดิ้งค์ แพ้เพียงเกมเดียวจาก 22 นัดในพรีเมียร์ลีกที่คุมทีม เชลซี (ชนะ 14 เสมอ 7 แพ้ 1)

         - ฮิดดิ้งค์ แพ้เพียง 2 จาก 9 นัดในเกมเอเรดิวิซี่ที่ต้องปะทะกับพี่น้องคูมัน (ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 กับโรนัลด์) (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1 กับเออร์วิน)