มาดูกันว่า 5 ประเด็นเด็ดที่เกิดขึ้นในเกมนี้ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปติดตามกันเลย

        1. ฝันร้ายของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

    การรีเทิร์นกลับบ้านครั้งแรกของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไม่เป็นที่ราบรื่นเอาซะเลย

    โดนแฟนบอล เดอะ ค็อป โห่ใส่ตลอดที่เจ้าตัวสัมผัสบอลยังไม่พอ แถมยังกลับบ้านใหม่ไปด้วยความพ่ายแพ้แบบยับเยินอีกด้วย

        2. มหัศจรรย์ ฟลานาแกน

    น่าเสียดายที่แข้งสเกาเซอร์รายนี้ ไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในนัดชิงฯ แคปปิตอล วัน คัพ

    เกมนี้ได้สวมบทแบ็กขวาแทน เนธาเนียล ไคลน์ ที่ถูกโยกไปเล่นทางฝั่งซ้าย และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม หยุดเพื่อนเก่าอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้อยู่หมัด ถือเป็นการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในลีกเกมแรกหลังผ่านไป 661 วันที่สุดเพอร์เฟคเลยทีเดียว

        3. มิลเนอร์ กับท่าดีใจสุดสะเด่า

    เจมส์ มิลเนอร์ ทำประตูได้อีกครั้งนับตั้งแต่นัดบุกถล่ม แอสตัน วิลล่า 6-0 แถมการใส่สกอร์ในลีกได้เป็นเม็ดที่ 5 เป็นการยิงใส่ทีมเก่าซะด้วย

    หลัง มิลเนอร์ กดประตูได้ เจ้าตัวสวมบทเป็นพ่อหนุ่มคาวบอยที่กำลังควงเชือกบ่วงบาศก์ และร่วมดีใจกับเพื่อนๆอย่างสะใจ

        4. เปเยฯ คิดอะไรอยู่?

    เหมือนว่าเกมนี้การแก้หมากของ มานูเอล เปเยกรินี่ จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมหันต์

    หลังโดนนำ 2-0 ในครึ่งแรก นายใหญ่ชาวชิลี ทำการแก้เกมด้วยการส่ง วิลฟรีด โบนี่ ลงมาแทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก่อนเริ่มเกมครึ่งหลัง และถอด เฟร์นานดินโญ่ ออกแล้วส่ง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงสนามหลังเวลาผ่านไป 10 นาทีเท่านั้น

    เพียงสองนาทีถัดจากนั้น แมนฯซิตี้ ก็โดนเม็ดที่ 3 พอดิบพอดี แถมตัวสำรองที่ส่งลงมา ก็ไม่ช่วยให้เกมรุกของ ซิตี้ ดีขึ้นแม้แต่น้อย

        5. เรือใบ อยากจบอันดับไหนกันแน่?

    อาจจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่า แมนฯซิตี้ หลุดจากวงโคจรลุ้นแชมป์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    หลังจากนี้สิ่งที่ ซิตี้ ควรพึงระวังนั่นคือจะโดนทีมไล่ตามตูดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, สโต๊ค ซิตี้, ลิเวอร์พูล หรือแม้กระทั่ง เชลซี ทำแต้มแซงหน้าไปได้

    หากลูกทีมของ เปเยกรินี่ ยังไม่ฟื้นจนทำให้ไม่ได้ไปร่วมสังคายนาถ้วย ยูซีแอล ในช่วงบั้นปลายละก็ ผลเสียตามมาอย่างแน่นอนในซีซั่นหน้าในมือของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า และเรื่องรายรับของสโมสร

        คะแนนความสามารถนักเตะโดย "เดอะ มิร์เรอร์"

        ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ (6) - จอน ฟลานาแกน (8), โคโล ตูเร่ (7), เดยัน ลอฟเรน (7), เนธาเนียล ไคลน์ (7) - เอ็มเร่ ชาน (7), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (8), เจมส์ มิลเนอร์ (9) - โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (7), ดิว็อก โอริกี้ (8), อดัม ลัลลาน่า (9)

    สำรองที่ลงสนาม : คริสติย็อง เบนเตเก้ น.69, โจ อัลเลน น.75, จอร์ดอน ไอบ์ น.88

        แมนฯซิตี้ : โจ ฮาร์ท (5) - ปาโบล ซาบาเลต้า (5), นิโกลัส โอตาเมนดี้ (6), แว็งซ็องต์ ก็องปานี (5), กาแอล กลิชี่ (5) - แฟร์นานโด (5), เฟร์นานดินโญ่ (6) - เฆซุส นาบาส (5), ดาบิด ซิลบา (5), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (4) - เซร์คิโอ อเกวโร่ (7)

    สำรองที่ลงสนาม : วิลฟรีด โบนี่ น.46, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น.55, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ น.74

        แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : อดัม ลัลลาน่า (ลิเวอร์พูล)